The period from 387 to 361 BC The m

The period from 387 to 361 BC The major difference between these texts and his earlier works is that he tends toward grander metaphysical themes and begins to establish his own voice in philosophy. Socrates still has a presence, however, sometimes as a fictional character. In the Meno for example Plato writes of the Socratic idea that no one knowingly does wrong, and adds the new doctrine of recollection questioning whether virtue can be taught. In the Phaedo we are introduced to the Platonic doctrine of the Forms, in which Plato makes claims as to the immortality of the human soul. The middle dialogues also reveal Plato's method of hypothesis.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระยะจาก 387 การ 361 BC ความแตกต่างสำคัญระหว่างข้อความเหล่านี้และผลงานก่อนหน้าของเขาคือ เขามีแนวโน้มไปทาง grander ชุดรูปแบบที่ขัดแย้ง และเริ่มสร้างเสียงของตัวเองในปรัชญา โสกราตีสยังคงมีสถานะ อย่างไรก็ตาม บางครั้งเป็นตัวอักษรสมมติ ในเมโนใน ตัวอย่างเพลโตเขียนของ Socratic คิดว่า ไม่มีเจตนาผิด และเพิ่มคำสอนใหม่ของเลือนสงสัยว่า คุณธรรมสามารถสอน ใน Phaedo เราจะนำไปสอน Platonic แบบฟอร์ม เพลโตทำให้เรียกร้องเพื่อความเป็นอมตะของจิตวิญญาณมนุษย์ ประเด็นกลางยังเปิดเผยวิธีการสมมติฐานของเพลโต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระยะเวลา 387-361 ปีก่อนคริสตกาลความแตกต่างที่สำคัญระหว่างข้อความเหล่านี้และผลงานก่อนหน้านี้ของเขาก็คือเขามีแนวโน้มไปทางรูปแบบเลื่อนลอยยิ่งใหญ่และเริ่มที่จะสร้างเสียงของตัวเองในปรัชญา โสกราตีสยังมีการแสดงตน แต่บางครั้งก็เป็นตัวละครสมมติ ใน Meno เช่นเพลโตเขียนความคิดของโสกราตีสที่ไม่มีใครรู้เท่าทันไม่ผิดและเพิ่มความเชื่อใหม่ของการซักถามความทรงจำว่าอาศัยอำนาจตามความสามารถสอน ในเฟโดเราจะแนะนำให้รู้จักกับหลักคำสอนสงบรูปแบบซึ่งในเพลโตทำให้การเรียกร้องที่จะเป็นอมตะของจิตวิญญาณมนุษย์ บทสนทนากลางนอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงวิธีการของเพลโตสมมติฐาน