French cuisine consists of the cook

French cuisine consists of the cooking traditions and practices from France.

In the 14th century Guillaume Tirel, a court chef known as "Taillevent", wrote Le Viandier, one of the earliest recipe collections of medieval France. During that time, French cuisine was heavily influenced by Italian cuisine. In the 17th century, chefs François Pierre La Varenne and Marie-Antoine Carême spearheaded movements that shifted French cooking away from its foreign influences and developed France's own indigenous style. Cheese and wine are a major part of the cuisine, playing different roles regionally and nationally, with many variations and appellation d'origine contrôlée (AOC) (regulated appellation) laws.

French cuisine was codified in the 20th century by Auguste Escoffier to become the modern haute cuisine; Escoffier, however, left out much of the local culinary character to be found in the regions of France and was considered difficult to execute by home cooks. Gastro-tourism and the Guide Michelin helped to acquaint people with the rich bourgeois and peasant cuisine of the French countryside starting in the 20th century. Gascon cuisine has also had great influence over the cuisine in the southwest of France. Many dishes that were once regional have proliferated in variations across the country.

Knowledge of French cooking has contributed significantly to Western cuisines and its criteria are used widely in Western cookery school boards and culinary education. In November 2010, French gastronomy was added by the UNESCO to its lists of the world's "intangible cultural heritage".[1][2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาหารฝรั่งเศสประกอบด้วยประเพณีอาหาร และปฏิบัติจากประเทศฝรั่งเศสใน Tirel กม. ๑๔ เชฟศาลที่เรียกว่า "Taillevent" เขียนเลอ Viandier คอลเลกชันสูตรแรกสุดของฝรั่งเศสยุคกลางอย่างใดอย่างหนึ่ง ในช่วงเวลา อาหารฝรั่งเศสรับอิทธิพลอย่างมากอาหารอิตาเลียน ในศตวรรษที่ 17 เชฟฟรังซัวปีแยร์ลา Varenne และ Marie Antoine Carême ย้ายที่เปลี่ยนอาหารจากต่างประเทศของฝรั่งเศสเป็นผู้นำมีอิทธิพลต่อ และพัฒนาสไตล์พื้นเมืองของฝรั่งเศส ชีสและไวน์มีส่วนสำคัญของอาหาร การเล่นบทบาทแตกต่างกันในระดับภูมิภาค และระดับ ชาติ หลายรูปแบบและ appellation d'origine contrôlée กฎหมาย (AOC) (appellation ควบคุม)อาหารฝรั่งเศสถูกประมวลผลในศตวรรษที่ 20 โดยโอกุสต์ Escoffier จะกลายเป็น ของทันสมัยอาหาร Escoffier อย่างไรก็ตาม ปล่อยออกมามากของตัวละครทำอาหารท้องถิ่นที่จะพบในภูมิภาคของประเทศฝรั่งเศส และถือเป็นเรื่องยากที่จะดำเนินการ โดยพ่อครัวที่บ้าน ระบบทางเดินอาหารการท่องเที่ยวและมิชลินคู่มือช่วยในการรู้จักคนรวยชนชั้นกลางและชาวนาอาหารชนบทของฝรั่งเศสเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 อาหาร Gascon ที่มีอิทธิพลต่ออาหารดีในตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส อาหารที่เคยเป็นในภูมิภาคมี proliferated ในรูปแบบทั่วประเทศความรู้การทำอาหารฝรั่งเศสได้มีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญแบบตะวันตก และใช้กับเกณฑ์ในบอร์ดโรงเรียนตะวันตกอาหารและอาหารศึกษาอย่างกว้างขวาง ใน 2010 พฤศจิกายน อาหารฝรั่งเศสถูกเพิ่ม โดยยูเนสโกที่รายการของโลก "ไม่มีวัฒนธรรม" [1] [2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาหารฝรั่งเศสประกอบด้วยประเพณีการทำอาหารและการปฏิบัติจากฝรั่งเศส.

ในศตวรรษที่ 14 กีโยม Tirel เชฟศาลที่เรียกว่า "Taillevent" เขียนเลอ Viandier ซึ่งเป็นหนึ่งในคอลเลกชันสูตรเก่าแก่ที่สุดของยุคกลางฝรั่งเศส ในช่วงเวลานั้นอาหารฝรั่งเศสที่ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากอาหารอิตาเลียน ในศตวรรษที่ 17 เชฟFrançoisปิแอร์ลา Varenne และมารีแอนทอน Careme ทันสมัยเคลื่อนไหวที่ขยับทำอาหารฝรั่งเศสห่างจากอิทธิพลจากต่างประเทศและการพัฒนารูปแบบพื้นเมืองของฝรั่งเศสเอง ชีสและไวน์เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของอาหารเล่นบทบาทที่แตกต่างในระดับภูมิภาคและระดับชาติที่มีหลายรูปแบบและนาม d'origine Contrôlée (AOC) (ควบคุมนาม) กฎหมาย.

