ConclusionAn ethical stance to onli

Conclusion
An ethical stance to online communication would seem to be particularly important in
educational contexts. For this reason, I have tried to draw together ideas about ethical
communication, ethical and critical communities and education as learning from the
other in this paper. This has been done by exploring the possibility of taking Levinas’
conception of the face to face encounter into an online setting. However, as Johnson
notes, any argument that a face can be revealed in online communication is not in itself
sufficient to guarantee an ethical encounter in systems such as Facebook (2010). In spite
of this, the theory discussed in this paper does support the potential for ethical, critical
and educational encounters to occur online, with the particular example explored being
the possibilities of a Facebook group. Of course, the success of any Facebook group, as
is the case for a face-to-face lecture, seminar or tutorial, will depend on the participants
and the particular group dynamic that develops.
Although I have concentrated on discussing a number of potential benefits of using
Facebook in education, it is important to note that the institution, teachers and students
have no real control over how this system might work in the future. While the
Facebook group is seen to have great potential to support contained communication
about a unit in its present form, in its next iteration posts, even from closed groups,might be shared on people’s overarching timelines (and thus with all of their friends).
The decision to broaden access to posted information has been a feature in the past as
Facebook has developed, and this trend may well continue. After all, the platform is not
designed as a space for education, it is a business that collects and markets peoples’
information in exchange for providing them with a means to communicate and share
online. Even in its present form, not all students perceive even closed Facebook groups
as safe environments. Some still worry that “their academic performance … could be
discovered by their social friends” or that “their personal information and social lives
might be accessed by the tutor” (Wang et al, p. 436). In addition, while Facebook is
currently the most widely used and familiar SNS, it is possible that this will change.
Allying education with a particular piece of commercial software, at least in part on the
basis of its popularity, means that if it is superseded there will be considerable pressure
to move to whatever new platform comes along. This may or may not introduce new
possibilities and/or problems for teachers and students.
Many people now have Facebook accounts and use this SNS on a regular basis, but
in spite of its popularity it should not be assumed that all students use the system. In my
experience, even as recently as 2013, there are always a few students that have never
used Facebook and some of these people will not want to sign up. Occasionally there
will also be students who used Facebook in the past, have left the SNS and are strongly
opposed to rejoining. Indeed, even some regular Facebook users may not want to use
what they regard as a site for social interactions as an educational space. The implication
of this is that material shared and discussed in Facebook should be additional to the
core course content, or that it should be shared with all students on the institution’s
LMS or elsewhere, to include those students not on Facebook. This introduces a further
issue for some students, who then feel under pressure to check in Facebook, the LMS
and any other site being used to support information sharing and discussion, resulting in
the complaint that there are too many demands on their attention.
In spite of these provisos, thinking about online education and communities in
Facebook groups from a Levinasian perspective emphasises the importance of both
teachers and students taking responsibility for each other and for learning. At its heart,
the face to face is about paying respectful attention to others, and it therefore supports
the idea of learning from the other, as opposed to either learning about the other or
simply instructing the other. Levinas stresses the need to embrace ethical
communication as non-reciprocal, (i.e. one makes the decision to communicate without
the expectation of a response, an idea that is particularly suited to considerations of
online communication where responses can be elusive). In addition, his description of
the face to face encounter acknowledges the existence of an asymmetry between
interlocutors, and can be extended to allow this asymmetry to be fluid and changing
depending on the specific context. A conception of communication and relation drawn
from Levinas provides a way of explaining what is happening when online interactions
work so that a partial connection is made between people, or an unexpected post
highlights a new piece of valuable information or previously unconsidered perspective.
Of key importance, supporting this connection and learning, is the idea that teachers
and learners not only share information, but also share aspects of their own personal
perspectives on the material. They are thus able to reveal Levinasian faces, with SNSs
such as Facebook tending to emphasise the personal by encouraging less formal posts
more strongly than is commonly seen in interactions through LMSs such as Blackboard.
