1. Identify which documents need to

1. Identify which documents need to be controlled

The first task is to identify which documents need to be controlled.

The most important rule of document control is that only current documents must be used for work. You may find that other documents are less vital and it may not be worth the effort of controlling them.

You may even decide to have different levels of document control for different types of documents, e.g. formal approval and controlled distribution for procedures and work instructions, controlled distribution for your list of legal requirements, etc.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. ระบุเอกสารที่ต้องการควบคุมงานแรกคือการ ระบุเอกสารที่ต้องการควบคุมกฎสำคัญที่สุดของเอกสารควบคุมได้ว่า ต้องใช้เอกสารปัจจุบันเท่านั้นสำหรับการทำงาน คุณอาจพบว่า เอกสารอื่น ๆ ที่มีความสำคัญน้อย และมันอาจไม่คุ้มค่าความพยายามของการควบคุมนั้นแม้คุณอาจจะมีหลายระดับของการควบคุมเอกสารสำหรับชนิดเอกสาร อย่างเป็นทางการเช่นการอนุมัติและควบคุมการแจกจ่ายสำหรับขั้นตอนและคำแนะนำในการทำงาน ควบคุมแจกจ่ายสำหรับรายการของข้อกำหนดทางกฎหมาย ฯลฯ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. ระบุซึ่งเอกสารที่จะต้องมีการควบคุมงานแรกคือการระบุว่าเอกสารที่จะต้องมีการควบคุม. กฎที่สำคัญที่สุดของการควบคุมเอกสารว่าเอกสารปัจจุบันเท่านั้นจะต้องใช้สำหรับการทำงาน คุณอาจพบว่าเอกสารอื่น ๆ ที่มีความสำคัญน้อยลงและมันอาจจะไม่คุ้มค่าความพยายามในการควบคุมพวกเขา. คุณอาจตัดสินใจที่จะมีระดับที่แตกต่างกันของการควบคุมเอกสารสำหรับชนิดของเอกสารเช่นการอนุมัติอย่างเป็นทางการและการกระจายการควบคุมสำหรับขั้นตอนและคำแนะนำการทำงาน ควบคุมการแจกจ่ายสำหรับรายการของข้อกำหนดทางกฎหมายของคุณ ฯลฯ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . ระบุว่าเอกสารที่ต้องควบคุม

งานแรกคือการระบุเอกสารที่ต้องถูกควบคุม

กฎที่สำคัญที่สุดในการควบคุมเอกสารเอกสารปัจจุบันเท่านั้น ที่ต้องใช้งาน คุณอาจพบว่า เอกสารอื่น ๆมีความสำคัญน้อยลง และมันอาจจะคุ้มค่าความพยายามในการควบคุมพวกเขา .

คุณอาจตัดสินใจที่จะมีระดับที่แตกต่างกันของการควบคุมเอกสารต่างๆ เช่น การอนุมัติอย่างเป็นทางการและการกระจายการควบคุมขั้นตอนและคำแนะนำ ควบคุมการกระจายรายชื่อความต้องการทางกฎหมาย ฯลฯ