1.1. Study areaThe ARR floodplains

1.1. Study area

The ARR floodplains include four large adjacent floodplains lying on the coastal plain between the Arnhem land plateau and the Van Diemen Gulf, extending along the major rivers of the East, South and West Alligator Rivers, and seasonal creeks (e.g. Magela Creek) in the region (Fig. 1a). The floodplains of the ARR support a rich diversity of wetland habitats and an abundance of wildlife, providing critical ecosystem services to local Aboriginal inhabitants and one of the main attractions of Kakadu National Park, which encompasses most of the floodplains (Press, Lea, Webb, & Graham, 1995). More than two million water birds, such as Magpie Geese and ducks, have been recorded (Bayliss & Yeomans, 1990), including internationally significant counts of more than 20 species. Large aggregations of shorebirds also occur seasonally in parts of the floodplains (Chatto, 2006), and both saltwater and freshwater crocodiles inhabit the floodplain water bodies.

The ARR, like much of the wet–dry tropics of northern Australia, has a monsoonal climate and is subject to tropical cyclones. The majority of rainfall occurs in the wet season, which varies in length but is generally confined to November–March with the dry season lasting from approximately May to September (Finlayson, 2005). Annual rainfall varies over the region but averages approximately 1500 mm, and annual evaporation is about 2500 mm. During the wet season, peak stream flows are superimposed on a base flow that usually begins in mid-December and ceases by the end of June. The flow pattern over this period varies considerably from year to year, for example between 200 and 800 million cubic meters from the Magela Creek floodplain alone.

The ARR floodplains undergo dramatic seasonal changes. Following wet season rains, freshwater spreads over the plains for hundreds of square kilometers, fostering the proliferation of plant and animal life. During the dry season the water recedes into rivers, creeks and isolated waterholes. The major rivers are perennial and maintain their channels within levee banks across the flat floodplain areas. However, some of their major tributaries (e.g. Magela Creek, Fig. 1b) and distal floodplain areas are isolated from the river channels by levees and require accumulation of wet season water from the upper catchments before commencing to flow into the river. These broad backswamps represent areas of incomplete alluvial infilling of dissected river valleys formed at lower sea levels (Nanson, East, & Roberts, 1993). As the floodplains dry, wildlife concentrate around the permanent water sources such as the rivers, springs, and lagoons, which thus serve as critical aquatic refugia prior to the onset of the next wet season.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1.1. ศึกษาพื้นที่ต้น ARR รวมสี่ต้นติดกันขนาดใหญ่นอนอยู่บนราบชายฝั่งทะเลระหว่างราบสูงที่ดิน Arnhem และทะเลอ่าว Van Diemen ขยายไปตามแม่น้ำที่สำคัญของตะวันออก ใต้ และทิศตะวันตกแม่ น้ำจระเข้ และลำธารตามฤดูกาล (เช่น Magela Creek) ในภูมิภาค (รูปที่ 1a) ต้นของ ARR สนับสนุนความหลากหลายของแหล่งที่อยู่อาศัยพื้นที่ชุ่มน้ำและความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ป่า ให้บริการระบบนิเวศสำคัญชาวพื้นเมืองท้องถิ่นและเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวหลักของคาคาดูอุทยานแห่งชาติ ซึ่งครอบคลุมส่วนใหญ่ของต้น (กด ดชนิด เวบบ์ และ เกรแฮม 1995) นกน้ำที่มากกว่าสองล้าน เช่น Magpie ห่านและเป็ด ได้รับการบันทึกไว้ (Bayliss & Yeomans, 1990) , รวมทั้งสำคัญระดับนานาชาติจำนวนกว่า 20 พันธุ์ รวมขนาดใหญ่ของ shorebirds เกิดขึ้นตามฤดูกาลในส่วนของต้น (Chatto, 2006), และจระเข้น้ำเค็ม และน้ำจืดอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำ floodplainARR เขตร้อนของออสเตรเลียตอนเหนือ เปียก – แห้งมากนักมีอากาศ monsoonal และอยู่ภายใต้พายุไซโคลนเขตร้อน ส่วนใหญ่ของฝนที่เกิดขึ้นในฤดูฝน ซึ่งแตกต่างในความยาว แต่โดยทั่วไปจะจำกัดการพฤศจิกายน – มีนาคมกับฤดูแล้งที่ยาวนานจากประมาณเดือนพฤษภาคม-กันยายน (Finlayson, 2005) ปริมาณน้ำฝนประจำปีที่แตกต่างเหนือภูมิภาคแต่เฉลี่ยประมาณ 1500 มม. และระเหยประจำปี 2500 มม. ในช่วงฤดูฝน peak สตรีมกระแสจะวางซ้อนบนไหลพื้นฐานซึ่งโดยปกติเริ่มในกลางเดือนธันวาคม และสิ้นสุดสภาพ โดยปลายเดือนมิถุนายน รูปแบบการไหลระยะนี้แตกต่างกันมากปี ตัวอย่างเช่นระหว่าง 200 และ 800 ล้านลูกบาศก์เมตรจาก floodplain ครี Magela เพียงอย่างเดียวต้น ARR ผ่านการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลอย่างมาก ต่อฤดูฝนฝนตก สเปรน้ำจืดบนราบหลายร้อยตารางกิโลเมตร อุปถัมภ์การแพร่กระจายของพืชและสัตว์ ในช่วงฤดูแล้ง น้ำลดระดับลงในแม่น้ำ ลำธาร และแยกหนึ่ง แม่น้ำที่สำคัญมีไม้ยืนต้น และรักษาช่องทางของพวกเขาภายในธนาคารคันดินธรรมชาติทั่วพื้นที่ floodplain แบน อย่างไรก็ตาม น่าน (เช่น Magela ครี รูป 1b) และพื้นที่ปลาย floodplain แยกได้จากช่องทางแม่น้ำ โดย levees และต้องสะสมของน้ำฝนจาก catchments ด้านบนจะไหลลงแม่น้ำ Backswamps สิ่งเหล่านี้แสดงถึงพื้นที่ของ infilling ทรายไม่สมบูรณ์ของหุบ dissected เกิดขึ้นที่ระดับน้ำทะเล (Nanson ตะวันออก และโรเบิร์ต 1993) เป็นต้นแห้ง สัตว์ป่าสมาธิรอบแหล่งน้ำถาวร เช่นแม่น้ำ น้ำพุ ทะเลสาบ ซึ่งจึง เป็น refugia น้ำสำคัญก่อนการโจมตีของฤดูฝนถัดไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1.1 พื้นที่ศึกษา

ที่ราบน้ำท่วมถึง ARR รวมสี่ที่ราบน้ำท่วมขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกันนอนอยู่บนที่ราบชายฝั่งระหว่างที่ราบสูงที่ดิน Arnhem และอ่าวไทย Diemen รถตู้, ขยายตามแนวแม่น้ำสายสำคัญของภาคตะวันออกใต้และทิศตะวันตกจระเข้แม่น้ำและลำห้วยตามฤดูกาล (เช่น Magela ลำธาร) ใน ภูมิภาค (รูป. 1A) ที่ราบน้ำท่วมถึงของ ARR สนับสนุนความหลากหลายของแหล่งที่อยู่อาศัยในพื้นที่ชุ่มน้ำและความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ป่าให้บริการของระบบนิเวศที่สำคัญชาวอะบอริจิท้องถิ่นและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอุทยานแห่งชาติ Kakadu ซึ่งครอบคลุมส่วนใหญ่ของที่ราบน้ำท่วมถึง (การกดทุ่งหญ้า, เวบบ์ และเกรแฮม, 1995) มากกว่าสองล้านนกน้ำเช่นนกกางเขนห่านและเป็ดได้รับการบันทึก (ลิสส์และ Yeomans, 1990) ซึ่งรวมถึงจำนวนที่มีนัยสำคัญในระดับนานาชาติมากกว่า 20 ชนิด รวมใหญ่ของนกชายเลนยังเกิดขึ้นตามฤดูกาลในส่วนของที่ราบน้ำท่วมถึง (Chatto, 2006) และทั้งสองน้ำเค็มและน้ำจืดจระเข้อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำควิ.

