AbstractBackground: The effect of f

Abstract
Background: The effect of flux membranes on mortality in hemodialysis (HD) patients is controversial. Residual renal
function (RRF) has shown to not only be as a predictor of mortality but also a contributor to b2-microglobulin clearance in
HD patients. Our study aimed to determine the interaction of residual renal function with dialyzer membrane flux on
mortality in HD patients.
Methods: HD Patients were included from the Clinical Research Center registry for End Stage Renal Disease, a prospective
observational cohort study in Korea. Cox proportional hazards regression models were used to study the association
between use of high-flux dialysis membranes and all-cause mortality with RRF and without RRF. The primary outcome was
all-cause mortality.
Results: This study included 893 patients with 24 h-residual urine volume $100 ml (569 and 324 dialyzed using low-flux
and high-flux dialysis membranes, respectively) and 913 patients with 24 h-residual urine volume ,100 ml (570 and 343
dialyzed using low-flux and high-flux dialysis membranes, respectively). After a median follow-up period of 31 months,
mortality was not significantly different between the high and low-flux groups in patients with 24 h-residual urine volume
$100 ml (HR 0.86, 95% CI, 0.38–1.95, P = 0.723). In patients with 24 h-residual urine volume ,100 ml, HD using high-flux
dialysis membrane was associated with decreased mortality compared to HD using low-flux dialysis membrane in
multivariate analysis (HR 0.40, 95% CI, 0.21–0.78, P = 0.007).
Conclusions: Our data showed that HD using high-flux dialysis membranes had a survival benefit in patients with 24 hresidual
urine volume ,100 ml, but not in patients with 24 h-residual urine volume $100 ml. These findings suggest that
high-flux dialysis rather than low-flux dialysis might be considered in HD patients without RRF.
Citation: Kim HW, Kim S-H, Kim YO, Jin DC, Song HC, et al. (2014) Comparison of the Impact of High-Flux Dialysis on Mortality in Hemodialysis Patients with and
without Residual Renal Function. PLoS ONE 9(6): e97184. doi:10.1371/journal.pone.0097184
Editor: Martin H. de Borst, University Medical Center Groningen and University of Groningen, Netherlands
Received December 29, 2013; Accepted April 16, 2014; Published June 6, 2014
Copyright:
2014 Kim et al. This is an open-access article distributed under the terms of the Creative Commons Attribution License, which permits unrestricted
use, distribution, and reproduction in any medium, provided the original author and source are credited.
Funding: This work was supported by a grant of the Korea Healthcare Technology R & D Project, Ministry of Health and Welfare, Republic of Korea (HI10C2020).
