A =4mD(2)where D is the mean fibre

A =
4m
D
(2)
where D is the mean fibre diameter and  is the fibre density.
Therefore,
S =
4
D
(3)
The density of the nanofibre mat was calculated by using the
mass of the mat in air (m1) and in n-hexane (m2) through the
following equation:
 = (m1h
)/(m1− m2) (4)
where his the density of n-hexane at the temperature of mea-surement.The porosity of the membrane (ε) is obtained by using
the equation:
ε =
Vtot − V
Vtot
(5)
where Vtot is the total (apparent) volume, obtained by measuring
the area and the thickness of the mat, and V is the volume, calculated
from measured mass and density of the nanofibrous membrane

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

=เป็น4 เมตรD(2)ที่ D คือ เส้นผ่าศูนย์กลางหมายถึงเส้นใย และมีความหนาแน่นของเส้นใยดังนั้นS =4D(3)คำนวณความหนาแน่นของแผ่น nanofibre โดยมวลของเสื่อ ในอากาศ (m1) และเอ็นเฮกเซน (m2) ผ่านการสมการต่อไปนี้:= (m1 h) /(m1− m2) (4)ซึ่งของเขาความหนาแน่นของเอ็นเฮกเซนที่อุณหภูมิ mea surementPorosity ของเมมเบรน (ε) จะได้รับ โดยใช้สมการ:Ε =Vtot − VVtot(5)ที่ Vtot เป็นปริมาตร (ชัดเจน) รวม ได้รับ โดยการวัดพื้นที่และความหนาของเสื่อ และ V คือ ปริมาตร คำนวณจากการวัดมวลและความหนาแน่นของเยื่อ nanofibrous

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

=

 4 D ( 2 )

ที่ D เป็นหมายถึงเส้นใยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง และ  เป็นเส้นใยหนาแน่น
ดังนั้น
S =
4
 D

( 3 ) ความหนาแน่นของ nanofibre เสื่อโดยใช้
มวลของเสื่อในอากาศ ( M1 ) และ ในการบีบ ( M2 ) โดยสมการต่อไปนี้ :

 = ( M1  H
) / ( M1 − 2 ) ( 4 )
 ของเขาบีบที่ความหนาแน่นที่อุณหภูมิ mea-surement.the รูพรุนของเยื่อแผ่น ( ε ) จะได้รับโดยใช้
สมการ :
ε =
v
vtot − vtot

( 5 ) ที่ vtot เป็นที่รวม ( เห็นได้ชัด ) ปริมาณซึ่งได้จากการวัด
พื้นที่ และความหนาของพรม และ V คือปริมาตรคำนวณ
จากวัดมวลและความหนาแน่นของแผ่น nanofibrous