Plants belonging to the genus Penni

Plants belonging to the genus Pennisetum have been reported to be resistant to atrazine, a widely used herbicide that also can cause serious pollution of soil and water. To evaluate the enzymatic antioxidant defense mechanism to the oxidative stress of atrazine, experiments focusing on the malondialdehyde (MDA) content and antioxidant enzyme in the leaf and root of Pennisetum americanum (L.) K. Schum (P. americanum) during long-term (68 days) atrazine exposure were carried out. The test plant had not suffered obvious lipid membrane peroxidation, which was further confirmed by the result that the MDA content in the root and the leaf of the test plant did not significantly increase when treated with various concentrations of atrazine. The activity of the well-known antioxidases, such as superoxide dismutase (SOD), ascorbate peroxidase (APX), catalase (CAT) and peroxidase (POD), was increased when the plants were exposed to atrazine, especially at moderate concentrations (20 mg kg− 1 or below). These results revealed that antioxidant enzymes played important roles in protecting P. americanum from the oxidative damage induced by atrazine. The increased and more stable SOD activity in the leaf compared to in the root portion of the plant under increasing atrazine concentrations and increasing exposure time indicated that the leaf exhibited more pronounced superoxide radical scavenging ability than the root. Furthermore, correlation analysis showed that the studied antioxidases were positively correlated with the exposure time, suggesting that the antioxidant defense in P. americanum seedlings might become stronger as the plant matures. In conclusion, the increasing antioxidant enzyme activities enable P. americanum seedlings to cope with the oxidative stress induced by moderate concentrations (20 mg kg− 1 or below) of atrazine.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีการรายงานพืชสกุล Pennisetum จะทนต่อ atrazine สารกำจัดวัชพืชอย่างกว้างขวางที่ยัง สามารถทำให้เกิดมลภาวะร้ายแรงของดินและน้ำ การประเมินกลไกการป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระเอนไซม์การเครียดของ atrazine การทดลองเน้น malondialdehyde (MDA) เนื้อหาและสารต้านอนุมูลอิสระเอนไซม์ในใบและรากของ Pennisetum americanum (L.) เค Schum (P. americanum) ในระยะยาว (68 วัน) atrazine แสงระหว่างดำเนินการ พืชทดสอบเคย peroxidation เมมเบรนไขมันที่เห็นได้ชัด ซึ่งการยืนยันผลว่า เนื้อหา MDA ในรากและใบของพืชทดสอบไม่มีนัยสำคัญเพิ่มเมื่อรักษา ด้วยความเข้มข้นต่าง ๆ ของ atrazine กิจกรรมของ antioxidases ที่รู้จัก เช่นซูเปอร์ออกไซด์ dismutase (SOD), ฮอส ascorbate (APX), คา (CAT) และฮอส (POD), เพิ่มขึ้นเมื่อพืชถูกสัมผัส atrazine โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ความเข้มข้นปานกลาง (kg− 20 มก. 1 หรือด้านล่าง) ผลลัพธ์เหล่านี้เปิดเผยว่า สารต้านอนุมูลอิสระเอนไซม์มีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคที่เกิดจาก atrazine P. americanum กิจกรรมสดเพิ่มขึ้น และมีเสถียรภาพมากในใบเทียบกับในส่วนรากของพืชภายใต้ atrazine ความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้น และเพิ่มเวลารับแสงระบุว่า ใบแสดงเด่นชัดมากขึ้นซูเปอร์ออกไซด์สามารถ scavenging รุนแรงกว่าราก นอกจากนี้ การวิเคราะห์ความสัมพันธ์พบว่า antioxidases ศึกษามีความสัมพันธ์เชิงบวกกับเวลาเปิดรับแสง แนะนำว่า การป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระใน P. americanum ต้นกล้าอาจแข็งเป็นพืชโต ในบทสรุป กิจกรรมของเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นเปิด P. americanum ต้นกล้าเพื่อรับมือกับความเครียดออกซิเดชันที่เกิดจากความเข้มข้นปานกลาง (kg− 20 มก. 1 หรือด้านล่าง) ของ atrazine

