did not disappear , but become one

did not disappear , but become one aspect of the compect caste structure which developed in north india within the general categories of varna
It was in Panjup , in particular , that the Aryans made the transition to settled agriculture
They cultivated the semi-arid lands of this region with river irrigation . The Aryans grew barley,rice and wheat in rotation. As they gradually shifted to settled agriculture they came to value land in a new way, it gained in value. Cattle had been the most important form of wealth to the pastoral nomads , but land come to be prized as a form of wealth and its control of its use was managed through in clan organization.
With the switch to agriculture , hoeever,socail organization become more straifed and clansmen become unequel in status during the time of the composition of the Rig Veda,clans had begun to be
divided into vish (ordinary clansmen) and rajanya,ruling families of warriors The rajas or lineage chiefs began to come for the most part form these families . Clan lands, however , werw help in common by brough groups , vish and rajanya. AS I mentioned,there was on private ownership, but clan controlled of usage their members.
The bifurcation in clan status differences between lines descending form an older and and younger son, with higher status given to those who demonstrated leadership qualities--the ability to laed cattle ,raids, to protect the clan , to establish new settements , and to control alliances with other clans. Thw rajanya families werw characterzied as chariot-riders and warriors , while the vish were sedentary folk,producers of pastoral and agricultural items.They were the lesser status , junjor lineages in clans and as such they had the obligation to give some of their product to the rajanya and to priests and bards . They were to give the oblations --sacrifical items --which the priests offered at ritual ceremonies which the rajanya organized . The pritses , which came to be know as brahmins,legitimized the superior status and authority of the rajanya at these rituals .(Brahmin is often alos spelled Brahman.) They invest the chiefs with attributes of the dieties
Tn the early Vedic preiod the clansmen placed a high value on common eating and the vish and the rajanya ate together. Later more distnace developed.
With the increasing significance of agriculture and the growth of trade , power came to be based on greater control over the jana , the tribe, and its territory. The territory came to be named after a dominant rajanya lineage . The rajanyas,themselves,came to be divided into those lineages which were allowed to provide rajanyas and those who were not allowed to Rajas,coming from the special lineages of ruling status,came to be know as kshatriyas,from the word for power , Kshatra led in the settlement of new territories.
As the jana developed the desire to increase production in agricution in agriculture , the vish incorporated a new group into their agricultural organization, those who had fallen outside the lineage system,low-status Aryans, and the non -Aryan dasas. These people came eventually to be know as sudras . This lower status group came to include indigenous people with artisan skills .
The historian Kulke have a theory to explain the emergence of the varna system:they aruge that the pastorl , warrior culture Aryans did not have artisanal skills--only carpenters to mend chariots are mentioned in the early hymns. However, the newly agricultural people needed the skills

