Scientists love to preach the impor

Scientists love to preach the importance of "double blind" studies because in that way they can compare their "old" toxic sludge to their "new" toxic sludge in the same study. but in many cases, a double blind study makes no sense in the world. For example, how could you do a double blind study comparing a person who refuses all orthodox cancer treatments with someone who goes through chemotherapy? It is a stupid concept, because after one day a person would know which group they were in.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักวิทยาศาสตร์รักการประกาศถึงความสำคัญของการศึกษา "ตาบ" เนื่องจากในลักษณะที่ สามารถเปรียบเทียบของตะกอนเป็นพิษ "เก่า" ไปกากพิษของ "ใหม่" ในการศึกษาเดียวกัน แต่ในหลายกรณี การศึกษาตาบทำให้รู้สึกไม่มีในโลก เช่น วิธีคุณสามารถทำสองตาบอดศึกษาเปรียบเทียบผู้ที่ปฏิเสธการรักษามะเร็งดั้งเดิมทั้งหมดกับผู้ที่ผ่านยาเคมีบำบัด หรือไม่ เป็นแนวคิดโง่ เพราะหลังจากที่วันหนึ่งคนจะรู้ว่ากลุ่ม พวกเขาอยู่ในนั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักวิทยาศาสตร์รักที่จะหล่อหลอมความสำคัญของ "สองคนตาบอด" การศึกษาเพราะในทางที่พวกเขาสามารถเปรียบเทียบ "เก่า" ตะกอนพิษของพวกเขาไป "ใหม่" ตะกอนพิษของพวกเขาในการศึกษาเดียวกัน แต่ในหลายกรณีมีการศึกษาคนตาบอดสองทำให้รู้สึกไม่มีในโลก ตัวอย่างเช่นวิธีการที่คุณสามารถทำการศึกษาคนตาบอดสองเปรียบเทียบคนที่ปฏิเสธการรักษาโรคมะเร็งดั้งเดิมทั้งหมดที่มีใครสักคนที่จะต้องผ่านการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือไม่? มันเป็นความคิดที่โง่เพราะหลังจากวันหนึ่งคนจะได้รู้ว่าที่กลุ่มพวกเขาอยู่ใน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักวิทยาศาสตร์ชอบเทศนาความสำคัญของ " คอปาด " ศึกษาเพราะในวิธีที่พวกเขาสามารถเปรียบเทียบกับ " เก่า " กับ " ใหม่ " กากพิษของสารพิษ ตะกอนในการศึกษาเดียวกัน . แต่ในหลายกรณี , Double blind การศึกษาไร้สาระที่สุดในโลก ตัวอย่าง วิธีที่คุณสามารถทำดับเบิลตาบอดศึกษาเปรียบเทียบคนที่ปฏิเสธทั้งหมดดั้งเดิมการรักษาโรคมะเร็งกับคนที่ผ่านการรักษา มันเป็นแนวคิดที่โง่ เพราะหลังจากวันนึงคนก็รู้ว่ากลุ่มที่พวกเขาอยู่