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พืชที่อยู่ในสกุล Pennisetum ได้รับรายงานว่าจะมีความต้านทานต่ออาทราซีน, สารกำจัดวัชพืชที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่ยังสามารถก่อให้เกิดมลพิษร้ายแรงของดินและน้ำ เพื่อประเมินกลไกการป้องกันเอนไซม์สารต้านอนุมูลอิสระกับความเครียดออกซิเดชันของอาทราซีนทดลองมุ่งเน้นไปที่ Malondialdehyde นี้ (MDA) เนื้อหาและเอนไซม์สารต้านอนุมูลอิสระในใบและรากของ Pennisetum americanum ( L. ) K. Schum ( P. americanum) ในช่วงระยะยาว (68 วัน) การเปิดรับแสงอาทราซีนได้ดำเนินการ พืชทดสอบไม่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเห็นได้ชัด peroxidation เยื่อไขมันซึ่งได้รับการยืนยันต่อไปโดยผลที่ได้ว่าเนื้อหาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือรากและใบของพืชทดสอบไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อได้รับการรักษาที่มีความเข้มข้นต่างๆของอาทราซีน กิจกรรมของ antioxidases ที่รู้จักกันดีเช่น superoxide dismutase (SOD) ascorbate peroxidase (APX) ที่ catalase (กสท.) และ peroxidase (POD) เพิ่มขึ้นเมื่อพืชได้สัมผัสกับอาทราซีนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ระดับความเข้มข้นในระดับปานกลาง (20 mg kg- 1 หรือด้านล่าง) ผลลัพธ์เหล่านี้เผยให้เห็นว่าเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระที่มีบทบาทสำคัญในการปกป้องพี americanum ความเสียหายจากอนุมูลอิสระที่เกิดจากอาทราซีน กิจกรรม SOD ที่เพิ่มขึ้นและมีเสถียรภาพมากขึ้นในใบเมื่อเทียบกับในส่วนรากของพืชที่อยู่ภายใต้การเพิ่มความเข้มข้นของอาทราซีนและเพิ่มเวลาที่ได้รับแสดงให้เห็นว่าใบแสดงความสามารถในการขับที่รุนแรงเด่นชัดมากขึ้นกว่า superoxide ราก นอกจากนี้การวิเคราะห์ความสัมพันธ์พบว่า antioxidases ศึกษามีความสัมพันธ์เชิงบวกกับเวลาที่ได้รับบอกว่าการป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระในพี americanum ต้นกล้าอาจจะกลายเป็นที่แข็งแกร่งเป็นพืชครบกำหนดไถ่ถอน สรุปได้ว่าการเพิ่มการทำงานของเอนไซม์สารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้พี americanum ต้นกล้าที่จะรับมือกับความเครียดออกซิเดชันที่เกิดจากความเข้มข้นในระดับปานกลาง (20 mg kg- 1 หรือด้านล่าง) ของอาทราซีน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พืชที่เป็นของสกุลร์ได้รับการรายงานที่จะทนต่อสารกำจัดวัชพืชอาทราซีน มีการใช้กันอย่างแพร่หลายที่ยังสามารถทำให้เกิดมลพิษร้ายแรงของดินและน้ำ เพื่อศึกษาเอนไซม์สารต้านอนุมูลอิสระกลไกการป้องกันกับความเครียดออกซิเดชันของอะทราซีน การทดลองเน้นมาลอนไดอัลดีไฮด์ ( MDA ) เนื้อหาและเอนไซม์สารต้านอนุมูลอิสระในใบและรากของร์จากการสังเกตอาคาร ( L . ) K . schum ( P . จากการสังเกตอาคาร ) ในช่วงระยะยาว ( 68 ไหมวัน ) สารอะทราซีน พบว่า พืชทดสอบได้ไม่ลำบากที่ชัดเจนของเยื่อพอลิเมอร์ที่ได้ยืนยันเพิ่มเติมโดยผลที่ 2 เนื้อหาในรากและใบของพืชทดสอบไม่เพิ่มขึ้นเมื่อการรักษาที่มีความเข้มข้นต่าง ๆ ของอะทราซีน . กิจกรรมของ antioxidases ที่รู้จักกันดีเช่น Superoxide Dismutase ( SOD ) , ascorbate peroxidase ( APX ) , Catalase ( แมว ) และ peroxidase ( POD ) เพิ่มขึ้น เมื่อพืชได้รับอาทราซีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับความเข้มข้นปานกลาง ( 20 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หรือ 1 −   ด้านล่าง ) ผลลัพธ์เหล่านี้พบว่าสารต้านอนุมูลอิสระเอนไซม์มีบทบาทสำคัญในการปกป้องหน้าจากการสังเกตอาคารจากความเสียหายที่เกิดจากปฏิกิริยาอะทราซีน . เพิ่มกิจกรรมในใบสดมีเสถียรภาพมากขึ้น เมื่อเทียบกับในราก ส่วนของพืชภายใต้เพิ่มอะทราซีนความเข้มข้นและเพิ่มเวลาสัมผัสพบว่า ใบมีออกไซด์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่เด่นชัดมากขึ้นความสามารถมากกว่าราก นอกจากนี้ การวิเคราะห์สหสัมพันธ์พบว่า เรียน antioxidases มีความสัมพันธ์กับเวลาแนะนำว่า การป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระในหน้าจากการสังเกตอาคารต้นกล้าอาจกลายเป็นที่แข็งแกร่งเป็นพืชที่เติบโต . สรุป เพิ่มเอนไซม์ให้พี จากการสังเกตอาคารต้นกล้าเพื่อรับมือกับความเครียดที่เกิดจากปฏิกิริยา ความเข้มข้นปานกลาง ( 20 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หรือ 1 −   ด้านล่าง ) ของอะทราซีน .