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไม่ได้ไม่หายไป แต่เป็นแง่มุมหนึ่งของโครงสร้างวรรณะ compect ซึ่งพัฒนาในอินเดียเหนือภายในประเภทของวาร์นา มันอยู่ใน Panjup เฉพาะ ที่อาแยนส์ที่ทำการเปลี่ยนแปลงการเกษตรจ่ายเงิน พวกเขา cultivated ดินแดนกึ่งแห้งแล้งของภูมิภาคนี้ที่มีน้ำชลประทาน อาแยนส์เติบโตข้าวบาร์เลย์ ข้าว และข้าวสาลีในการหมุน ขณะที่พวกเขาค่อย ๆ เปลี่ยนการเกษตรจ่ายเงินที่จะมาถึงค่าที่ดินในรูปแบบใหม่ จะได้รับค่า วัวควายได้อีกมากมายให้กับโนแมด pastoral ปริญญาบัตรแบบสำคัญที่สุด ได้ที่ดินมาจะ prized เป็นรูปแบบของทรัพย์สินและการควบคุมการใช้บริหารจัดการผ่านในองค์กรตระกูล มีสวิตช์การเกษตร hoeever องค์กร socail กลายเป็น straifed เพิ่มเติม และ clansmen กลายเป็น unequel ในสถานะระหว่างส่วนประกอบของเวทอุปกรณ์ เริ่มให้สมัครพรรคพวกปกครองครอบครัวของนักรบ rajas หรือรัวลินเนจเริ่มมามากที่สุดส่วนแบ่ง vish (ปกติ clansmen) และ rajanya แบบฟอร์มครอบครัวเหล่านี้ ตระกูลที่ดิน อย่างไรก็ตาม วิธีใช้ werw กัน โดยกลุ่ม brough, vish และ rajanya ตามฉัน มีในความเป็นเจ้าของส่วนตัว แต่ตระกูลควบคุมการใช้คน Bifurcation ในตระกูลสถานะความแตกต่างระหว่างบรรทัดเรียงแบบตัวเก่า และ บุตรอายุน้อยกว่า มีสถานะสูงกว่าให้ผู้ที่แสดงความเป็นผู้นำคุณภาพ - สามารถ laed วัว ปะทะ ตระกูล สร้าง settements ใหม่ ปกป้อง และควบคุมพันธมิตรกับสมัครพรรคพวกอื่น Thw rajanya ครอบครัว werw characterzied เป็นผู้ขับขี่รถรบและนักรบ ในขณะ vish pastoral ปริญญาบัตร และการเกษตรสินค้าพื้นบ้าน แย่ ๆ การผลิต พวกสถานะ เชื้อชาติ junjor ในสมัครพรรคพวกน้อยกว่า และเป็นมีข้อผูกมัดเพื่อให้บางส่วนของผลิตภัณฑ์ของพวกเขา rajanya และปุโรหิตและ bards พวกให้รายการ sacrifical - ที่ปุโรหิตเสนอที่พิธีกรรมพิธีกรรมที่จัด rajanya - oblations Pritses ซึ่งมาถึงได้รู้ว่าเป็นพวกเรา legitimized ซูสถานะและอำนาจของ rajanya ที่พิธีกรรมเหล่านี้ (พราหมณ์เป็นมัก alos สะกด Brahman) พวกเขาลงทุนรัวที่ มีแอททริบิวต์ของการ dieties Tn preiod พระเวทก่อน clansmen ที่วางค่าสูงในการรับประทานอาหารทั่วไปและ vish และ rajanya กินร่วมกัน ภายหลังเพิ่มเติม distnace พัฒนาขึ้น With the increasing significance of agriculture and the growth of trade , power came to be based on greater control over the jana , the tribe, and its territory. The territory came to be named after a dominant rajanya lineage . The rajanyas,themselves,came to be divided into those lineages which were allowed to provide rajanyas and those who were not allowed to Rajas,coming from the special lineages of ruling status,came to be know as kshatriyas,from the word for power , Kshatra led in the settlement of new territories. As the jana developed the desire to increase production in agricution in agriculture , the vish incorporated a new group into their agricultural organization, those who had fallen outside the lineage system,low-status Aryans, and the non -Aryan dasas. These people came eventually to be know as sudras . This lower status group came to include indigenous people with artisan skills .The historian Kulke have a theory to explain the emergence of the varna system:they aruge that the pastorl , warrior culture Aryans did not have artisanal skills--only carpenters to mend chariots are mentioned in the early hymns. However, the newly agricultural people needed the skills

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไม่ได้หายไป แต่กลายเป็นแง่มุมหนึ่งของโครงสร้างสังคม compect
ซึ่งการพัฒนาในภาคเหนืออินเดียที่อยู่ในประเภททั่วไปของวาร์มันอยู่ในPanjup โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่า Aryans
ทำให้การเปลี่ยนแปลงเพื่อการเกษตรตัดสินพวกเขาได้รับการปลูกฝังดินแดนกึ่งแห้งแล้งนี้พื้นที่ที่มีการชลประทานแม่น้ำ Aryans เติบโตข้าวบาร์เลย์ข้าวและข้าวสาลีในการหมุน ขณะที่พวกเขาค่อย ๆ ขยับไปทางการเกษตรตัดสินพวกเขามาถึงค่าที่ดินในรูปแบบใหม่ก็รับค่า โคได้รับรูปแบบที่สำคัญที่สุดของความมั่งคั่งไปยังร่อนเร่พระ แต่ที่ดินมาจะถือว่าเป็นรูปแบบของความมั่งคั่งและการควบคุมในการใช้งานของตนได้รับการจัดการผ่านในองค์กรตระกูล.
ด้วยสวิทช์เพื่อการเกษตร hoeever องค์กรทางสังคมมากขึ้น straifed และผู้ดีกลายเป็น unequel
สถานะในช่วงเวลาขององค์ประกอบของสายระโยงระยางพระเวทที่สมัครพรรคพวกได้เริ่มที่จะแบ่งออกเป็นvish (clansmen สามัญ) และ rajanya ปกครองครอบครัวของนักรบ Rajas หรือหัวหน้าเชื้อสายเริ่มที่จะมาในรูปแบบส่วนใหญ่ ครอบครัวเหล่านี้ ดินแดนตระกูล แต่ werw ช่วยเหลือในการร่วมกันโดยกลุ่ม Brough, vish และ rajanya ที่ผมกล่าวถึงมีในการเป็นเจ้าของส่วนตัว แต่ตระกูลที่ควบคุมการใช้งานของสมาชิกของพวกเขา.