The funders had no role in study design, data collection and analysis, decision to publish, or preparation of the manuscript.
Competing Interests: The authors have declared that no competing interests exist.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อพื้นหลัง: ผลของเยื่อหุ้มฟลักซ์ในอัตราการตายในผู้ป่วยไตเทียม (HD) เป็นที่ถกเถียงกัน ไตส่วนที่เหลือฟังก์ชัน (RRF) ได้แสดงที่ไม่เพียงแต่ จะเป็นการทำนายของตาย แต่ผู้สนับสนุนไปเคลียร์ b2 microglobulin ในผู้ป่วย HD ศึกษาของเรามีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบการโต้ตอบของการทำงานของไตที่เหลือกับฟลักซ์ของเมมเบรน dialyzer ที่จะบนอัตราการตายในผู้ป่วย HDวิธีการ: ผู้ป่วย HD ถูกรวมจากรีจิสทรีศูนย์วิจัยทางคลินิกสำหรับการสิ้นสุดระยะโรคไต ในอนาคตการศึกษาตามแผนเชิงในเกาหลี ใช้รุ่นค็อกซ์สัดส่วนอันตรายถดถอยเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างใช้เยื่อหุ้มฟลักซ์สูงไตและอัตราการตายทุกสาเหตุ มี RRF และไม่ มี RRF ส่งผลให้หลักอัตราการตายทุกสาเหตุผลลัพธ์: การศึกษานี้รวม 893 ผู้ป่วย 24 ชม.เหลือปัสสาวะปริมาตร 100 มิลลิลิตร (569 และ 324 dialyzed ใช้ฟลักซ์ต่ำและเยื่อ หุ้มฟลักซ์สูงไต ตามลำดับ) และ 913 ผู้ป่วย มีปริมาณปัสสาวะเหลือ h 24, 100 มล. (570 และ 343dialyzed โดยใช้เยื่อหุ้มไตต่ำฟลักซ์ และ ฟลักซ์สูง ตามลำดับ) หลังจากระยะเวลาติดตามผลเฉลี่ยเดือน 31อัตราการตายไม่แตกต่างระหว่างกลุ่มสูง และต่ำไหลในผู้ป่วยที่มีปริมาณปัสสาวะเหลือ h 24100 ml (HR 0.86, 95% CI, 0.38 – 1.95, P = 0.723) ในผู้ป่วยที่มีปริมาณปัสสาวะเหลือ h 24, 100 ml, HD ใช้ฟลักซ์สูงเยื่อหุ้มไตถูกเชื่อมโยงกับอัตราการตายลดลงเมื่อเทียบกับ HD ใช้ฟลักซ์ต่ำไตเยื่อในการวิเคราะห์ตัวแปรพหุ (HR 0.40, 95% CI, 0.21 – 0.78, P = 0.007)สรุป: ข้อมูลของเราแสดงให้เห็นว่า HD ใช้เยื่อหุ้มฟลักซ์สูงไตมีอยู่รอดมีประโยชน์ในผู้ป่วย 24 hresidualปริมาณปัสสาวะ 100 มล. แต่ผู้ป่วยไม่อยู่ใน 24 ชม.เหลือปัสสาวะปริมาตร 100 มิลลิลิตร ค้นพบเหล่านี้แนะนำให้ฟลักซ์สูงฟอกเลือดแทนไตไหลต่ำอาจได้รับการพิจารณาในผู้ป่วย HD โดย RRFอ้างอิง: คิม HW คิม S-H คิมโย DC จิน เพลง HC, et al. (2014) เปรียบเทียบผลกระทบของไตฟลักซ์สูงในอัตราการตายในผู้ป่วยที่ฟอกเลือด และโดยไม่เหลือไต PLoS หนึ่ง 9(6): e97184 doi:10.1371/journal.pone.0097184บรรณาธิการ: มาร์ติน H. de Borst มหาวิทยาลัยแพทย์ศูนย์โกรนิงเกน และมหาวิทยาลัยโกรนิงเกน เนเธอร์แลนด์29 ธันวาคม 2013 ได้รับ 16 เมษายน 2014 การยอมรับ เผยแพร่ 6 มิถุนายน 2014ลิขสิทธิ์: 2014 Kim et al บทความเปิดเข้าถึงกระจายภายใต้เงื่อนไขของการสร้างสรรค์คอมมอนส์มาอนุญาต ซึ่งไม่จำกัดใบอนุญาตใช้ การกระจาย และทำซ้ำในสื่อใด ๆ ให้เครดิตผู้เขียนและแหล่งต้นฉบับเงินทุน: งานนี้ได้รับการสนับสนุน โดยทุนของเกาหลีดูแลสุขภาพเทคโนโลยี R & D โครงการ กระทรวงสาธารณสุข และ สวัสดิการ สาธารณรัฐเกาหลี (HI10C2020)ชนะที่มีบทบาท ในการศึกษาออก รวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ ตัดสินใจที่จะเผยแพร่ การเตรียมต้นฉบับสนใจแข่งขัน: ผู้เขียนได้ประกาศว่า ไม่สนใจคู่แข่งที่มีอยู่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