ARR เหมือนเขตร้อนเปียกแห้งทางตอนเหนือของออสเตรเลียมีภูมิอากาศแบบมรสุมและ เป็นเรื่องที่พายุหมุนเขตร้อน ส่วนใหญ่ของปริมาณน้ำฝนที่เกิดขึ้นในฤดูฝนซึ่งแตกต่างกันไปในความยาว แต่ถูกกักขังอยู่โดยทั่วไปในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคมกับฤดูแล้งยาวนานตั้งแต่ประมาณพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน (Finlayson, 2005) ปริมาณน้ำฝนประจำปีแตกต่างกันไปภาคเหนือ แต่ค่าเฉลี่ยประมาณ 1,500 มิลลิเมตรและการระเหยปีประมาณ 2,500 มิลลิเมตร ในช่วงฤดูฝนกระแสกระแสสูงสุดมีการซ้อนทับบนฐานการไหลที่มักจะเริ่มต้นในช่วงกลางเดือนธันวาคมและสิ้นสุดลงโดยสิ้นเดือนมิถุนายน รูปแบบการไหลในช่วงนี้แตกต่างกันมากในแต่ละปีเช่นระหว่าง 200 และ 800 ล้านลูกบาศก์เมตรจาก Magela ห้วยควิเพียงอย่างเดียว.

