The number of motorcyclists present

The number of motorcyclists presenting maxillofacial fractures using helmets in this study was higher than motorcyclists using helmets that sustained facial contusions. As motorcycle crashes are high-energy trauma, it is possible that the impact of the cranium and face during the accident in patients without helmet promote more seriously injury, as immediate death or severe encephalic traumatism.
The incidence of associated body traumatism with maxillofacial fractures can vary widely. This study presented a large number of concomitant traumas in patients that were wearing helmets during the crash. This could be explained by the inexistence of a security device that protects the whole body of motorcyclists. Another factor that can influence this result would be the increase of riders that were using helmets.
Brasileiro and Passeri21 demonstrated a prevalence of
24.1% in upper limbs associated trauma, this data corroborates with this study. Ramli et al.22 affirm that the use of helmet during an accident reduces the incidence of skull injures while the motorcyclist becomes more susceptible to thoracic and orthopedic trauma. Alvi et al.23 disagree with this study, concluding that encephalic trauma is commonly associated with facial trauma ranging from 5.4 to 85%.
Gopalakrishna et al.13 observed that the incidence of mandibular fractures is significantly higher for motorcyclists wearing helmets than for those who do not. The data presented in this study and in the national studies by Maliska et al.24 and Scariot et al.25 agree with this statement. The prominence of the mandible and the dissipation of impact forces along the architectural framework of the middle third can explain this prevalence of fractures. The data collected in this work did not account the deaths, neither the patients

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จำนวนของการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่นำเสนอหักใบหน้าโดยใช้หมวกกันน็อกในการศึกษาครั้งนี้สูงกว่าการขับขี่รถจักรยานยนต์โดยใช้หมวกกันน็อกที่ยั่งยืน contusions ใบหน้า ในขณะที่เกิดปัญหารถจักรยานยนต์บาดเจ็บพลังงานสูงก็เป็นไปได้ว่าผลกระทบของกะโหลกและใบหน้าในระหว่างการเกิดอุบัติเหตุในผู้ป่วยที่ไม่มีหมวกกันน็อกส่งเสริมการบาดเจ็บอย่างจริงจังมากขึ้นในขณะที่ความตายทันทีหรือ traumatism encephalic รุนแรง.
อุบัติการณ์ของ traumatism ร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการเกิดกระดูกหักใบหน้าสามารถ แตกต่างกัน การศึกษาครั้งนี้นำเสนอเป็นจำนวนมากชอกช้ำไปด้วยกันในผู้ป่วยที่ได้รับการสวมใส่หมวกกันน็อกในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งอาจจะอธิบายได้ด้วย inexistence ของอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่ช่วยปกป้องร่างกายจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ ปัจจัยอีกประการหนึ่งที่สามารถมีอิทธิพลต่อผลนี้จะเป็นการเพิ่มขึ้นของผู้ขับขี่ที่ถูกใช้หมวกกันน็อก.
Brasileiro และ Passeri21 แสดงให้เห็นถึงความชุกของ
24.1% ในแขนขาส่วนบนการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องข้อมูลนี้ยืนยันกับการศึกษาครั้งนี้ Ramli al.22 และยืนยันว่าการใช้หมวกกันน็อกในระหว่างการเกิดอุบัติเหตุลดอุบัติการณ์ของกะโหลกศีรษะได้รับบาดเจ็บในขณะที่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์จะกลายเป็นอ่อนแอมากขึ้นเพื่อการบาดเจ็บทรวงอกและกระดูก Alvi และ al.23 ไม่เห็นด้วยกับการศึกษาครั้งนี้สรุปว่าการบาดเจ็บ encephalic มักจะเกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บใบหน้าตั้งแต่ 5.4-85%.
Gopalakrishna al.13 และตั้งข้อสังเกตว่าอุบัติการณ์ของการเกิดกระดูกหักขากรรไกรล่างอย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้นสำหรับการขับขี่รถจักรยานยนต์สวมใส่หมวกกันน็อกกว่าสำหรับผู้ที่ อย่า ข้อมูลที่นำเสนอในการศึกษาครั้งนี้และในการศึกษาของประเทศโดย Maliska และ al.24 และ Scariot และ al.25 เห็นด้วยกับคำสั่งนี้ ความโดดเด่นของขากรรไกรล่างและการกระจายของกองกำลังส่งผลกระทบไปตามกรอบสถาปัตยกรรมของกลางที่สามสามารถอธิบายความชุกของการเกิดกระดูกหักนี้ ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ในงานนี้ไม่ได้บัญชีผู้เสียชีวิตทั้งผู้ป่วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จำนวนของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ใช้หมวกนิรภัยในขากรรไกรหัก นำเสนอการศึกษาสูงกว่ารถจักรยานยนต์ใช้หมวกนิรภัยที่ได้รับบาดเจ็บที่หน้า . เมื่อเกิดปัญหารถจักรยานยนต์แห่งความเป็นไปได้ว่าผลกระทบของกะโหลกและใบหน้าในระหว่างอุบัติเหตุในผู้ป่วยโดยไม่มีหมวกกันน็อคส่งเสริมอย่างจริงจังมากขึ้น บาดเจ็บ ตาย ทันที หรือรุนแรง encephalic traumatism .
การเกี่ยวข้องกับร่างกาย traumatism ขากรรไกรหักแตก การศึกษานี้เสนอเป็นจำนวนมากของผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บในผู้ป่วยที่ใส่หมวกในการชน นี้สามารถอธิบายได้โดย inexistence ของอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่ช่วยปกป้องร่างกายของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ .ปัจจัยอื่นที่สามารถมีอิทธิพลต่อผลลัพธ์นี้จะเป็นเพิ่มของผู้ขับขี่ที่ใช้หมวกกันน๊อค และ passeri21
บราซิลแสดงความชุกของ
ร้อยละ 24.1 ในแขนขาส่วนบนเกี่ยวข้องอุบัติเหตุข้อมูลนี้ HUB กับการศึกษา ราม et al .22 ยืนยันว่าการใช้หมวกนิรภัยระหว่างอุบัติเหตุช่วยลดอุบัติการณ์ของการบาดเจ็บกะโหลกศีรษะในขณะที่ไซจะเสี่ยงต่อการบาดเจ็บทรวงอก และกระดูก al.23 Alvi และไม่เห็นด้วยกับการศึกษานี้สรุปว่าอุบัติเหตุ encephalic โดยทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บที่ใบหน้า ตั้งแต่ 5.4 ถึง 85% .
gopalakrishna et al .13 พบว่าอุบัติการณ์ของขากรรไกรล่างหักจะสูงขึ้นกว่ารถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัย สำหรับบรรดาผู้ที่ไม่ ข้อมูลที่นำเสนอในงานวิจัยนี้ และ ในการศึกษาของประเทศ โดย maliska ET ET และ al.24 scariot al.25 เห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ความสำคัญของขากรรไกรล่างและการกระจายของแรงกระแทกตามกรอบสถาปัตยกรรมของกลางสามสามารถอธิบายความชุกของการหัก ข้อมูลที่รวบรวมได้ในงานนี้ไม่ได้พิจารณาความตาย หรือผู้ป่วย