พื้นหลัง: ผลกระทบของเยื่อหุ้มฟลักซ์ในอัตราการตายในการฟอกเลือด (HD) ผู้ป่วยที่มีการโต้เถียง ที่เหลือไต
ฟังก์ชั่น (RRF) ได้แสดงให้เห็นว่าไม่เพียง แต่จะเป็นปัจจัยบ่งชี้ของการตาย แต่ยังมีส่วนร่วมกับการกวาดล้าง B2-ไมโครในที่
ผู้ป่วย HD การศึกษาของเรามีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปฏิสัมพันธ์ของการทำงานของไตที่เหลือด้วยเมมเบรน dialyzer ฟลักซ์ใน
การเสียชีวิตในผู้ป่วย HD
วิธีการศึกษา: ผู้ป่วย HD ได้รวมจากคลินิกรีจิสทรีศูนย์วิจัยเพื่อสิ้นสุดขั้นตอนการทำงานของไตโรคเป็นที่คาดหวัง
ศึกษาเชิงสังเกตการศึกษาในประเทศเกาหลี ค็อกซ์อันตรายสัดส่วนรุ่นถดถอยถูกนำมาใช้ในการศึกษาความสัมพันธ์
ระหว่างการใช้เยื่อฟอกเลือดสูงและฟลักซ์ทุกสาเหตุการตายด้วย RRF และไม่มี RRF ผลหลักคือ
ทุกสาเหตุการตาย
ผล: การศึกษาครั้งนี้รวมถึงผู้ป่วย 893 มีปริมาณปัสสาวะ 24 H-เหลือ $ 100 มล. (569 และ 324 dialyzed ใช้ต่ำฟลักซ์
สูงและไหลเยื่อฟอกไตตามลำดับ) และผู้ป่วย 913 มีปริมาณปัสสาวะ 24 H-เหลือ 100 มล. (570 และ 343
dialyzed ใช้ฟลักซ์ต่ำและสูงฟลักซ์เยื่อฟอกไตตามลำดับ) หลังจากที่มีการแบ่งระยะเวลาการติดตามของวันที่ 31 เดือน
อัตราการตายไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างกลุ่มสูงและต่ำไหลในผู้ป่วยที่มีปริมาณปัสสาวะ 24 H-เหลือ
$ 100 มล. (HR 0.86, 95% CI, 0.38-1.95, P = 0.723 ) ในผู้ป่วยที่มีปริมาณปัสสาวะ 24 H-เหลือ 100 มล., HD ด้วยฟลักซ์สูง
เยื่อฟอกไตมีความสัมพันธ์กับอัตราการเสียชีวิตลดลงเมื่อเทียบกับ HD ด้วยเมมเบรนฟอกเลือดต่ำฟลักซ์ใน
การวิเคราะห์หลายตัวแปร (HR 0.40, 95% CI, 0.21-0.78, p = 0.007)
สรุปข้อมูลของเราแสดงให้เห็นว่า HD ด้วยเยื่อฟอกเลือดสูงฟลักซ์ได้ประโยชน์อยู่รอดในผู้ป่วย 24 hresidual
ปริมาณปัสสาวะ 100 มล. แต่ไม่ได้อยู่ในผู้ป่วยที่มีปริมาณปัสสาวะ 24 H-เหลือ $ 100 มล. การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่า
การฟอกเลือดสูงฟลักซ์มากกว่าการฟอกเลือดต่ำฟลักซ์อาจได้รับการพิจารณาในผู้ป่วย HD โดยไม่ต้อง RRF
อ้างอิง: คิมดับเบิลยู, คิม SH, YO คิมจินซีเพลง HC, et al (2014) เปรียบเทียบผลกระทบของฟลักซ์สูงฟอกไตต่อการตายในผู้ป่วยไตเทียมและ
โดยไม่ต้องทำงานของไตที่เหลือ PLoS ONE 9 (6): e97184 ดอย: 10.1371 / journal.pone.0097184
บรรณาธิการ: มาร์ตินเดอเอช Borst, ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยโกรนิงและ University of Groningen, เนเธอร์แลนด์
ได้รับ 29 ธันวาคม 2013; ได้รับการยืนยัน 16 เมษายน 2014; ตีพิมพ์ 6 มิถุนายน 2014
ลิขสิทธิ์: 2014 คิม, et al นี้เป็นบทความเปิดการเข้าถึงการกระจายภายใต้เงื่อนไขของสัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ซึ่งอนุญาตให้ไม่ จำกัด
การใช้งาน, การกระจายและการสืบพันธุ์ในสื่อใด ๆ ให้ผู้เขียนต้นฉบับและแหล่งที่มาจะให้เครดิต
เงินทุน: งานนี้ได้รับการสนับสนุนโดยทุนของเทคโนโลยี R & D โครงการเกาหลีดูแลสุขภาพกระทรวงสาธารณสุขสวัสดิการและสาธารณรัฐเกาหลี (HI10C2020)
เงินทุนมีบทบาทในการออกแบบการศึกษาการเก็บรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์การตัดสินใจที่จะเผยแพร่หรือการจัดทำต้นฉบับไม่มี
การแข่งขันความสนใจ: ผู้เขียนได้ประกาศว่าไม่มีความสนใจที่แข่งขันอยู่