ที่ราบน้ำท่วมถึง ARR รับการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลได้อย่างน่าทึ่ง ต่อไปนี้ฤดูฝนน้ำจืดแผ่ซ่านไปทั่วที่ราบสำหรับหลายร้อยตารางกิโลเมตรอุปถัมภ์การงอกของพืชและสัตว์มีชีวิต ในช่วงฤดูแล้งน้ำลดระดับลงลงสู่แม่น้ำลำธารและแอ่งน้ำที่แยก แม่น้ำที่สำคัญคือไม้ยืนต้นและรักษาช่องทางของพวกเขาภายในธนาคารเขื่อนทั่วพื้นที่ที่ราบน้ำท่วมถึงแบน แต่บางส่วนของแควใหญ่ (เช่น Magela Creek, รูป 1b.) และพื้นที่ที่ราบน้ำท่วมถึงส่วนปลายจะแยกจากช่องทางแม่น้ำโดยเขื่อนและต้องมีการสะสมของน้ำฤดูฝนจากลุ่มน้ำตอนบนก่อนที่จะเริ่มที่จะไหลลงไปในแม่น้ำ backswamps กว้างเหล่านี้เป็นตัวแทนของพื้นที่ลุ่มน้ำ infilling ไม่สมบูรณ์ของชำแหละหุบเขาแม่น้ำเกิดขึ้นที่ระดับน้ำทะเลลดลง (Nanson ตะวันออกและโรเบิร์ต, 1993) ในฐานะที่เป็นที่ราบน้ำท่วมถึงแห้ง, สัตว์ป่าสมาธิรอบแหล่งน้ำถาวรเช่นแม่น้ำสปริงและบึงน้ำซึ่งทำหน้าที่จึง refugia น้ำเป็นสิ่งสำคัญก่อนที่จะมีการโจมตีของฤดูฝนต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1.1 . พื้นที่ศึกษาfloodplains อ๋ารวมสี่ขนาดใหญ่ที่อยู่บนที่ราบชายฝั่ง Gardner โกหกระหว่าง Arnhem ที่ดินที่ราบสูงและรถตู้ diemen อ่าวไทย ขยายไปตามแม่น้ำสาขาของแม่น้ำจระเข้ตะวันออก ทิศใต้ และทิศตะวันตก และลำห้วย เช่น ห้วย magela ตามฤดูกาล ) ในภูมิภาค ( รูปที่ 1A ) floodplains สนับสนุนอัตราหลากหลายพื้นที่ที่อยู่อาศัยและความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ป่า การให้บริการของระบบนิเวศที่สำคัญกับชนพื้นเมืองโบราณในท้องถิ่นและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งครอบคลุมส่วนใหญ่ของ Gardner ( กด , ทุ่งหญ้า , เวบบ์ & เกรแฮม , 1995 ) มากกว่าสองล้าน น้ำ นก เช่น นก เป็ด และห่าน ได้ถูกบันทึกไว้ ( ที่ตั้ง & ยีโอแมนส์ , 2533 ) รวมถึงต่างนับกว่า 20 ชนิด การรวมขนาดใหญ่ของ shorebirds ยังเกิดขึ้นตามฤดูกาล ในส่วนของ Gardner ( แชตโต , 2006 ) , และทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มจระเข้อาศัยอยู่ในที่ราบน้ำท่วมถึงแหล่งน้ำอัตราเช่นมากของเขตร้อนของออสเตรเลีย–เปียกแห้งภาคเหนือ มีภูมิอากาศแบบมรสุม และอาจมีพายุไซโคลนเขตร้อน ส่วนใหญ่ของฝนเกิดขึ้นในฤดูฝน ซึ่งจะแตกต่างกันในความยาว แต่โดยทั่วไปแล้วคับพฤศจิกายน–มีนาคมกับฤดูแล้งยาวนานจากประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน ( Finlayson , 2005 ) ปริมาณน้ำฝนที่แตกต่างกันทั่วภูมิภาค แต่โดยเฉลี่ยประมาณ 1 , 500 มิลลิเมตร และการระเหยปีประมาณ 2 , 500 มิลลิเมตร ในช่วงฤดูฝน ช่วงกระแสไหลอยู่ทับบนฐานการไหลที่มักจะเริ่มต้นในช่วงกลางเดือนธันวาคม และสิ้นสุดโดยสิ้นเดือนมิถุนายน รูปแบบการไหลในช่วงนี้จะแตกต่างกันอย่างมากจากปีที่ปี ตัวอย่างเช่น ระหว่าง 200 และ 800 ล้านลูกบาศก์เมตร จาก magela ห้วยน้ำท่วมเพียงอย่างเดียวfloodplains อาเจอการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลได้อย่างน่าทึ่ง ฝนตกตามฤดู น้ำจืดที่แพร่กระจายทั่วที่ราบร้อยตารางกิโลเมตร การขยายตัวของพืชและสัตว์ที่มีชีวิต ในช่วงฤดูแล้งน้ำ recedes ลงแม่น้ำ , ลําธารและแยกแหล่ง . แม่น้ำใหญ่เป็นไม้ยืนต้นและรักษาช่องทางของธนาคารภายในเขื่อนในพื้นที่น้ำท่วมแบน แต่บางส่วนของแควใหญ่ของพวกเขา ( เช่น magela Creek , รูป 1B ) และพื้นที่น้ำท่วมปลายแยกจากแม่น้ำช่องโดยเขื่อนและต้องการสะสมน้ำฤดูฝนจาก catchments ด้านบนก่อนเริ่มไหลลงแม่น้ำ backswamps กว้างเหล่านี้เป็นตัวแทนของพื้นที่ของ infilling ทรายไม่สมบูรณ์ของแม่น้ำหุบเขาที่ผ่าขึ้นระดับล่าง ( ในทะเล , ตะวันออก , และโรเบิร์ต , 1993 ) เป็น floodplains แห้ง สัตว์ป่า สมาธิรอบถาวรแหล่งน้ำ เช่น แม่น้ำ สปริง และทะเลสาบ ซึ่งจึงเป็นวิกฤตน้ำ refugia ก่อนที่จะเริ่มฤดูกาลหน้าเปียก