Online social networks are rapidly

Online social networks are rapidly changing the way human beings interact. Over a billion people belong to Facebook, the world's largest online social network, and over half of them log in daily [1]. Yet, no research has examined how interacting with Facebook influences subjective well-being over time. Indeed, a recent article that examined every peer-reviewed publication and conference proceeding on Facebook between 1/2005 and 1/2012 (412 in total) did not reveal a single study that examined how using this technology influences subjective well-being over time (Text S1) [2].

Subjective well-being is one of the most highly studied variables in the behavioral sciences. Although significant in its own right, it also predicts a range of consequential benefits including enhanced health and longevity [3]–[5]. Given the frequency of Facebook usage, identifying how interacting with this technology influences subjective well-being represents a basic research challenge that has important practical implications.

This issue is particularly vexing because prior research provides mixed clues about how Facebook use should influence subjective well-being. Whereas some cross-sectional research reveals positive associations between online social network use (in particular Facebook) and well-being [6], other work reveals the opposite [7], [8]. Still other work suggests that the relationship between Facebook use and well-being may be more nuanced and potentially influenced by multiple factors including number of Facebook friends, perceived supportiveness of one's online network, depressive symptomatology, loneliness, and self-esteem [9], [10], [11].

So, how does Facebook usage influence subjective well-being over time? The cross-sectional approach used in previous studies makes it impossible to know. We addressed this issue by using experience-sampling, the most reliable method for measuring in-vivo behavior and psychological experience over time [12]. We text-messaged participants five times per day for 14-days. Each text-message contained a link to an online survey, which participants completed using their smartphones. We performed lagged analyses on participants' responses, as well as their answers to the Satisfaction With Life Questionnaire (SWLS) [13], which they completed before and immediately following the 14-day experience-sampling period, to examine how interacting with Facebook influences the two components of subjective well-being: how people feel (“affective” well-being) and how satisfied they are with their lives (“cognitive” well-being) [14], [15]. This approach allowed us to take advantage of the relative timing of participants' natural Facebook behavior and psychological states to draw inferences about their likely causal sequence [16]–[19].