The residual ash content in the str

The residual ash content in the straw degraded by P. chrysosporium was maximum (220 g kg−1), which was followed by C. subvermispora (134 g kg−1). Phlebia radiata, P. floridensis and P. fascicularia had almost similar ash content of 130–132 g kg−1 followed by P. brevispora (126 g kg−1). Crude protein was maximum in PS degraded by P. brevispora (40·8 g kg−1) followed by P. radiata (36·4 g kg−1), P. chrysosporium (35·5 g kg−1) P. floridensis (32·5 g kg−1), C. subvermispora (29·9 g kg−1) and P. fascicularia (28·4 g kg−1) after 60 days of incubation.

Maximum laccase activity was shown by P. floridensis followed by P. radiata, C. subvermispora and P. brevispora on 30th day of incubation, respectively. Phlebia fascicularia was the poorest, although its laccase activity peaked on 20th day, while P. chrysosporium was not able to produce detectable laccase during the experimental conditions (Fig. 1). Xylanase production was maximum in P. radiata on 30th day while P. chrysosporium produced a maximum amount on 20th day, which decreased gradually during further incubation and the profile was similarly followed by C. subvermispora. Phlebia fascicularia produced maximum xylanase on 30th day, whereas P. brevispora and P. floridensis produced maximum xylanase on 60th day (Fig. 2). CMCase was maximum produced by P. chrysosporium on 30th day and similarly followed by C. subvermispora. Phlebia radiata and P. floridensis also produced maximum CMCase on 30th day while P. brevispora had almost similar enzyme production on 30th and 60th day. In the case of P. fascicularia, CMCase activity was gradually increasing up to the end of experiment (Fig. 3).

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เนื้อหาเถ้าที่เหลือในฟางสลายตัวโดยพี chrysosporium เป็นสูงสุด (220 กรัมต่อกิโลกรัม-1) ซึ่งตามมาด้วยซี subvermispora (134 กรัมต่อกิโลกรัม-1) Phlebia radiata พีพี floridensis fascicularia มีปริมาณเถ้าที่คล้ายกันเกือบ 130-132 กรัมต่อกิโลกรัม-1 ตามด้วยพี brevispora (126 กรัมต่อกิโลกรัม-1) โปรตีนเป็นสูงสุด PS สลายตัวโดยพี brevispora (40 · 8 กรัมต่อกิโลกรัม-1) ตามด้วยพี radiata (36 · 4 กรัมต่อกิโลกรัม-1), พี chrysosporium (35 · 5 กรัมต่อกิโลกรัม-1) พี floridensis (32 · 5 กรัมต่อกิโลกรัม-1), ซี subvermispora (29 · 9 กรัมต่อกิโลกรัม-1) และพี fascicularia (28 · 4 กรัมต่อกิโลกรัม-1) หลังจาก 60 วันของการบ่ม. กิจกรรมแลคเคสสูงสุดถูกแสดงโดยพี floridensis ตามด้วยพี radiata ซี subvermispora พี brevispora ในวันที่ 30 ของการบ่มตามลำดับ Phlebia fascicularia เป็นที่ยากจนที่สุดแม้ว่ากิจกรรมของแหลมแลคเคสในวันที่ 20 ในขณะที่พี chrysosporium ไม่สามารถที่จะผลิตแลคเคสที่ตรวจพบในช่วงเงื่อนไขการทดลอง (รูปที่ 1). การผลิตไซลาเนสสูงสุดคือพี radiata ในวันที่ 30 ในขณะที่พี chrysosporium ผลิตจำนวนเงินสูงสุดในวันที่ 20 ซึ่งค่อยๆลดลงในช่วงการบ่มต่อไปและรายละเอียดตามมาเช่นกันโดยซี subvermispora Phlebia fascicularia ผลิตไซลาเนสสูงสุดในวันที่ 30 ในขณะที่ brevispora พีพี floridensis ผลิตไซลาเนสสูงสุดในวันที่ 60 (รูปที่. 2) CMCase ได้สูงสุดที่ผลิตโดยพี chrysosporium ในวันที่ 30 และตามเช่นกันโดยซี subvermispora Phlebia radiata พี floridensis ยังผลิตสูงสุด CMCase ในวันที่ 30 ในขณะที่พี brevispora มีการผลิตเอนไซม์ที่คล้ายกันเกือบในวันที่ 30 และ 60 ในกรณีที่ fascicularia พีกิจกรรม CMCase ถูกค่อยๆเพิ่มขึ้นไปยังจุดสิ้นสุดของการทดลอง (รูปที่. 3)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปริมาณเถ้าที่เหลือจากฟางย่อยสลายด้วยหน้า chrysosporium สูงสุด ( กก. 220 G − 1 ) ซึ่งตาม C . subvermispora ( กก. 134 กรัม− 1 ) phlebia radiata , หน้า floridensis และ P . fascicularia มีปริมาณเถ้าที่คล้ายกันเกือบ 130 - 132 กรัมต่อกิโลกรัม− 1 ตามด้วยหน้า brevispora ( กก. 126 กรัม− 1 ) โปรตีนสูงสุดใน PS ซึ่งโดย brevispora ( 40 ด้วยกก 8 G − 1 ) ตามด้วยร้านอาหาร ( 36 ) ด้วย 4 G − 1 ) , หน้า chrysosporium ( 35 ด้วย 5 กรัมต่อกิโลกรัม− 1 ) หน้า floridensis ( 32 ด้วย 5 กรัมต่อกิโลกรัม− 1 ) , C ( 29 subvermispora Suite 9 กรัมต่อกิโลกรัม− 1 ) , ( 28 fascicularia Suite 4 กรัมต่อกิโลกรัม− 1 ) หลังจาก 60 วัน
การบ่ม
สูงสุด - กิจกรรมแสดงโดย floridensis ตามด้วยพี radiata , C . subvermispora หน้า brevispora ใน 30 วันและ 1 ตามลำดับ phlebia fascicularia เป็นคนที่ยากจนที่สุดแม้ว่ากิจกรรมของแหลม - 20 วัน ในขณะที่หน้า chrysosporium ไม่สามารถผลิตได้ - ในช่วงสภาวะการทดลอง ( รูปที่ 1 ) การผลิตไซลาเนสสูงสุดในการทดลองใน 30 วัน ขณะที่ พี พี chrysosporium ผลิตเงินสูงสุด 20 วัน ซึ่งลดลงค่อยๆศึกษาเพิ่มเติม และรายละเอียดก็เหมือนกับตามโดย subvermispora .phlebia fascicularia ผลิตไซลาเนสสูงสุดใน 30 วัน ในขณะที่หน้า brevispora และ P . floridensis ผลิตไซลาเนสสูงสุดใน 60 วัน ( รูปที่ 2 ) ผลิตโดย chrysosporium CMCase สูงสุดเมื่อ 30 วันและในทำนองเดียวกันตามโดย subvermispora . phlebia radiata และหน้า floridensis ยังผลิตเอนไซม์สูงสุดใน 30 วัน ขณะที่ พีbrevispora มีการผลิตเอนไซม์ที่คล้ายกันเกือบ 30 และ 60 วัน ในกรณีของหน้า fascicularia กิจกรรม CMCase คือค่อยๆ เพิ่มจนถึงสิ้นสุดการทดลอง ( รูปที่ 3 )