Chapter 15 : Breathing Room : Addre

Chapter 15 : Breathing Room : Addressing Manmade Air pollution
People first noticed the damage caused by acid rain more than 100 years ago. Folks in the mid-19th century observed that rainfall in heavily polluted cities (such as London during the industrial Revolution ) was dissolving marble and limestone statues. Not until the 1960s did scientists begin to carefully study the sequence chemical reaction that result in acid rain.

By far , the worst ecosystem damage acid rain causes occurs in aquatic and wetland ecosystems. Acid rain creates acidic conditions in lakes,ponds , rivers, and the organisms in these ecosystems just are not adapted to survive in that kind of environment. Acidification, or increasing the acidity (lowering the pH) of an aquatic ecosystem, can kill aquatic organisms such as fish and amphibians as well as interfere with their life cycles.

Normal atmospheric water has a pH of approximately 5.6 because of the natural formation of carbonic acid from atmospheric carbon dioxide gas. Pollutants such as nitrogen oxides and sulfur compounds in the atmosphere create atmospheric water particles that are more acidic than normal with pH values less than 5.
Changing the pH of aquatic ecosystems may also have the side effect of allowing other contaminants (such as metals or toxins) to dissolve into the water and move more freely around the environment.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทที่ 15: ห้องหายใจ: แก้ปัญหาหวั่นมลพิษคนแรกพบความเสียหายที่เกิดจากฝนกรดมากกว่า 100 ปีที่ผ่านมา คนในช่วงกลาง 19 ศตวรรษที่สังเกตว่า ปริมาณน้ำฝนในเมืองเสียมาก (เช่นลอนดอนในระหว่างการปฏิวัติอุตสาหกรรม) ถูกยุบรูปปั้นหินอ่อนและหินปูน จนถึงปี 1960 ได้นักวิทยาศาสตร์เริ่มศึกษาปฏิกิริยาเคมีลำดับที่ทำให้เกิดฝนกรดอย่างระมัดระวังโดยไกล ทำให้เลวระบบนิเวศเสียหายฝนกรดเกิดขึ้นในระบบนิเวศน้ำและพื้นที่ชุ่มน้ำ ฝนกรดสร้างเงื่อนไขเปรี้ยวในทะเลสาบ บ่อ แม่น้ำ และสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศเหล่านี้จะไม่ดัดแปลงเพียงเพื่อความอยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ยู หรือเพิ่มมี (pH ลดลง) ของระบบนิเวศน้ำเป็น สามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตสัตว์น้ำเช่นปลาและสัตว์ ตลอดจนรบกวนวงจรชีวิตของพวกเขาบรรยากาศน้ำมี pH ประมาณ 5.6 เนื่องจากการก่อตัวของกรดคาร์บอนิกจากบรรยากาศคาร์บอนไดออกไซด์ก๊าซธรรมชาติ สารมลพิษไนโตรเจนออกไซด์และสารประกอบกำมะถันในบรรยากาศสร้างอนุภาคน้ำบรรยากาศที่เปรี้ยวมากขึ้นกว่าปกติ มีค่า pH ค่าน้อยกว่า 5การเปลี่ยนแปลง pH ของระบบนิเวศทางน้ำยังอาจมีผลข้างเคียงของสารปนเปื้อนอื่น ๆ (เช่นโลหะหรือสารพิษ) ให้ละลายในน้ำ และย้ายสถานที่สภาพแวดล้อมได้อย่างอิสระมากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทที่ 15 : ห้องการหายใจ : addressing manmade มลพิษทางอากาศ
คนสังเกตเห็นความเสียหายจากฝนกรดเมื่อ 100 กว่าปีมาแล้ว folks ในศตวรรษที่ 19 พบว่าปริมาณน้ำฝนในเมืองที่มีมลพิษมาก เช่น ลอนดอนในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรม ) ถูกละลายหินอ่อนและรูปปั้นหินปูนไม่จนกระทั่ง 1960 ได้นักวิทยาศาสตร์เริ่มระมัดระวังการศึกษาปฏิกิริยาทางเคมีที่เกิดขึ้นในลำดับกรดฝน

โดยไกลที่สุด ระบบนิเวศเสียหาย ฝนกรด สาเหตุที่เกิดขึ้นในน้ำ และพื้นที่ชุ่มน้ำระบบนิเวศวิทยา ฝนกรดจะสร้างเงื่อนไขในทะเลสาบที่เป็นกรด บ่อ แม่น้ำ และสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศเหล่านี้ จะไม่ปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในชนิดของสภาพแวดล้อม เป็น internal standardหรือการเพิ่มความเป็นกรด ( ลด pH ) ของระบบนิเวศทางน้ำ สามารถฆ่าสิ่งมีชีวิต เช่น ปลาและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำรวมทั้งรบกวนวงจรชีวิตของพวกเขา .

ปกติบรรยากาศน้ำมี pH ประมาณ 5.6 เพราะธรรมชาติสร้างกรดคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มลภาวะ เช่น ไนโตรเจนออกไซด์และสารประกอบกำมะถันในบรรยากาศสร้างอนุภาคน้ำบรรยากาศที่เป็นกรดมากกว่าปกติ ที่มีค่า pH น้อยกว่า 5 .
เปลี่ยน pH ของน้ำระบบนิเวศอาจจะมีผลข้างเคียง ทำให้สารปนเปื้อนอื่น ๆ ( เช่นโลหะ หรือสารพิษ ) ละลายในน้ำ และย้ายได้อย่างอิสระรอบ ๆสภาพแวดล้อม .