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างรวดเร็วจะเปลี่ยนแปลงวิธีมนุษย์ทำงาน กว่าพันล้านคนเป็นสมาชิกของ Facebook โลกที่ใหญ่ที่สุดออนไลน์เครือข่ายสังคม และกว่าครึ่งของพวกเขาเข้าสู่ระบบทุกวัน [1] ยัง วิจัยไม่ได้ตรวจสอบวิธีโต้ตอบกับ Facebook มีผลต่อตามอัตวิสัยที่ช่วงเวลา แน่นอน บทความล่าสุดที่ตรวจสอบทุกพิมพ์เพียร์-ทบทวนและประชุมดำเนินการต่อใน Facebook ระหว่าง 1/2548 และ 1/2012 (412 รวม) ไม่เปิดเผยการศึกษาเดียวที่ตรวจสอบการใช้เทคโนโลยีนี้มีผลต่อตามอัตวิสัยที่เวลา (ข้อความ S1) [2]ตามอัตวิสัยเป็นหนึ่งในตัวแปร studied สูงสุดด้านวิทยาศาสตร์พฤติกรรม แม้ว่าตนเองสำคัญ มันยังทำนายมีประโยชน์ต่อสุขภาพเพิ่มขึ้นและลักษณะ [3] – [5] กำหนดความถี่ของการใช้ Facebook ระบุวิธีการโต้ตอบ ด้วยเทคโนโลยีนี้มีผลต่อตามอัตวิสัยแสดงถึงความท้าทายงานวิจัยพื้นฐานที่มีนัยสำคัญทางปฏิบัติปัญหานี้คือ vexing โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากงานวิจัยก่อนหน้านี้แสดงปมผสมเกี่ยวกับวิธีใช้ Facebook ควรมีผลตามอัตวิสัย งานอื่น ๆ เผยตรงข้ามในขณะที่งานวิจัยเหลวบางเผยให้เห็นถึงความสัมพันธ์ในเชิงบวกระหว่างใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ (ใน Facebook โดยเฉพาะ) และความเป็น [6], [7], [8] ยัง ทำงานอื่น ๆ แนะนำว่า ความสัมพันธ์ระหว่างการใช้งาน Facebook และอาจมีขึ้นฉับ และอาจได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัยรวมถึงจำนวนของเพื่อน ๆ ใน Facebook มองเห็น supportiveness ของของเครือข่ายออนไลน์ depressive symptomatology ความเหงา ความกระตือรือล้น และ [9], [10], [11]ดังนั้น อย่างไร? Facebook ใช้อิทธิพลตามอัตวิสัยที่ช่วงเวลา วิธีเหลวที่ใช้ในการศึกษาก่อนหน้านี้ทำให้ไม่สามารถรู้ได้ เราระบุปัญหานี้ โดยใช้ประสบการณ์ตัวอย่าง วิธีการเชื่อถือได้มากที่สุดสำหรับวัดพฤติกรรมใน vivo และประสบการณ์จิตใจช่วงเวลา [12] เราร่วม messaged ข้อห้าครั้งต่อวัน 14 วัน ข้อความแต่ละข้อความประกอบด้วยการเชื่อมโยงไปยังแบบสำรวจออนไลน์ คนที่ใช้สมาร์ทโฟนของตนเสร็จสมบูรณ์ เราทำ lagged วิเคราะห์บนคำตอบของผู้เข้าร่วม เป็นคำตอบของพวกเขาไปความพึงพอใจกับชีวิตแบบสอบถาม (SWLS) [13], ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ก่อน และทันที หลังรอบระยะเวลาการสุ่มตัวอย่างประสบการณ์ 14 วัน ตรวจสอบวิธีโต้ตอบกับ Facebook มีผลต่อส่วนประกอบของตามอัตวิสัยสอง: วิธีคนรู้สึก ("ผล" เป็นอยู่) และพอว่าพวกเขามีชีวิต ("รับรู้" ความเป็น) [14], [15] วิธีการนี้ทำให้เราใช้ประโยชน์จากเวลาญาติของผู้เข้าร่วม Facebook ธรรมชาติพฤติกรรมและจิตวิทยาอเมริกาวาด inferences เกี่ยวกับลำดับสาเหตุของแนวโน้ม [16] - [19]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ววิธีที่มนุษย์มีปฏิสัมพันธ์ กว่าพันล้านคนอยู่ใน Facebook, เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและกว่าครึ่งหนึ่งของพวกเขาเข้าสู่ระบบทุกวัน [1] แต่การวิจัยไม่ได้ตรวจสอบว่ามีปฏิสัมพันธ์กับ Facebook ที่มีอิทธิพลต่ออัตนัยเป็นอยู่ที่ดีในช่วงเวลา อันที่จริงบทความล่าสุดที่ตรวจสอบทุก peer-reviewed สิ่งพิมพ์และการดำเนินการประชุมใน Facebook ระหว่าง 1/2005 และ 1/2012 (412 ทั้งหมด) ไม่ได้เปิดเผยการศึกษาเดียวที่ตรวจสอบวิธีการใช้อิทธิพลของเทคโนโลยีนี้อัตนัยเป็นอยู่ที่ดีในช่วงเวลา ( ข้อความ S1) [2]. อัตนัยเป็นอยู่ที่ดีเป็นหนึ่งในตัวแปรที่ศึกษามากที่สุดสูงในพฤติกรรมศาสตร์ แม้ว่าจะมีความสำคัญในสิทธิของตนเองก็ยังคาดการณ์ว่าในช่วงของผลประโยชน์ที่เป็นผลสืบเนื่องรวมทั้งการปรับปรุงสุขภาพและอายุยืน [3] - [5] ที่กำหนดความถี่ในการใช้งาน Facebook, ระบุว่าการมีปฏิสัมพันธ์กับอิทธิพลของเทคโนโลยีนี้อัตนัยเป็นอยู่ที่ดีเป็นความท้าทายการวิจัยขั้นพื้นฐานที่มีความหมายในทางปฏิบัติที่สำคัญ. ปัญหานี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รบกวนเพราะการวิจัยก่อนที่จะให้เบาะแสเกี่ยวกับวิธีการผสมใช้ Facebook ควรมีอิทธิพลต่ออัตนัยเป็นอยู่ที่ดี . ในขณะที่มีการวิจัยแบบตัดขวางแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Facebook โดยเฉพาะ) และความเป็นอยู่ [6], งานอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นตรงข้าม [7] [8] ยังงานอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ Facebook และเป็นอยู่ที่ดีอาจจะเป็นที่เหมาะสมยิ่งขึ้นและมีอิทธิพลที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายอย่างรวมทั้งจำนวนของเพื่อนใน Facebook รับรู้เอื้อต่อของเครือข่ายออนไลน์ที่หนึ่งของอาการซึมเศร้าเหงาและความนับถือตนเอง [9] [10] [11]. ดังนั้นวิธีการที่ไม่อิทธิพลการใช้งาน Facebook อัตนัยเป็นอยู่ที่ดีในช่วงเวลา? วิธีการตัดที่ใช้ในการศึกษาก่อนหน้านี้ที่ทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ว่า เรากล่าวถึงประเด็นนี้โดยใช้ประสบการณ์การสุ่มตัวอย่างวิธีการที่เชื่อถือได้มากที่สุดสำหรับการวัดในร่างกายพฤติกรรมและประสบการณ์ทางด้านจิตใจเมื่อเวลาผ่านไป [12] เราเข้าร่วมข้อความ messaged ห้าครั้งต่อวันเป็นเวลา 14 วัน แต่ละข้อความข้อความที่มีการเชื่อมโยงไปสำรวจออนไลน์ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมแล้วเสร็จโดยใช้มาร์ทโฟนของพวกเขา เราดำเนินการวิเคราะห์ความล่าช้าในการตอบสนองของผู้เข้าร่วมเช่นเดียวกับคำตอบของพวกเขาเพื่อความพึงพอใจกับชีวิตแบบสอบถาม (SWLS) [13] ซึ่งพวกเขาเสร็จสิ้นก่อนและทันทีที่ดังต่อไปนี้ระยะเวลาประสบการณ์การสุ่มตัวอย่าง 14 วันเพื่อตรวจสอบว่ามีปฏิสัมพันธ์กับอิทธิพล Facebook ทั้งสองส่วนของอัตนัยเป็นอยู่ที่ดี: วิธีคนรู้สึก ("อารมณ์" ความเป็นอยู่) และวิธีการที่พวกเขามีความพึงพอใจกับชีวิตของพวกเขา ("องค์ความรู้" ความเป็นอยู่) [14], [15] วิธีการนี้จะช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่ญาติของผู้เข้าร่วมพฤติกรรม Facebook ธรรมชาติและรัฐทางจิตวิทยาที่จะวาดข้อสรุปเกี่ยวกับลำดับสาเหตุของพวกเขามีแนวโน้มที่ [16] - [19]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เครือข่ายทางสังคมออนไลน์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทางมนุษย์โต้ตอบ กว่าล้านคนเป็นสมาชิกของ Facebook , เครือข่ายทางสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก และกว่าครึ่งหนึ่งของพวกเขาเข้าสู่ระบบทุกวัน [ 1 ] ยังไม่มีการวิจัยได้ตรวจสอบวิธีการโต้ตอบกับ Facebook อิทธิพลความอยู่ดีมีสุขตลอดเวลา แน่นอนบทความล่าสุดที่ตรวจสอบทุกพิมพ์และการประชุมดังกล่าวดำเนินการใน Facebook ระหว่าง 1 / 2548 และ 1 / 2555 ( 412 ในทั้งหมด ) ไม่ได้เปิดเผยการศึกษาเดียวที่ตรวจสอบวิธีการที่ใช้เทคโนโลยีนี้อิทธิพลความอยู่ดีมีสุขตลอดเวลา ( ข้อความ S1 ) [ 2 ] .

