Kaldor himself was one of the more

Kaldor himself was one of the more important spokesmen for reform in the 1960s and
1970s. In 1964, he, along with A. G. Hart and J. Tinbergen submitted a paper to the
United Nations Conference on Trade and Development that proposed a version of a plan
for a new world currency that Benjamin Graham had submitted to participants at Bretton
Woods in 1944 (Graham, 1944). Graham’s initial work in the monetary field (Graham,
1937) offered a plan for a new US domestic currency in the form of receipts issued by
a commodity storage facility. The objective of both his domestic plan and the international
version was to ensure monetary stability through countercyclical mechanisms, preserve the
link between monetary issuance and the real economy, and back currency issues with
a class of financial assets that would be less likely to divert monetary resources into
speculative activities.1
1 Graham argued that, under his storage plan, rising prices in a boom would increase redemptions of
stored commodities that would augment their supply and drive down their price while shrinking the supply of
commodity currency. In a downturn, falling prices would encourage producers to store commodities
(stabilising their price) while increasing the supply of commodity currency

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Kaldor ตัวเองเป็นหนึ่งใน spokesmen สำคัญสำหรับการปฏิรูปในปี 1960 และทศวรรษ 1970. ในปี 1964 เขา A. G. ฮาร์ทและ J. Tinbergen ส่งเอกสารเพื่อการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนาที่นำเสนอแบบแผนสำหรับสกุลเงินโลกใหม่ที่เบนจามินเกรแฮมได้ส่งผู้เข้าร่วมที่ Brettonป่าในปี 1944 (เกรแฮม 1944) กราแฮมทำงานเริ่มต้นในฟิลด์เงิน (เกรแฮมปี 1937) เสนอแผนสำหรับสกุลในประเทศสหรัฐอเมริกาใหม่ในรูปแบบของใบรับที่ออกโดยอำนวยความสะดวกจัดเก็บสินค้า วัตถุประสงค์ของแผนในประเทศและนานาชาติที่รุ่นมีการ รับประกันความมั่นคงทางการเงินผ่านกลไก countercyclical รักษาเชื่อมโยงระหว่างออกเงิน และเศรษฐกิจจริง และปัญหากลับสกุลระดับชั้นของสินทรัพย์ทางการเงินที่จะสู่สำราญทรัพยากรเงินเป็นactivities.1 เก็งแกรแฮม 1 โต้เถียงว่า ภายใต้แผนจัดเก็บ บูมมีราคาเพิ่มขึ้นจะเพิ่ม redemptions ของจัดเก็บสินค้าที่จะเพิ่มการจัดหา และไดรฟ์ลงราคาของพวกเขาในขณะที่อุปทานของการหดตัวสกุลเงินของสินค้า ในชะลอตัว ราคาลดลงจะกระตุ้นให้ผู้ผลิตเพื่อจัดเก็บสินค้า(สำหรับราคาของพวกเขา) ในขณะที่การเพิ่มอุปทานของสินค้าที่ซื้อขายสกุลเงิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Kaldor ตัวเองเป็นหนึ่งในตัวแทนที่สำคัญมากขึ้นสำหรับการปฏิรูปในทศวรรษที่ 1960 และ
1970 ในปี 1964 เขาพร้อมกับเอฮาร์ตและเจเบอร์เกนส่งกระดาษที่
ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนาที่นำเสนอรุ่นของแผน
สำหรับสกุลเงินโลกใหม่ที่เบนจามินเกรแฮมได้ส่งให้ผู้เข้าร่วมที่เบรตตัน
วูดส์ในปี 1944 ( เกรแฮม, 1944) งานแรกของเกรแฮมในด้านการเงิน (เกรแฮม,
1937) เสนอแผนสำหรับสกุลเงินในประเทศใหม่ของสหรัฐในรูปแบบของใบเสร็จรับเงินที่ออกโดย
สถานที่จัดเก็บสินค้า วัตถุประสงค์ของแผนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
รุ่นที่เป็นเพื่อให้แน่ใจว่าเสถียรภาพทางการเงินผ่านกลไก countercyclical รักษา
ความเชื่อมโยงระหว่างการออกการเงินและเศรษฐกิจที่แท้จริงและปัญหาสกุลเงินกลับมาพร้อมกับ
ระดับของสินทรัพย์ทางการเงินที่จะมีโอกาสน้อยที่จะเบี่ยงเบนความสนใจทรัพยากรทางการเงิน เป็น
activities.1 เก็งกำไร
1 เกรแฮมเป็นที่ถกเถียงกันว่าภายใต้แผนจัดเก็บข้อมูลของเขาเพิ่มขึ้นของราคาในบูมจะเพิ่มไถ่ถอนของ
สินค้าที่เก็บไว้ที่จะเพิ่มอุปทานของพวกเขาและขับรถลงราคาของพวกเขาในขณะที่การหดตัวของอุปทานของ
สกุลเงินสินค้าโภคภัณฑ์ ในภาวะเศรษฐกิจชะลอ, ราคาที่ลดลงจะสนับสนุนให้ผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ร้าน
(เสถียรภาพราคาของพวกเขา) ในขณะที่การเพิ่มอุปทานของสกุลเงินสินค้าโภคภัณฑ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คัลเดอร์เองก็เป็นหนึ่งในที่สำคัญโฆษกประจำสำหรับการปฏิรูปในทศวรรษที่ 1960 และ 1970
. ในปี 1964 เขาพร้อมกับ . . . ฮาร์ทเจและ ทินเบอร์เกนยื่นกระดาษให้
การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนาที่นำเสนอรุ่นของแผน
ใหม่สำหรับสกุลเงินโลกที่เบนจามิน เกรแฮม ได้ส่งเข้าร่วม เบรตตันวูดส์ที่
1 ( Graham , 1944 )เกรแฮมเริ่มต้นทำงานในด้านการเงิน ( Graham
1937 ) เสนอแผนการใหม่สกุลเงินในประเทศ ในรูปแบบของใบเสร็จรับเงินที่ออกโดย
โกดังสินค้าโรงงาน วัตถุประสงค์ของแผนของเขาทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศเพื่อให้แน่ใจว่ารุ่น
เสถียรภาพการเงิน ผ่านกลไก countercyclical รักษา
เชื่อมโยงระหว่างการออกการเงินและเศรษฐกิจที่แท้จริงและกลับมาแลกเปลี่ยนปัญหากับ
ชั้นของสินทรัพย์ทางการเงินนั้นจะเป็นโอกาสน้อยที่จะใช้ทรัพยากรทางการเงินในการเก็งกำไร
1
1 เกรแฮม แย้งว่า ภายใต้แผนการจัดเก็บของเขา , ราคาที่เพิ่มขึ้นในบูมจะเพิ่มขึ้นของสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัว
เก็บไว้จะต่อเติมจัดหาและไดรฟ์ลงราคาของพวกเขาในขณะที่บริษัทจัดหา
สกุลเงินสินค้าโภคภัณฑ์ ในตกต่ำราคาที่ลดลงจะกระตุ้นให้ผู้ผลิตเพื่อจัดเก็บสินค้า
( ปรับราคาของพวกเขา ) ในขณะที่การเพิ่มอุปทานของสกุลเงินสินค้าโภคภัณฑ์