In addition, embracing the idea that the asymmetry in the relation between teachers and
learners can oscillate depending on the direction an online discussion takes, offers the
potential for anyone in the group to learn from anyone else, whether students from
other students, students from teachers or teachers from students.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทสรุปท่าทางเป็นจริยธรรมการสื่อสารออนไลน์จะดูเหมือนจะสำคัญอย่างยิ่งในบริบททางการศึกษา ด้วยเหตุนี้ ฉันได้พยายามวาดร่วมกันคิดเกี่ยวกับจริยธรรมสื่อสาร จริยธรรม และที่สำคัญชุมชน และการศึกษาเป็นการเรียนรู้จากการอื่น ๆ ในเอกสารนี้ นี้ถูกทำ โดยการสำรวจความเป็นไปได้ของการ 'Levinasความคิดพบเผชิญหน้าเป็นการตั้งค่าออนไลน์ อย่างไรก็ตาม เป็น Johnsonหมายเหตุ อาร์กิวเมนต์ที่ใบหน้าสามารถเปิดเผยในการสื่อสารออนไลน์ไม่ได้อยู่ในตัวเองเพียงพอที่จะรับประกันการพบจริยธรรมในระบบเช่น Facebook (2010) ทั้ง ๆ ที่นี้ ทฤษฎีที่กล่าวถึงในเอกสารนี้สนับสนุนศักยภาพในด้านจริยธรรม สำคัญและพบการศึกษาเกิดขึ้นอย่างเฉพาะออนไลน์ อุดมการโอกาสของกลุ่ม Facebook แน่นอน ความสำเร็จของ Facebook ใด ๆ กลุ่ม เป็นเป็นกรณีสำหรับการบรรยายลมี สัมมนา หรือกวด วิชา จะขึ้นอยู่กับผู้เข้าร่วมและแบบไดนามิกเฉพาะกลุ่มที่พัฒนาแม้ว่าฉันได้เข้มข้นในการสนทนาจำนวนประโยชน์เป็นไปได้ของการใช้Facebook ในการศึกษา จะต้องสังเกตว่า สถาบันการศึกษา ครู และนักเรียนไม่จริงควบคุมระบบนี้อาจทำงานอย่างไรในอนาคตได้ ในขณะกลุ่ม Facebook จะเห็นมีศักยภาพที่ดีเพื่อการสื่อสารสนับสนุนอยู่เกี่ยวกับหน่วยแบบปัจจุบัน ในการเกิดซ้ำถัดไป โพสต์ แม้จากกลุ่มปิด อาจใช้ร่วมกับ บนเส้นเวลาคัดสรรของคน (และของเพื่อนของพวกเขา)ตัดสินใจขยายการเข้าถึงข้อมูลที่ลงรายการบัญชีได้รับคุณลักษณะในอดีตเป็นมีพัฒนา Facebook และแนวโน้มนี้อาจดำเนินการต่อไปด้วย หลังจากที่ทุก แพลตฟอร์มไม่ออกแบบให้เป็นพื้นที่สำหรับศึกษา เป็นธุรกิจที่รวบรวม และตลาดของคนข้อมูลแลกเปลี่ยนให้กับวิธีการสื่อสาร และแบ่งปันออนไลน์ แม้ในปัจจุบันรูปแบบ นักเรียนทั้งหมดสังเกตได้ปิด Facebook กลุ่มเป็นสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย บางส่วนยังกังวลที่ "ผลการศึกษาของพวกเขา...อาจเป็นค้นพบ โดยเพื่อนของสังคม"หรือ"ของข้อมูลส่วนบุคคลและชีวิตสังคมอาจเข้าถึงได้ tutor" (Wang et al, p. 436) ได้ นอกจากนี้ ในขณะที่ Facebookปัจจุบันที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย และ SNS คุ้นเคย เป็นไปได้ที่ว่า นี้จะเปลี่ยนแปลงAllying กับชิ้นส่วนเฉพาะของซอฟแวร์เชิงพาณิชย์ น้อยบางส่วนในการฐานนิยม หมายความ ว่า ถ้ามีการทดแทน