In economics, elasticity is the mea

In economics, elasticity is the measurement of how responsive an economic variable is to a change in another. It gives answers to questions such as:

"If I lower the price of my product, how much more will I sell?"
"If I raise the price of one good, how will that affect sales of this other good?"
"If the market price of a product goes down, how much will that affect the amount that firms will be willing to supply to the market?
An elastic variable (with elasticity value greater than 1) is one which responds more than proportionally to changes in other variables. In contrast, an inelastic variable (with elasticity value less than 1) is one which changes less than proportionally in response to changes in other variables. A variable can have different values of its elasticity at different starting points: for example, the quantity of a good supplied by producers might be elastic at low prices but inelastic at higher prices, so that a rise from an initially low price might bring on a more-than-proportionate increase in quantity supplied while a rise from an initially high price might bring on a less-than-proportionate rise in quantity supplied.

Elasticity can be quantified as the ratio of the percentage change in one variable to the percentage change in another variable, when the latter variable has a causal influence on the former. A more precise definition is given in terms of differential calculus. It is a tool for measuring the responsiveness of one variable to changes in another, causative variable. Elasticity has the advantage of being a unitless ratio, independent of the type of quantities being varied. Frequently used elasticities include price elasticity of demand, price elasticity of supply, income elasticity of demand, elasticity of substitution between factors of production and elasticity of intertemporal substitution.

Elasticity is one of the most important concepts in neoclassical economic theory. It is useful in understanding the incidence of indirect taxation, marginal concepts as they relate to the theory of the firm, and distribution of wealth and different types of goods as they relate to the theory of consumer choice. Elasticity is also crucially important in any discussion of welfare distribution, in particular consumer surplus, producer surplus, or government surplus.

In empirical work an elasticity is the estimated coefficient in a linear regression equation where both the dependent variable and the independent variable are in natural logs. Elasticity is a popular tool among empiricists because it is independent of units and thus simplifies data analysis.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในเศรษฐศาสตร์ ความยืดหยุ่นเป็นการวัดการตอบสนองต่อตัวแปรทางเศรษฐกิจจะเปลี่ยนแปลงอีก จะให้คำตอบของคำถามเช่น:"ถ้าผมลดราคาของผลิตภัณฑ์ วิธีมากจะผมขาย""ถ้าผมเพิ่มราคาของดีหนึ่ง จะที่กระทบยอดขายของนี้ดี""ถ้าราคาตลาดของผลิตภัณฑ์ไปลง จำนวนจะที่มีผลต่อจำนวนเงินที่บริษัทจะต้องยินดีที่จะจัดหาตลาด หรือไม่ตัวแปรยืดหยุ่น (มีค่าความยืดหยุ่นมากกว่า 1) เป็นหนึ่งในการตอบมากกว่า สัดส่วนการเปลี่ยนแปลงในตัวแปรอื่น ๆ ในทางตรงข้าม ตัวแปร inelastic (ด้วยความยืดหยุ่นมูลค่าน้อยกว่า 1) เป็นหนึ่งซึ่งเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าในสัดส่วนการตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในตัวแปรอื่น ๆ ตัวแปรสามารถมีค่าแตกต่างกันของความยืดหยุ่นของจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกัน: ตัวอย่าง ปริมาณของดีโดยผู้ผลิตอาจยืดหยุ่นในราคาที่ต่ำแต่ inelastic ที่ราคาสูง ที่เพิ่มขึ้นจากราคาเริ่มต้นต่ำสุดอาจทำให้เพิ่มมากขึ้นกว่าปฏิภาคในปริมาณที่ให้ในขณะที่เพิ่มขึ้นจากราคาเริ่มต้นสูงอาจทำให้เพิ่มขึ้นน้อยกว่ามากกว่าตามปริมาณที่ระบุในการความยืดหยุ่นสามารถสามารถ quantified เป็นอัตราส่วนของเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงในตัวแปรหนึ่งเปลี่ยนแปลงเปอร์เซ็นต์ในอีกตัวแปร ตัวแปรหลังมีอิทธิพลเชิงสาเหตุในอดีต คำจำกัดความที่ชัดเจนยิ่งขึ้นจะได้รับในแคลคูลัสเชิงอนุพันธ์ มันเป็นเครื่องมือสำหรับวัดการตอบสนองของตัวแปรหนึ่งเปลี่ยนแปลงในตัวแปรอื่น สาเหตุการ ความยืดหยุ่นประโยชน์ของ อัตรา unitless ขึ้นอยู่กับชนิดของปริมาณแตกต่างกันได้ Elasticities ที่ใช้บ่อยรวมถึงราคาความยืดหยุ่นของอุปสงค์ ราคาความยืดหยุ่นของรายได้ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ อุปทาน ความยืดหยุ่นของการทดแทนระหว่างปัจจัยการผลิตและความยืดหยุ่นของ intertemporal แทนความยืดหยุ่นเป็นหนึ่งแนวคิดที่สำคัญในทฤษฎีเศรษฐกิจฟื้นฟูคลาสสิก มีประโยชน์ในการทำความเข้าใจอุบัติการณ์ภาษีทางอ้อม กำไรแนวคิดเกี่ยวข้องกับทฤษฎีของบริษัท และการกระจายของให้เลือกมากมายและแตกต่างของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีทางเลือกของผู้บริโภคได้ ความยืดหยุ่นเป็นสิ่งสำคัญที่อำนาจ ในการอภิปรายการกระจายสวัสดิการ ในผู้บริโภคเฉพาะส่วนเกิน ส่วนเกินผู้ผลิต หรือรัฐบาลส่วนเกินในการทำงานรวม มีความยืดหยุ่นมีค่าประมาณสัมประสิทธิ์ในสมการถดถอยเชิงเส้นซึ่งขึ้นอยู่กับตัวแปรและตัวแปรอิสระอยู่ในบันทึกธรรมชาติ ความยืดหยุ่นเป็นเครื่องมือที่นิยมในหมู่ empiricists เนื่องจากเป็นหน่วยอิสระ และวิเคราะห์ข้อมูลที่ช่วยให้ง่ายดังนั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในทางเศรษฐศาสตร์ ความยืดหยุ่นคือการวัดของตัวแปรทางเศรษฐกิจเป็นวิธีการเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในอีก ให้คำตอบของคำถามเช่น :