แยกไปสองทางในความแตกต่างสถานะตระกูลระหว่างบรรทัดลงในแบบฟอร์มลูกชายที่มีอายุมากกว่าและอายุที่มีสถานะสูงมอบให้กับผู้ที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพความเป็นผู้นำ - ความสามารถในการ วัว laed บุกเพื่อปกป้องตระกูลเพื่อสร้าง settements ใหม่และการควบคุมการเป็นพันธมิตรกับชนเผ่าอื่น ๆ thw rajanya ครอบครัว werw characterzied เป็นผู้ขับขี่รถม้าและนักรบในขณะที่มีชาวบ้าน vish อยู่ประจำที่ผลิต items.They พระและเกษตรกรรมมีสถานะน้อย junjor lineages ในตระกูลและเป็นเช่นนี้พวกเขามีหน้าที่ที่จะต้องให้บางส่วนของผลิตภัณฑ์ของพวกเขาไป rajanya และพระสงฆ์และอันเลื่องชื่อ พวกเขาจะให้เครื่องบูชามาถวายรายการ --sacrifical --which พระสงฆ์ที่นำเสนอในพิธีพิธีกรรมซึ่ง rajanya จัด pritses ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้ว่าเป็นเศรษฐี, legitimized สถานะที่เหนือกว่าและอำนาจหน้าที่ของ rajanya ในพิธีกรรมเหล่านี้. (พราหมณ์มักจะสะกด Alos พราหมณ์.) พวกเขาลงทุนหัวหน้าที่มีคุณลักษณะของ dieties
แบบ TN preiod เวทต้นผู้ดีอยู่ ที่มีมูลค่าสูงในการรับประทานอาหารร่วมกันและ vish และ rajanya กินด้วยกัน distnace ต่อมาได้รับการพัฒนามากขึ้น.
ด้วยความสำคัญของการเกษตรที่เพิ่มขึ้นและการเจริญเติบโตของการค้าพลังงานก็จะขึ้นอยู่กับการควบคุมมากขึ้นกว่า Jana ที่ชนเผ่าและดินแดนของตน ดินแดนมาเป็นที่ตั้งชื่อตามเชื้อสาย rajanya ที่โดดเด่น rajanyas ตัวเองมาเป็นที่แบ่งออกเป็น lineages ผู้ที่ได้รับอนุญาตเพื่อให้ rajanyas และผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ Rajas มาจาก lineages พิเศษของการปกครองสถานะมาเป็นที่รู้ว่าเป็น kshatriyas จากคำว่าอำนาจ Kshatra ผู้นำในการตั้งถิ่นฐานของดินแดนใหม่.
ในฐานะที่เป็น Jana พัฒนาความปรารถนาที่จะเพิ่มการผลิตใน agricution ในการเกษตร, vish รวมกลุ่มใหม่ในองค์กรทางการเกษตรของพวกเขาเหล่านั้นที่ได้ลดลงนอกระบบเชื้อสายต่ำสถานะ Aryans และไม่ใช่ -Aryan Dasas คนเหล่านี้มาในที่สุดก็จะได้รับรู้ว่าเป็น Sudras กลุ่มนี้สถานะลดลงมาที่จะรวมคนพื้นเมืองที่มีทักษะฝีมือ.
ประวัติศาสตร์ Kulke มีทฤษฎีที่จะอธิบายการเกิดขึ้นของระบบวาร์ที่พวกเขา aruge ว่า pastorl วัฒนธรรมนักรบ Aryans ไม่ได้มีทักษะศิลปะ - ช่างซ่อมเท่านั้นที่จะมีรถรบ ที่กล่าวถึงในบทสวดต้น แต่คนที่เพิ่งการเกษตรทักษะที่จำเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไม่ได้หายไปไหน แต่เป็นด้านหนึ่งของโครงสร้างที่พัฒนา compect วรรณะในอินเดียเหนือในประเภททั่วไปของ Varna
มันอยู่ใน panjup โดยเฉพาะ ที่อารยันได้เปลี่ยนแปลงเพื่อตัดสินการเกษตร
พวกเขาปลูกในดินแดนแห้งแล้งของภาคนี้ มีน้ำชลประทาน อารยันขยายตัว ข้าวบาร์เลย์ ข้าวและข้าวสาลีในการหมุนขณะที่พวกเขาค่อยๆเลื่อนไปตัดสินการเกษตรพวกเขามาถึงมูลค่าที่ดินในรูปแบบใหม่จะได้รับค่า โคได้รับแบบฟอร์มที่สำคัญที่สุดของความมั่งคั่ง Nomads อภิบาล แต่ที่ดินมาเป็น prized เป็นรูปแบบของความมั่งคั่งและการควบคุมของการใช้งานถูกจัดการผ่านในองค์กรตระกูล .