จะมีความดันมากเมื่อต้องการไปว่าแพลตฟอร์มใหม่ที่มาพร้อม นี้อาจ หรืออาจไม่นำใหม่ไปและ/หรือปัญหาของครูและนักเรียนหลายคนตอนนี้มีบัญชี Facebook และใช้ SNS นี้สม่ำเสมอ แต่แม้ความนิยมของ มันควรไม่ทึกทักเอาว่า นักเรียนทั้งหมดใช้ระบบการ ในของฉันประสบการณ์ แม้ว่าเพิ่งเป็น 2013 มีเสมอนักเรียนไม่กี่ที่ไม่เคยใช้ Facebook และบางส่วนของคนเหล่านี้จะต้องลงนาม บางครั้งมีจะเว้น SNS ผู้ใช้ Facebook ในอดีต และเป็นอย่างยิ่งตรงข้ามกับการเข้าร่วมใหม่ แน่นอน บางผู้ใช้ Facebook ทั่วไปอาจไม่ต้องการใช้สิ่งที่พิจารณาเป็นเว็บไซต์สำหรับการโต้ตอบทางสังคมเป็นพื้นที่การศึกษา เนื่องจากนี้เป็นที่วัสดุที่ใช้ร่วมกัน และใน Facebook ควรเติมหลักสูตร หรือว่า มันควรร่วมกับนักศึกษาในสถาบันการLMS หรืออื่น ๆ มีนักเรียนที่ไม่ได้อยู่ใน Facebook นี้แนะนำเป็นปัญหาสำหรับนักเรียนบางคน ที่รู้สึกภายใต้ความดันใน Facebook, LMSและไซต์อื่น ๆ ถูกใช้เพื่อสนับสนุนข้อมูลและการอภิปราย การเกิดร้องเรียนว่า มีความต้องการมากเกินไปในความสนใจแม้ provisos เหล่านี้ คิดเกี่ยวกับการศึกษาออนไลน์และชุมชนกลุ่ม Facebook จากมุม Levinasian เน้นความสำคัญทั้งสองอย่างครูและนักเรียนที่มีความรับผิดชอบ สำหรับแต่ละอื่น ๆ และเรียนรู้ ห้องพัก ที่ใบหน้าเพื่อใบหน้ากำลังให้ความสนใจเคารพผู้อื่น และดังนั้นก็ความคิดของการเรียนรู้จากกัน ตรงข้ามกับการเรียนรู้เกี่ยวกับอื่น ๆ หรือไม่เพียงแค่สอนอื่น ๆ Levinas เน้นต้องโอบกอดจริยธรรมสื่อสารเป็นไม่ซึ่งกันและกัน, (เช่นหนึ่งตัดสินใจในการสื่อสารโดยความคาดหวังของการตอบสนอง ความคิดที่เหมาะสมโดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิจารณาของออนไลน์ติดต่อสื่อสารที่ตอบสนองได้เปรียว) นอกจากนี้ เขาอธิบายพบเผชิญหน้ายอมรับว่า การดำรงอยู่ของการ asymmetry ระหว่างinterlocutors และสามารถขยายให้ asymmetry นี้จะเปลี่ยนแปลง และของเหลวขึ้นอยู่กับบริบท ความคิดการสื่อสารออกจาก Levinas ช่วยให้การอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อออนไลน์โต้ตอบทำงานเพื่อให้ทำการเชื่อมต่อบางส่วนระหว่างบุคคล หรือลงรายการบัญชีไม่คาดคิดไฮไลท์ตัวใหม่ของข้อมูลหรือมุมมองก่อนหน้านี้ unconsideredคีย์สำคัญ สนับสนุนการเชื่อมต่อนี้ และเรียนรู้ มีความคิดที่ครูและผู้เรียนไม่เพียงแต่ ใช้ข้อมูลร่วมกัน แต่ยัง ใช้ของส่วนตัวของตนเองมุมมองบนวัสดุ ผู้สามารถเปิดเผยใบหน้า Levinasian กับ SNSsเช่น Facebook แนวเพื่อ ย้ำส่วนบุคคล โดยส่งเสริมให้เป็นทางการน้อยลงอย่างรุนแรงกว่าโดยทั่วไปเห็นในโต้ตอบผ่าน LMSs เช่นกระดานดำนอกจากนี้ กอดความคิดที่ asymmetry ในความสัมพันธ์ระหว่างครู และผู้เรียนสามารถ oscillate ตามทิศทางการสนทนาออนไลน์ใช้ มีการเป็นไปได้สำหรับทุกคนในกลุ่มจะเรียนรู้จากคนอื่น