Why the Strategy WorksThe benefits

Why the Strategy Works
The benefits of student learning partnerships are numerous and compelling.
Among the findings
· Student partnerships improve students’ social interactions (Butler,
1999).
· Student partnerships lead to deeper and more substantive classroom
discussions (Hashey & Connors, 2003).
· Student partnerships increase students’ academic intensity
without adding instructional time (Fuchs, Fuchs, Mathes, & Simmons,
1997).
· Students will spend more time on a task when working with a
partner than they will when working independently (King-Sears &
Bradley, 1995).
· Students who work in peer partnerships make measurable academic
gains and develop more positive attitudes toward subject matter
(King-Sears & Bradley, 1995).
· Student partnerships lead to more productive, more genial classrooms
where students are more self-directed and less dependent on the
teacher (King-Sears & Bradley, 1995).
· When applied to reading, student partnerships enhance decoding
skills, deepen comprehension, and help students learn how to read difficult,
information-rich texts (Hashey & Connors, 2003).
Reciprocal Learning maximizes the learning and retention potential of
student partnerships by asking each student to play two separate
roles. As a player, the student attempts to complete an activity or
solve a problem provided by the teacher. In this role, the student
should try to think out loud—to expose his or her internal thinking
process to the coach while completing the exercise. As a coach, the
student listens to the player and provides encouragement, praise,
feedback, and clues for answering questions when the player gets
stuck. The coach must not provide answers. Rather, coaches should
think of themselves as “thinking coaches” working to help players
think out loud while leading them to the answers. This assumption of
two roles on the part of each student—a player committed to mastering
concepts and skills and a coach committed to shaping the
player’s thinking and increasing the player’s proficiency—results in
two times the learning. It also develops students’ perspective on the
dynamics and behaviors associated with successful learning and
teaching.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทำไมการทำงานของกลยุทธ์ประโยชน์ของความร่วมมือในการเรียนรู้ของนักเรียนเป็นจำนวนมาก และน่าสนใจจากผลการศึกษา· ความร่วมมือนักศึกษาปรับปรุงการโต้ตอบทางสังคมของนักเรียน (คน1999)· ความร่วมมือนักเรียนนำไปเรียนลึก และแน่นมากสนทนา (Hashey & Connors, 2003)· ความร่วมมือของนักเรียนเพิ่มความเข้มทางวิชาการนักเรียนโดยไม่ต้องเพิ่มเวลาสอน (ฟุคส์ ฟุคส์ Mathes และซิ มมอนส์ปี 1997)· นักเรียนจะใช้เวลาในงานเมื่อทำงานกับการคู่ค้ากว่าจะเมื่อทำงานได้อย่างอิสระ (Sears กษัตริย์และBradley, 1995)· นักเรียนที่ทำงานในหุ้นเพียร์ทำวิชาการวัดผลกำไร และพัฒนาเจตคติเรื่องบวกมากขึ้น(Sears คิงและ Bradley, 1995)· ความร่วมมือนักศึกษานำไปสู่ห้องเรียนมากขึ้น มากขึ้น genialนักเรียนเพิ่มเติมด้วยตนเองโดยตรง และน้อยขึ้นอยู่กับการครู (Sears คิงและ Bradley, 1995)· เมื่อใช้กับการอ่าน ความร่วมมือนักศึกษาเพิ่มถอดรหัสทักษะ ความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และช่วยให้นักเรียนเรียนรู้วิธีการอ่านยากข้อความข้อมูลริช (Hashey & Connors, 