อาหารฝรั่งเศสได้รับการประมวลผลในศตวรรษที่ 20 โดย Auguste Escoffier ที่จะกลายเป็น อาหารโอที่ทันสมัย; Escoffier แต่ซ้ายออกมากของตัวละครทำอาหารท้องถิ่นที่จะพบในภูมิภาคของประเทศฝรั่งเศสและได้รับการพิจารณาเป็นเรื่องยากที่จะดำเนินการโดยพ่อครัวบ้าน ระบบทางเดินอาหารท่องเที่ยวและคู่มือมิชลินช่วยในการแนะนำคนที่มีคนรวยคนชั้นกลางและชาวนาอาหารของชนบทฝรั่งเศสเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 อาหารแคนเน่ยังมีอิทธิพลเหนืออาหารในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส อาหารหลายอย่างที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นในระดับภูมิภาคได้แพร่กระจายออกไปในรูปแบบทั่วประเทศ.

ความรู้เกี่ยวกับการทำอาหารฝรั่งเศสได้มีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญอาหารตะวันตกและเกณฑ์ของมันถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในคณะกรรมการโรงเรียนศิลปะการปรุงอาหารตะวันตกและการศึกษาการทำอาหาร ในเดือนพฤศจิกายน 2010, การทำอาหารฝรั่งเศสที่เพิ่มขึ้นโดยยูเนสโกไปยังรายการของ "มรดกทางวัฒนธรรมที่ไม่มีตัวตน" ของโลก. [1] [2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อาหารฝรั่งเศสประกอบด้วยการปรุงอาหารประเพณีและวิธีปฏิบัติจากฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 14 กิ tirel ศาลเชฟ เรียกว่า " Taillevent " เขียน เลอ viandier หนึ่งเร็วสูตรของฝรั่งเศสในยุคกลาง ระหว่างนั้น อาหารฝรั่งเศส ได้รับอิทธิผลมาจากอาหารอิตาเลี่ยน ในศตวรรษที่ 17 , เชฟฟรองซัวส์ ปิแอร์ ลา varenne และมารีอองตวน รถผมประจำêการเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนอาหารฝรั่งเศษห่างจากอิทธิพลของต่างประเทศและการพัฒนาของประเทศฝรั่งเศสเองพื้นเมืองสไตล์ ชีสและไวน์เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของอาหาร , การเล่นบทบาทที่แตกต่างกันในระดับภูมิภาคและระดับชาติ มีหลายรูปแบบและชื่อ d"origine contr ลิตรเป็นการออร์ ( AOC ) ( การควบคุมการเงิน ) กฎหมายอาหารฝรั่งเศสคือ codified ในศตวรรษที่ 20 โดยออกุสต์ escoffier เป็นประเภทอาหาร : สมัยใหม่ escoffier , อย่างไรก็ตาม , ซ้ายมากของตัวละครเป็นอาหารท้องถิ่นที่พบในภูมิภาคของประเทศฝรั่งเศสและถือว่ายากที่จะดำเนินการโดยบ้านทำอาหาร การท่องเที่ยวในระบบทางเดินอาหารและคู่มือมิชลิน ช่วยให้คุ้นเคยกับชาวนา และชนชั้นกลางที่อุดมไปด้วยคน อาหารของชนบทฝรั่งเศสเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 เด็กนั่นเอง อาหารยังมีอิทธิพลมากกว่าอาหารในทิศตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส อาหารหลายตัวที่เคยมี proliferated ในภูมิภาคต่าง ๆทั่วประเทศความรู้เกี่ยวกับการทำอาหารฝรั่งเศสมีส่วนอย่างมากในอาหารตะวันตกและเกณฑ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการปรุงอาหารและอาหารตะวันตกคณะกรรมการโรงเรียนการศึกษา ในเดือนพฤศจิกายน 2010 , ฝรั่งเศส ) ถูกเพิ่มโดยยูเนสโกรายการของโลกคือ " มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ " [ 1 ] [ 2 ]