This article examines the relations

This article examines the relationship between the technological regime and the technological catch-up, using US patent data. This study has found that catching-up is more likely to happen in those technological classes with shorter technological cycle time and more initial stock of knowledge and that among those candidate classes the actual speed of catch-up varies depending on appropriability and knowledge accessibility. This implies that the factors that determine the occurrence of catch-up and the speed of catch-up are different. Comparing the level of technological capability of the advanced and catching-up economies, the article has found that catching-up countries tend to achieve high levels in the technological sectors with shorter cycle time, easier access to knowledge, and higher appropriability, whereas the advanced countries show the exactly opposite performances. Korean firms find themselves more fitted to technological regimes featured by low appropriability and high cumulativeness (persistence), whereas the Taiwanese firms are more fitted to technological regimes featured by high appropriability and low cumulativeness (persistence). The Korean firms, dominated by the so-called Chaebols especially in patent registrations, are characterized as less flexible, large diversified conglomerates and pursing more independent R&D and learning strategies. The Taiwanese firms are characterized as more flexible, network-based, specialized firms and pursuing more cooperative R&D and learning strategies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทความนี้จะตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างระบอบการปกครองของเทคโนโลยีและเทคโนโลยีจับขึ้นโดยใช้ข้อมูลสิทธิบัตรสหรัฐ การศึกษาครั้งนี้พบว่ามีการจับขึ้นมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในชั้นเรียนของเทคโนโลยีที่มีรอบเวลาสั้นเทคโนโลยีและสต็อกเริ่มต้นมากขึ้นของความรู้และว่าในหมู่ผู้เรียนผู้สมัครที่ความเร็วที่แท้จริงของการจับขึ้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับ appropriability และการเข้าถึงความรู้ นี่ก็หมายความว่าปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดเกิดจับขึ้นและความเร็วของการจับขึ้นจะแตกต่างกัน เปรียบเทียบระดับของความสามารถทางเทคโนโลยีของเศรษฐกิจขั้นสูงและการจับขึ้นบทความได้พบว่าประเทศที่จับขึ้นมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในระดับสูงในภาคเทคโนโลยีที่มีรอบเวลาสั้นเข้าถึงได้ง่ายขึ้นความรู้และ appropriability ที่สูงขึ้นในขณะที่ขั้นสูง ประเทศแสดงการแสดงตรงข้ามว่า บริษัท เกาหลีพบว่าตัวเองติดตั้งเพิ่มเติมเพื่อระบอบการปกครองที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี appropriability ต่ำและ cumulativeness สูง (วิริยะ) ในขณะที่ บริษัท ที่ไต้หวันมีการติดตั้งมากขึ้นในระบอบการปกครองที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี appropriability สูงและ cumulativeness ต่ำ (วิริยะ) บริษัท เกาหลี, ครอบงำโดยที่เรียกว่า chaebols โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการลงทะเบียนสิทธิบัตรมีลักษณะเป็นความยืดหยุ่นน้อยกว่ากลุ่ม บริษัท ขนาดใหญ่และมีความหลากหลาย pursing อิสระมากขึ้น R & D และกลยุทธ์การเรียนรู้ บริษัท ไต้หวันมีความโดดเด่นเป็นความยืดหยุ่นมากขึ้นบนเครือข่าย บริษัท เฉพาะและการใฝ่หาการร่วมมือมากขึ้น R & D และกลยุทธ์การเรียนรู้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทความนี้เป็นการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างระบบเทคโนโลยี และจากเทคโนโลยีที่ใช้เราข้อมูลสิทธิบัตรการศึกษานี้พบว่ามีการจับขึ้นมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในชั้นเรียน ด้วยเทคโนโลยีวงจรเวลาเทคโนโลยีและเริ่มต้นหุ้นเพิ่มเติมความรู้ และในบรรดาผู้สมัครเรียนความเร็วที่แท้จริงของ catch-up แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับ appropriability และเข้าถึงความรู้สั้นนอกจากนี้ ปัจจัยที่กำหนดเหตุการณ์เกิดขึ้น และความเร็วของจากที่แตกต่างกัน การเปรียบเทียบระดับความสามารถของเทคโนโลยีขั้นสูงและจับขึ้น เศรษฐกิจ , บทความ พบว่ามีการจับประเทศมีแนวโน้มที่จะบรรลุระดับสูงในภาคเทคโนโลยีกับรอบเวลาที่สั้น ง่ายต่อการเข้าถึงการความรู้และ appropriability , ที่สูง ,ในขณะที่ประเทศขั้นสูงแสดงการแสดงตรงข้าม . บริษัทเกาหลีพบตัวเองมากขึ้น ประกอบกับเทคโนโลยีระบบที่โดดเด่น โดย appropriability ต่ำและ cumulativeness สูง ( วิริยะ ) , ในขณะที่ บริษัท ไต้หวันมีเข็มขัดระบบเทคโนโลยีที่โดดเด่น โดย appropriability สูงและต่ำ cumulativeness ( วิริยะ ) บริษัท เกาหลีการปกครองโดยเรียกว่าเศรษฐีนักธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจดทะเบียนสิทธิบัตร มีความยืดหยุ่นน้อย กลุ่มที่มีขนาดใหญ่และ pursing อิสระมากขึ้น R & D และกลยุทธ์การเรียนรู้ บริษัท ไต้หวันมีลักษณะที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ทาง บริษัท ผู้เชี่ยวชาญและติดตามความร่วมมือ R & D และกลยุทธ์การเรียนรู้