2003)เรียนรู้กันและวางเรียนรู้และศักยภาพของการทำซ้ำของความร่วมมือของนักเรียน โดยถามนักเรียนการเล่นสองบทบาทการ เป็นผู้เล่น นักเรียนพยายามที่จะทำกิจกรรม หรือแก้ปัญหาโดยครู ในบทบาทนี้ นักเรียนควรลองคิดดัง ๆ ซึ่งการเปิดเผยของเขา หรือเธอคิดภายในprocess to the coach while completing the exercise. As a coach, thestudent listens to the player and provides encouragement, praise,feedback, and clues for answering questions when the player getsstuck. The coach must not provide answers. Rather, coaches shouldthink of themselves as “thinking coaches” working to help playersthink out loud while leading them to the answers. This assumption oftwo roles on the part of each student—a player committed to masteringconcepts and skills and a coach committed to shaping theplayer’s thinking and increasing the player’s proficiency—results intwo times the learning. It also develops students’ perspective on thedynamics and behaviors associated with successful learning andteaching.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทำไมกลยุทธ์การทำงานของ
ประโยชน์ของการเป็นหุ้นส่วนเรียนรู้ของนักเรียนเป็นจำนวนมากและที่น่าสนใจ.
ท่ามกลางการค้นพบ
·ความร่วมมือนักศึกษาปรับปรุงนักเรียนปฏิสัมพันธ์ทางสังคม (บัตเลอร์,
1999).
·ความร่วมมือนักศึกษานำไปสู่ความลึกและห้องเรียนมากขึ้นที่สำคัญ
การอภิปราย (Hashey และคอนเนอร์ 2003) .
·ความร่วมมือนักศึกษาเพิ่มความเข้มทางวิชาการของนักเรียน
โดยไม่ต้องเพิ่มเวลาการเรียนการสอน (Fuchs, Fuchs, Mathes และซิมมอนส์,
1997).
·นักเรียนจะใช้เวลามากขึ้นในงานเมื่อทำงานกับ
พันธมิตรกว่าที่พวกเขาจะทำงานอย่างเป็นอิสระ (เซียร์คิง และ
แบรดลีย์, 1995).
·นักศึกษาที่ทำงานในความร่วมมือทางวิชาการให้เพื่อนที่วัดได้
กำไรและพัฒนาทัศนคติที่ดีขึ้นต่อเรื่อง
(คิงเซียร์และแบรดลีย์, 1995).
·ความร่วมมือนักศึกษานำไปสู่การมีประสิทธิผลมากขึ้นห้องเรียนใจดีมากขึ้น
ที่นักเรียนมีมากขึ้น กำกับตนเองและน้อยขึ้นอยู่กับ
ครู (คิงเซียร์และแบรดลีย์, 1995).
·เมื่อนำไปใช้กับการอ่านการเสริมสร้างความร่วมมือของนักเรียนถอดรหัส
ทักษะความเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้นและช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้วิธีการอ่านยาก
ตำราข้อมูลที่อุดม (Hashey และ คอนเนอร์, 2003).
การเรียนรู้ซึ่งกันและกันเพิ่มการเรียนรู้และการเก็บรักษาที่มีศักยภาพของ
ความร่วมมือของนักเรียนโดยขอให้นักเรียนแต่ละคนในการเล่นสองแยก
บทบาท ในฐานะผู้เล่น, นักเรียนพยายามที่จะเสร็จสิ้นกิจกรรมหรือ
แก้ปัญหาให้โดยครู ในบทบาทนี้นักเรียน
ควรพยายามที่จะคิดออกมาดัง ๆ เพื่อเปิดเผยความคิดภายในของเขาหรือเธอ
กระบวนการโค้ชขณะที่เสร็จสิ้นการออกกำลังกาย ในฐานะที่เป็นโค้ช
ของนักเรียนฟังให้กับผู้เล่นและให้กำลังใจสรรเสริญ
ข้อเสนอแนะและเบาะแสสำหรับการตอบคำถามเมื่อผู้เล่นที่ได้รับการ
ติดอยู่ โค้ชจะต้องไม่ให้คำตอบ แต่โค้ชควรจะ
คิดว่าตัวเองเป็น "โค้ชคิด" การทำงานที่จะช่วยให้ผู้เล่นที่
คิดออกมาดัง ๆ ในขณะที่นำพวกเขาไปตอบ สมมติฐานนี้ของ
สองบทบาทในส่วนของแต่ละนักเรียนเป็นผู้เล่นที่มุ่งมั่นที่จะเรียนรู้
แนวคิดและทักษะและโค้ชมุ่งมั่นที่จะสร้าง
ความคิดของผู้เล่นและผู้เล่นที่เพิ่มขึ้นของผลความสามารถใน
การเรียนรู้ครั้งที่สอง นอกจากนี้ยังได้พัฒนามุมมองของนักเรียนใน
การเปลี่ยนแปลงและพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ที่ประสบความสำเร็จและ
การเรียนการสอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทำไมกลยุทธ์การทำงาน
ประโยชน์ของการเรียนของนักศึกษาสัมพันธ์มากมาย และน่าสนใจ ในการศึกษาด้วย