" ถ้าผมลดราคาของผลิตภัณฑ์ของฉันมากขึ้นเท่าไหร่ เราจะขาย ?
" ถ้าฉันยกราคาดี แล้วจะมีผลต่อการขายอื่น ๆ นี้ดี
" ถ้าราคาตลาดของสินค้าไปลงวิธีการมากจะส่งผลกระทบต่อจำนวนเงินที่ บริษัท จะยินดีที่จะจัดหาตลาด
มีตัวแปรยืด ( ค่าความยืดหยุ่นมากกว่า 1 ) เป็นหนึ่งที่ตอบสนองมากกว่าสัดส่วนการเปลี่ยนแปลงในตัวแปรอื่น ๆ ในทางตรงกันข้าม ซึ่งมีตัวแปร ( ที่มีค่าความยืดหยุ่นน้อยกว่า 1 ) เป็นหนึ่งซึ่งการเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าสัดส่วนในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในตัวแปรอื่น ๆตัวแปรจะมีค่าแตกต่างของความยืดหยุ่นของมันที่จุดเริ่มต้นที่แตกต่างกัน เช่น ปริมาณที่ดีที่จัดเตรียม โดยผู้ผลิตอาจจะยืดหยุ่นในราคาต่ำ แต่ต่ำในราคาที่สูงขึ้นดังนั้นที่เพิ่มขึ้นจากราคาเริ่มต้นอาจจะนำในสัดส่วนที่มากกว่าการเพิ่มปริมาณขายในขณะที่เพิ่มขึ้นจากราคาสูงในเบื้องต้นอาจนำที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าสัดส่วนปริมาณจัด

มีความยืดหยุ่นสามารถ quantified เป็นสัดส่วนร้อยละของการเปลี่ยนแปลงในหนึ่งตัวแปรร้อยละของการเปลี่ยนแปลงในอีกตัวแปรตัวแปรที่มีอิทธิพลเชิงสาเหตุหลังในอดีต ความละเอียดแม่นยำมากขึ้นจะได้รับในแง่ของแคลคูลัส อนุพันธ์ เป็นเครื่องมือสำหรับการวัดการตอบสนองของตัวแปรหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลงในอีกตัวแปรนั้นๆ มีความยืดหยุ่น มี ประโยชน์ ของการเป็น unitless อัตราส่วนเป็นอิสระจากชนิดของปริมาณที่แตกต่างกัน