Random sampling requires an institu

Random sampling requires an institution to use only a limited sample. As its name implies, the source from which data are to be drawn is identified randomly using a mathematical theory of probability. It typically requires the use of statisticians in survey design and interpretation. For instance, there are 100 communities in a region and civic education sessions on electoral rights are supposed to be held in each. The institution wants to monitor this to ensure that the education is in fact carried out, and that it is fair and complete. Rather than monitor all civic education sessions in each community, an institution could randomly select 10 communities—for example, by drawing names of communities out of a hat—that it will monitor and draw inferences from those results.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สุ่มตัวอย่างแบบสุ่มต้องการสถาบันที่จะใช้เฉพาะตัวอย่างจำกัด ตามความหมายของชื่อ ต้นทางซึ่งข้อมูลจะถูกดึงถูกกำหนดแบบสุ่มโดยใช้ทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ความน่าเป็น โดยทั่วไปต้องการใช้ statisticians ในการออกแบบสำรวจและตีความ ตัวอย่าง มี 100 ชุมชนในภูมิภาคและเซสชันการศึกษาพลเมืองสิทธิเลือกตั้งควรจะจัดขึ้นในแต่ละ สถาบันที่ต้องการตรวจสอบนี้เพื่อให้แน่ใจว่า การศึกษาในการดำเนินการ และที่เป็นธรรม และสมบูรณ์ แทนที่จะตรวจสอบ รอบเวลาการศึกษาพลเมืองทั้งหมดในแต่ละชุมชน สถาบันการสามารถสุ่มเลือกชุมชน 10 — โดยวาดชื่อชุมชนจากหมวก — ที่จะตรวจสอบ และวาด inferences จากผลลัพธ์ที่ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ต้องใช้การสุ่มตัวอย่างสถาบันการศึกษาที่จะใช้เพียงตัวอย่างที่ จำกัด เป็นชื่อของมันหมายถึงแหล่งที่มาจากการที่ข้อมูลที่จะวาดจะถูกระบุสุ่มโดยใช้ทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ของความน่าจะเป็น มันมักจะต้องใช้สถิติในการออกแบบการสำรวจและการตีความ ยกตัวอย่างเช่นมี 100 ชุมชนในเขตเทศบาลและการศึกษาการประชุมเกี่ยวกับสิทธิการเลือกตั้งควรจะจัดขึ้นในแต่ละ สถาบันการศึกษาต้องการที่จะตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าการศึกษาในความเป็นจริงดำเนินการและที่เป็นธรรมและมีความสมบูรณ์ แทนที่จะตรวจสอบทุกการประชุมการศึกษาของพลเมืองในชุมชนแต่ละสถาบันจะสุ่มเลือก 10 ชุมชนเช่นโดยการวาดภาพชื่อของชุมชนออกจากหมวกว่ามันจะตรวจสอบและวาดข้อสรุปจากผลที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กลุ่มตัวอย่างต้องมีสถาบันที่จะใช้เพียงจำนวนตัวอย่าง เป็นชื่อ implies , แหล่งที่มาจากข้อมูลที่ถูกวาดเป็นระบุสุ่มโดยใช้ทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ของความน่าจะเป็น มันมักจะต้องใช้สถิติในการออกแบบการสำรวจและการตีความ สำหรับอินสแตนซ์มี 100 ชุมชนในภูมิภาคและพลเมืองศึกษาเซสชันในสิทธิการเลือกตั้งควรจะจัดขึ้นในแต่ละ สถาบันต้องการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่า การศึกษา คือ ในความเป็นจริงที่ดำเนินการและที่เป็นธรรมและสมบูรณ์ แทนที่จะตรวจสอบภาคพลเมืองศึกษาในแต่ละชุมชน สถาบันการศึกษา สามารถสุ่มเลือก 10 ชุมชน ตัวอย่างเช่นโดยเขียนชื่อของชุมชนออกมาจากหมวกที่จะตรวจสอบและการวาดข้อสรุปจากผลเหล่านั้น