นักศึกษาสัมพันธ์ปรับปรุงปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของนักเรียน ( พ่อบ้าน
2542 ) .
ด้วยนักเรียนสัมพันธ์นำลึก และสำคัญมากกว่าการอภิปรายในชั้นเรียน
( hashey & Connors 2003 )

ส่วนเพิ่มความเข้มด้วยนักเรียน วิชาการของนักเรียนโดยไม่ต้องเพิ่มเวลาการสอน ( ฟุคส์ ฟุคส์ มาเธส& ซิมมอนส์ , , ,

, 1997 ) ด้วย นักเรียนจะใช้เวลาในงานเมื่อทำงานกับ
พันธมิตร กว่าพวกเขาจะเมื่อทำงานอย่างอิสระ ( King เซียร์&
แบรดลีย์ , 1995 ) .
ด้วยนักเรียนทำงานในความร่วมมือเพื่อนทํากําไร
วัด และวิชาการ พัฒนาทัศนคติเชิงบวกมากขึ้นต่อเรื่อง
( กษัตริย์เซียร์&
แบรดลีย์ , 1995 )ด้วยนักศึกษาสัมพันธ์นำไปสู่ประสิทธิผลมากขึ้นร่าเริงมากกว่าห้องเรียนที่นักเรียนจะมากขึ้นด้วย

และน้อยขึ้นอยู่กับครู ( King เซียร์&แบรดลีย์ , 1995 ) .
ด้วยเมื่อใช้กับการอ่าน , ความร่วมมือของนักเรียนเพิ่มการถอดรหัส
ทักษะความเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้น และช่วยให้นักเรียนเรียนรู้วิธีการอ่านยาก
ข้อความที่อุดมไปด้วยข้อมูล ( hashey &
คอนเนอร์ 2003 )การเรียนรู้และความคงทนในการเรียนรู้ซึ่งกันและกันเพิ่มศักยภาพของนักเรียน โดยให้นักเรียนแต่ละหุ้นส่วน

เล่นคนละบทบาท เป็นผู้เล่น นักเรียนพยายามที่จะเสร็จสมบูรณ์ กิจกรรมหรือ
แก้ปัญหาให้ โดยอาจารย์ ในบทบาทนี้ นักศึกษา
ควรพยายามคิดดังเปิดเผยของเขา หรือเธอ ภายใน คิด
กระบวนการโค้ชในขณะที่เสร็จสิ้นการออกกำลังกายเป็นโค้ช
นักเรียนฟังผู้เล่น และมีกำลังใจ ชื่นชม
ติชม และเบาะแสเพื่อตอบคำถามเมื่อผู้เล่นได้รับ
ติด โค้ชไม่ต้องให้คำตอบ แต่โค้ชควร
คิดว่าตัวเองเป็น " คิดว่าโค้ช " ทำงานเพื่อช่วยให้ผู้เล่น
คิดดังในขณะที่นำพวกเขาไปคำตอบ แค่นี้
สองบทบาทในส่วนของแต่ละ student-a ผู้เล่นมุ่งมั่นที่จะปราบปราม
แนวคิดและทักษะและโค้ชมุ่งมั่นที่จะรูปร่าง
ผู้เล่นคิดและเพิ่มความสามารถในการเล่นใน
2 ครั้ง ในการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังได้พัฒนามุมมองของนักเรียนบน
พลวัตและพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ที่ประสบความสำเร็จและ
สอน