ว่านักเรียนจากอื่น ๆ นักเรียน นักเรียนจากครูหรือครูนักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สรุปท่าทางจริยธรรมในการสื่อสารออนไลน์ดูเหมือนจะเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการศึกษา ด้วยเหตุนี้ผมได้พยายามที่จะวาดร่วมกันความคิดเกี่ยวกับจริยธรรมการสื่อสารทางจริยธรรมและชุมชนที่สำคัญและการศึกษาการเรียนรู้จากคนอื่นๆ ในบทความนี้ นี้ได้รับการดำเนินการโดยการสำรวจความเป็นไปได้ของการใช้ Levinas ฯคิดของใบหน้าเพื่อใบหน้าเผชิญหน้าเข้าสู่การตั้งค่าออนไลน์ อย่างไรก็ตามในขณะที่จอห์นสันบันทึกข้อโต้แย้งว่าหน้าใด ๆ ที่สามารถได้รับการเปิดเผยในการสื่อสารออนไลน์ไม่ได้ในตัวเองเพียงพอที่จะรับประกันการเผชิญหน้าทางจริยธรรมในระบบเช่นFacebook (2010) ทั้งๆที่เรื่องนี้ทฤษฎีที่กล่าวถึงในบทความนี้ไม่สนับสนุนศักยภาพในการจริยธรรมที่สำคัญการเผชิญหน้าและการศึกษาที่จะเกิดขึ้นออนไลน์ที่มีตัวอย่างเช่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสำรวจเป็นไปได้ของกลุ่มเฟซบุ๊ก แน่นอนความสำเร็จของการใด ๆ กลุ่ม Facebook เช่นในกรณีของใบหน้าเพื่อใบหน้าบรรยายสัมมนาหรือการสอนจะขึ้นอยู่กับผู้เข้าร่วมและเฉพาะกลุ่มแบบไดนามิกที่พัฒนา. ถึงแม้ว่าผมจะมีความเข้มข้นในการอภิปรายจำนวนที่มีศักยภาพ ประโยชน์ของการใช้Facebook ในการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่จะทราบว่าสถาบันการศึกษาครูและนักเรียนไม่มีการควบคุมจริงมากกว่าวิธีการที่ระบบนี้จะทำงานในอนาคต ในขณะที่กลุ่ม Facebook จะเห็นว่ามีศักยภาพที่ดีในการสนับสนุนการสื่อสารที่มีอยู่เกี่ยวกับยูนิทในรูปแบบปัจจุบันในการโพสต์ซ้ำต่อไปแม้จะมาจากกลุ่มที่ปิดอาจจะมีการใช้ร่วมกันบนระยะเวลาที่ครอบคลุมของผู้คน(และกับเพื่อนของพวกเขา) การตัดสินใจที่จะขยายการเข้าถึงข้อมูลที่โพสต์ได้รับในลักษณะที่ผ่านมาเป็นFacebook ได้มีการพัฒนาและแนวโน้มนี้อาจดำเนินการต่อไป หลังจากที่ทุกแพลตฟอร์มที่ไม่ได้รับการออกแบบให้เป็นพื้นที่เพื่อการศึกษาก็เป็นธุรกิจที่เก็บรวบรวมและตลาดประชาชน 'a ข้อมูลในการแลกเปลี่ยนสำหรับการให้พวกเขาด้วยวิธีการในการติดต่อสื่อสารและแบ่งปันออนไลน์ แม้จะอยู่ในรูปแบบปัจจุบันไม่นักเรียนทุกคนรับรู้แม้กระทั่งกลุ่ม Facebook ปิดเป็นสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย บางส่วนยังคงกังวลว่า "ผลการเรียนของพวกเขา ... จะได้รับการค้นพบโดยเพื่อนสังคมของพวกเขา" หรือว่า "ข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขาและชีวิตทางสังคมอาจจะเข้าถึงได้โดยผู้ปกครอง" (Wang et al, พี. 