ความสุขเชิงอัตวิสัย เป็นหนึ่งในตัวแปรที่ใช้ศึกษาสูงที่สุดใน วิทยาศาสตร์ทางพฤติกรรมแม้ว่าที่สำคัญในสิทธิของตนเอง นอกจากนี้ยังคาดการณ์ช่วงของประโยชน์ต่อสุขภาพและอายุยืน รวมทั้งเพิ่ม [ 3 ] - [ 5 ] ระบุความถี่ของการใช้ Facebook ระบุว่ามีปฏิสัมพันธ์กับเทคโนโลยีนี้มีผลกับความอยู่ดีมีสุขหมายถึงการวิจัยพื้นฐานท้าทายที่มีผลกระทบจริง

ที่สำคัญ .ปัญหานี้น่ารำคาญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะวิจัยให้เบาะแสเกี่ยวกับวิธีการที่ Facebook ใช้ผสมควรมีอิทธิพลต่อความอยู่ดีมีสุข . ในขณะที่บางวิจัยภาคตัดขวางแสดงสมาคมบวกระหว่างการใช้เครือข่ายทางสังคมออนไลน์ ( โดยเฉพาะ Facebook ) และความเป็นอยู่ [ 6 ] , งานอื่น ๆพบตรงข้าม [ 7 ] , [ 8 ]ยังมีงานอื่น ๆแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ Facebook และความเป็นอยู่อาจจะมากขึ้นเหมาะสมและได้รับอิทธิพลที่อาจเกิดขึ้นโดยหลายปัจจัยรวมถึงจำนวนเพื่อนในเฟซบุ๊ก การรับรู้ supportiveness หนึ่งของเครือข่ายออนไลน์ โรคซึมเศร้าอาการซึมเศร้า ความเหงา และการเห็นคุณค่าในตนเอง [ 9 ] , [ 10 ] [ 11 ] .

ยังไงบ้าง Facebook การใช้อิทธิพล ความอยู่ดีมีสุขตลอดเวลาในการศึกษาแบบภาคตัดขวางใช้ในการศึกษาก่อนหน้านี้ที่ทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ เราแก้ไขปัญหานี้โดยการใช้ตัวอย่างประสบการณ์ วิธีการที่เชื่อถือได้มากที่สุดเพื่อวัดพฤติกรรมและประสบการณ์ทางจิตมากกว่าปี 2544 เวลา [ 12 ] เราข้อความ messaged เข้าร่วมห้าครั้งต่อวัน เป็นเวลา 14 วัน แต่ละข้อความที่มีการเชื่อมโยงเพื่อการสำรวจออนไลน์ซึ่งผู้ผ่านการใช้มาร์ทโฟนของพวกเขา เราทำการวิเคราะห์การตอบสนองของผู้ล้าหลัง รวมทั้งคำตอบของพวกเขาเพื่อความพึงพอใจด้วยแบบสอบถามชีวิต ( swls ) [ 13 ] ซึ่งจะเสร็จก่อนและทันที หลัง 14 วัน ระยะเวลาและประสบการณ์ เพื่อตรวจสอบว่ามีปฏิสัมพันธ์กับ Facebook ที่มีสององค์ประกอบของความอยู่ดีมีสุข :วิธีการที่คนรู้สึก " สุขจิต " ) และวิธีการที่พวกเขากำลังพอใจกับชีวิต ( " ปัญญา " อยู่ดีกินดี ) [ 14 ] [ 15 ] วิธีนี้ช่วยให้เราใช้ประโยชน์จากเวลาที่ญาติของผู้เข้าร่วม ' พฤติกรรม Facebook ธรรมชาติและสภาวะทางจิตวิทยาการวาดข้อสรุปเกี่ยวกับสาเหตุของพวกเขาอาจลำดับ [ 16 ] - [ 19 ]