Conversely the fourth year female s

Conversely the fourth year female students displayed the least favorable attitude score of
7.16. This showed that the average attitude of females had declined notably, than that of male
students. Thus, much of the overall change in attitude towards accounting from a score of 7.51 in
first year to 7.17 in the fourth year was influenced by female students. Even with an overall
noteworthy decrease in attitudes, both gender still liked accounting as their average scores were
above 7.
In comparing all male students’ attitudes towards accounting profession with those of
their female colleagues regardless of the year of study, no single item reflected a significantdifference. Moreover, the independent sample t-test of their average attitude mean score
produced no significant difference (t=-0.1072, P= 0.404). Therefore the hypothesis that there is
no significant difference in attitudes towards accounting as a career between female and male
accounting students is also not rejected. These results support the findings of McDowall and
Jackling (2010) and McMurtrie (2010) which did not reveal a significant difference in attitudes
towards accounting profession between males and females.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในทางกลับกัน นักศึกษาหญิงปี 4 แสดงคะแนนทัศนคติอันน้อยของ7.16 การนี้พบว่า ทัศนคติเฉลี่ยของหญิงได้ปฏิเสธยวด กว่าของเพศชายนักเรียน ดังนั้น มากของการเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่มีต่อการบัญชีจากใน 7.51 คะแนนรวม7.17 ปีแรกในปีที่ 4 ได้รับอิทธิพลจากนักเรียนหญิง แม้จะ มีการโดยรวมลดลงที่สำคัญในทัศนคติ เพศทั้งยังชอบบัญชีเป็นคะแนนเฉลี่ยของพวกเขาได้ด้านบน 7ในการเปรียบเทียบทัศนคติวิชาชีพบัญชีกับนักชายทั้งหมดเพื่อนร่วมเพศหญิง โดยปีการศึกษา ไม่มีรายการเดียวผล significantdifference นอกจากนี้ t-ทดสอบตัวอย่างอิสระของตนทัศนคติเฉลี่ยหมายถึง คะแนนผลิตไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (t =-0.1072, P = 0.404) ดังนั้นสมมติฐานที่มีไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในทางบัญชีเป็นอาชีพทัศนคติระหว่างเพศหญิงและเพศชายบัญชีนักเรียนจะยังไม่ปฏิเสธ ผลลัพธ์เหล่านี้สนับสนุนผลการวิจัยของ McDowall และJackling (2010) และ McMurtrie (2010) ซึ่งไม่เปิดเผยความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในทัศนคติต่อวิชาชีพบัญชีระหว่างชายและหญิง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตรงกันข้ามปีที่สี่นักเรียนหญิงที่แสดงอย่างน้อยคะแนนทัศนคติที่ดีของ
7.16
นี้แสดงให้เห็นว่าทัศนคติเฉลี่ยของผู้หญิงได้ปฏิเสธสะดุดตากว่าของชายนักเรียน ดังนั้นมากของการเปลี่ยนแปลงโดยรวมในทัศนคติต่อบัญชีจากคะแนน 7.51
ในปีแรกที่7.17 ในปีที่สี่ได้รับอิทธิพลจากนักเรียนหญิง ถึงแม้จะมีโดยรวมลดลงที่สำคัญในทัศนคติทางเพศทั้งยังชอบเป็นคิดเป็นคะแนนเฉลี่ยของพวกเขาดังกล่าวข้างต้น7. ในการเปรียบเทียบทัศนคติของนักเรียนชายที่มีต่อวิชาชีพบัญชีกับบรรดาเพื่อนร่วมงานหญิงของพวกเขาโดยไม่คำนึงถึงปีของการศึกษาไม่มีรายการเดียวสะท้อนให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ. นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างที่เป็นอิสระ t-test ทัศนคติของพวกเขาหมายถึงค่าเฉลี่ยของคะแนนการผลิตไม่แตกต่างกัน(t = -0.1072, P = 0.404) ดังนั้นสมมติฐานที่ว่ามีไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในทัศนคติต่อบัญชีเป็นอาชีพระหว่างหญิงและชายนักเรียนบัญชียังไม่ปฏิเสธ ผลการศึกษานี้สนับสนุนผลการวิจัยของแมคเดาว์และJackling (2010) และ McMurtrie (2010) ซึ่งไม่ได้เผยให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในทัศนคติต่อวิชาชีพบัญชีระหว่างเพศชายและหญิง