กับสวิทช์เพื่อการเกษตร hoeever , ,องค์กรทางสังคมมากขึ้นและกลายเป็น straifed clansmen unequel ในสถานะในช่วงเวลาขององค์ประกอบของ Rig Veda กลุ่มก็เริ่มที่จะแบ่งออกเป็น vish
( ธรรมดา clansmen ) และ rajanya ปกครองครอบครัวของนักรบราจัสหรือวงศ์ตระกูล หัวหน้าเริ่มมาเป็นส่วนหนึ่งครอบครัวส่วนใหญ่เหล่านี้ ที่ดินของตระกูล แต่ขึ้นช่วยร่วมกันโดยกลุ่มนำ vish rajanya , และ .ที่ผมกล่าวถึงนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ส่วนตัว แต่ตระกูลควบคุมการใช้งานของสมาชิก
ในสถานะที่แตกต่างกัน เป็นตระกูลระหว่างบรรทัดลงแบบฟอร์มเก่า และลูกชายคนเล็ก กับสถานภาพที่สูงให้กับผู้ที่แสดงภาวะผู้นำคุณภาพ -- ความสามารถในการ laed โค การตรวจค้น เพื่อป้องกันการสร้าง settements ใหม่ตระกูล และควบคุมพันธมิตรกับเผ่าอื่นๆrajanya thw ครอบครัวขึ้น characterzied เป็นผู้ขับขี่รถม้าและนักรบในขณะที่ vish ถูกกลุ่มชาวบ้าน ผู้ผลิตรายการเด็ก และการเกษตร ได้น้อยกว่า สภาพ junjor เผ่าพันธุ์ในตระกูลและเป็นเช่นพวกเขามีภาระผูกพันที่จะให้บางส่วนของผลิตภัณฑ์ของตนเพื่อ rajanya และปุโรหิตและกวี .พวกเขาให้เครื่องบูชา -- รายการ sacrifical -- ซึ่งพระสงฆ์เสนอพิธีกรรมพิธีซึ่ง rajanya จัด การ pritses ซึ่งก็จะรู้ว่าเป็นพราหมณ์การเรียกเก็บเงิน legitimized , สถานะที่เหนือกว่าและอำนาจของ rajanya ในพิธีกรรมเหล่านี้ ( มักสะกด alos พราหมณ์ พราหมณ์ ) ที่พวกเขาลงทุนหัวหน้ากับคุณลักษณะของ dieties
TN ต้นเวท preiod ที่ clansmen วางค่าสูงในทั่วไปกินและ vish และ rajanya กินด้วยกัน ต่อมาอีก distnace พัฒนา ด้วยการเพิ่มความสำคัญของการเกษตร
และการเจริญเติบโตของการค้า พลังงานก็จะขึ้นอยู่กับการควบคุมมากขึ้นกว่าจานา , ชนเผ่า , และดินแดน ดินแดนมาเป็นชื่อหลังจากการ rajanya เด่น rajanyas ที่ ,ตัวเองมาแบ่งพวกพันธุ์ซึ่งอนุญาตให้ rajanyas และผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ราจัส มาจากเผ่าพันธุ์พิเศษของสถานะการปกครอง มาเป็นกษัตริย์ จากคำว่า อำนาจ kshatra LED ในการตั้งถิ่นฐานของดินแดนใหม่ .
เป็นจานาพัฒนาความปรารถนาที่จะเพิ่ม การผลิตใน agricution ในการเกษตรการ vish รวมกลุ่มใหม่ในองค์กรทางการเกษตรของพวกเขา บรรดาผู้ที่ได้ลดลงนอกระบบเชื้อสายอารยัน , สถานภาพต่ำ และไม่ใช่ - อารยัน dasas . คนพวกนี้มาก็จะรู้ว่าเป็น sudras . สถานะกลุ่มนี้ลดลงมา รวมถึงคนพื้นเมืองที่มีทักษะช่างฝีมือ .
นักประวัติศาสตร์ kulke มีทฤษฎีอธิบายการเกิดขึ้นของระบบวาร์ :พวกเขา aruge ที่ pastorl อารยันวัฒนธรรม , นักรบไม่ได้มีทักษะช่างไม้ซ่อมรถม้า Artisanal -- เพียงกล่าวถึงในเพลงเร็ว อย่างไรก็ตาม ประชาชนต้องการทักษะ
เกษตรใหม่