436) นอกจากนี้ในขณะที่ Facebook เป็นปัจจุบันใช้กันอย่างแพร่หลายและมีความคุ้นเคยSNS ก็เป็นไปได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง. allying การศึกษาที่มีชิ้นส่วนของซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์อย่างน้อยในส่วนบนพื้นฐานของความนิยมของมันหมายความว่าหากมีการแทนที่จะมีแรงกดดันมากที่จะย้ายไปสิ่งที่แพลตฟอร์มใหม่ที่มาพร้อม นี้อาจจะหรืออาจจะไม่แนะนำใหม่เป็นไปได้และ / หรือปัญหาสำหรับครูและนักเรียน. หลายคนตอนนี้มีบัญชี Facebook และใช้ SNS นี้เป็นประจำ แต่ทั้งๆที่ความนิยมของมันก็ไม่ควรจะคิดว่านักเรียนทุกคนใช้ระบบ ในของฉันประสบการณ์แม้ในขณะที่เมื่อเร็ว ๆ นี้ปี 2013 มีเสมอนักเรียนไม่กี่คนที่ไม่เคยใช้Facebook และบางส่วนของคนเหล่านี้จะไม่ต้องการที่จะลงทะเบียน บางครั้งมียังจะมีนักเรียนที่ใช้ Facebook ในอดีตที่ผ่านมาได้ออกจาก SNS และขอเทียบกับการเข้าร่วม อันที่จริงแม้บางผู้ใช้ Facebook เป็นประจำอาจไม่ต้องการที่จะใช้สิ่งที่พวกเขาถือว่าเป็นเว็บไซต์สำหรับปฏิสัมพันธ์ทางสังคมเป็นพื้นที่การศึกษา ความหมายนี้คือวัสดุที่ใช้ร่วมกันและพูดคุยกันใน Facebook ควรจะเพิ่มเติมให้กับเนื้อหาหลักสูตรแกนกลางหรือว่ามันควรจะใช้ร่วมกันกับนักเรียนทุกคนในสถาบันการศึกษาของLMS หรือที่อื่น ๆ รวมถึงนักเรียนที่ไม่ได้อยู่ใน Facebook นี้จะแนะนำอีกปัญหาสำหรับนักเรียนบางคนแล้วรู้สึกภายใต้ความกดดันที่จะตรวจสอบใน Facebook, เหลือและเว็บไซต์อื่นๆ ที่ใช้ในการสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการอภิปรายผลในการร้องเรียนว่ามีความต้องการที่มากเกินไปในความสนใจของพวกเขา. ทั้งๆ ของข้อแม้เหล่านี้คิดเกี่ยวกับการศึกษาออนไลน์และชุมชนในกลุ่มFacebook จากมุมมอง Levinasian เน้นความสำคัญของทั้งครูและนักเรียนมีความรับผิดชอบสำหรับแต่ละอื่นๆ และสำหรับการเรียนรู้ ที่เป็นหัวใจของใบหน้าเพื่อใบหน้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการให้ความสนใจที่จะเคารพคนอื่น ๆ และจึงสนับสนุนความคิดของการเรียนรู้จากคนอื่นๆ เมื่อเทียบกับทั้งการเรียนรู้เกี่ยวกับการอื่น ๆ หรือเพียงแค่การสอนอื่นๆ Levinas เน้นความจำเป็นที่จะโอบกอดจริยธรรมสื่อสารซึ่งกันและกัน(เช่นหนึ่งที่ทำให้การตัดสินใจในการสื่อสารโดยไม่ต้องคาดหวังของการตอบสนองความคิดที่เหมาะอย่างยิ่งการพิจารณาของการสื่อสารออนไลน์ที่ตอบสนองสามารถเข้าใจยาก) นอกจากนี้ยังมีคำอธิบายของเขาใบหน้าที่จะพบใบหน้ายอมรับการดำรงอยู่ของความไม่สมดุลระหว่างที่เป็นต้นและสามารถขยายไปยังช่วยให้ไม่สมดุลนี้จะเป็นของเหลวและการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับบริบทที่เฉพาะเจาะจง ความคิดของการสื่อสารและความสัมพันธ์ที่ลากจาก Levinas มีวิธีการอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมีปฏิสัมพันธ์ออนไลน์ทำงานเพื่อให้การเชื่อมต่อบางส่วนทำขึ้นระหว่างคนหรือโพสต์ที่ไม่คาดคิดไฮไลท์ชิ้นใหม่ของข้อมูลที่มีค่าหรือมุมมองที่ไม่ได้นึกถึงก่อนหน้านี้. มีความสำคัญที่สำคัญ สนับสนุนการเชื่อมต่อนี้และการเรียนรู้เป็นความคิดที่ว่าครูผู้สอนและผู้เรียนไม่เพียงแต่ใช้ข้อมูลร่วมกัน แต่ยังมีการแบ่งลักษณะของพวกเขาเองมุมมองเกี่ยวกับวัสดุ พวกเขาจึงสามารถที่จะเผยให้เห็นใบหน้า Levinasian กับ SNSs เช่น Facebook พุ่งไปเน้นส่วนบุคคลโดยการสนับสนุนการโพสต์อย่างเป็นทางการน้อยรุนแรงกว่ามักจะเห็นในการติดต่อผ่านLMSs เช่นกระดานดำ. นอกจากนี้กอดความคิดที่ว่าความไม่สมดุลในความสัมพันธ์ที่ ระหว่างครูและผู้เรียนสามารถแกว่งขึ้นอยู่กับทิศทางการสนทนาออนไลน์จะใช้เวลาที่มีศักยภาพสำหรับทุกคนในกลุ่มที่จะได้เรียนรู้จากคนอื่นไม่ว่าจะเป็นนักเรียนจากนักเรียนคนอื่นๆ นักเรียนจากครูผู้สอนหรือครูจากนักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุป
ท่าทางจริยธรรมเพื่อการสื่อสารออนไลน์ดูเหมือนจะเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน
บริบททางการศึกษา ด้วยเหตุผลนี้ ผมพยายามวาดด้วยกันความคิดเกี่ยวกับการสื่อสารจริยศาสตร์
, จริยธรรม และที่สำคัญชุมชนและการศึกษา เช่น การเรียนจาก
อื่น ๆ ในกระดาษนี้ นี้ถูกทำโดยการสำรวจความเป็นไปได้ของการ levinas '
ความคิดของหน้าพบในออนไลน์การตั้งค่า อย่างไรก็ตาม จอห์นสัน
บันทึกการโต้เถียงที่ใบหน้า จะถูกเปิดเผยในการสื่อสารออนไลน์ไม่ได้เป็นในตัวเอง
เพียงพอที่จะรับประกันพบจริยธรรมในระบบเช่น Facebook ( 2010 ) แม้ว่า
นี้ ทฤษฎีที่กล่าวถึงในบทความนี้ไม่สนับสนุนศักยภาพสำหรับจริยธรรมที่สำคัญ
การศึกษาและการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นออนไลน์ กับแบบอย่างโดยเฉพาะการสำรวจถูก
ความเป็นไปได้ของกลุ่ม Facebook แน่นอนว่าความสำเร็จของ Facebook กลุ่ม เช่น
เป็นกรณีสอนตัวต่อตัว หรือสอนงาน จะขึ้นอยู่กับผู้เข้าร่วม
และเฉพาะกลุ่มแบบไดนามิกที่พัฒนา .
แม้ว่าจะเข้มข้นในเรื่องจำนวนของผลประโยชน์ที่มีศักยภาพของการใช้
ใช้ในการศึกษา เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทราบว่า สถาบัน ครู และนักเรียน
ไม่มีจริงการควบคุมวิธีนี้ระบบจะทำงานในอนาคต ในขณะที่
กลุ่ม Facebook จะเห็นที่จะมีศักยภาพที่จะสนับสนุนที่มีอยู่การสื่อสาร
เกี่ยวกับหน่วยในรูปแบบปัจจุบันในโพสต์ซ้ำอีก แม้แต่จากกลุ่มปิดอาจจะใช้คนเหล่านั้น ( และดังนั้นจึงครอบคลุมกับเพื่อนของพวกเขาทั้งหมด ) .
การตัดสินใจที่จะขยายการเข้าถึงการโพสต์ข้อมูลที่ได้รับคุณลักษณะเหมือนในอดีต
Facebook ได้มีการพัฒนา และแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไป หลังจากทั้งหมด , แพลตฟอร์มไม่
ออกแบบเป็นพื้นที่ศึกษา เป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่และตลาด '
.