Phosphorus uptake efficiency of the

Phosphorus uptake efficiency of the whole plant
(roots and shoots) is presented in Table 4. Phosphorus uptake efficiency was highest at the low
level of soil P and decreased with increasing soil P
levels. This means that, in the classical mode of
plant response to increasing nutrient supply, the
greatest amounts of dry matter produced per unit
of absorbed P were at the lowest level of P supply.
As the concentration of P in the growth medium
was increased, P uptake increased (Table 2), but
less dry matter was produced for each additional
unit of absorbed P. Similar results were obtained by
Fageria (1974) for P uptake efficiency of rice grown
in solution culture. This may be related to P uptake
rate.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประสิทธิภาพการดูดซึมฟอสฟอรัสพืชทั้ง(ราก และหน่อ) แสดงในตารางที่ 4 ประสิทธิภาพการดูดซึมฟอสฟอรัสได้สูงสุดที่ต่ำสุดลดลงกับดิน P ที่เพิ่มขึ้น และระดับของดิน Pระดับ ซึ่งหมายความ ว่า ในโหมดคลาสสิกของพืชตอบสนองต่อการเพิ่มปริมาณสารอาหาร การสุดยอดของแห้งที่ผลิตต่อหน่วยของ P ที่ดูดซึมได้ในระดับต่ำสุดของ P ซัพพลายเป็นความเข้มข้นของ P ในการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น ดูดซึม P เพิ่มขึ้น (ตารางที่ 2), แต่เรื่องน้อยแห้งผลิตสำหรับแต่ละเพิ่มเติมหน่วยผลคล้าย P. ดูดซึมได้รับโดยFageria (1974) มีประสิทธิภาพในการดูดซึม P ของข้าวที่ปลูกในวัฒนธรรมที่โซลูชัน นี้อาจจะเกี่ยวข้องกับการดูดซึม Pอัตรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟอสฟอรัสที่มีประสิทธิภาพการดูดซึมของพืชทั้ง
(รากและยอด) จะนำเสนอในตารางที่ 4 ฟอสฟอรัสที่มีประสิทธิภาพการดูดซึมสูงสุดที่ต่ำ
ระดับของดิน P และลดลงเพิ่มขึ้น P ดิน
ระดับ ซึ่งหมายความว่าในโหมดคลาสสิกของ
การตอบสนองของพืชที่จะเพิ่มปริมาณสารอาหารที่
จำนวนเงินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวัตถุแห้งผลิตต่อหน่วย
ของการดูดซึม P อยู่ในระดับต่ำสุดของอุปทาน P.
ในฐานะที่เป็นความเข้มข้นของ P ในสื่อการเจริญเติบโต
เพิ่มขึ้น, P การดูดซึมเพิ่มขึ้น (ตารางที่ 2) แต่
แห้งน้อยถูกผลิตเพิ่มเติมสำหรับแต่ละ
หน่วยของการดูดซึมผลพีที่คล้ายกันที่ได้จาก
Fageria (1974) ให้มีประสิทธิภาพการดูดซึมของ P ข้าวที่ปลูก
ในวัฒนธรรมการแก้ปัญหา นี้อาจจะเกี่ยวข้องกับการดูดซึม P
อัตรา