base thickness, and the subgrade st

base thickness, and the subgrade strength have significant effect on
the performance of geosynthetic reinforced flexible pavement (e.g.,
Al-Qadi et al., 2008; Collin et al., 1996; Kinney et al., 1998; Perkins,
1999). Little improvement is obtained for pavement test sections
constructed on subgrades with a high California bearing ratio (CBR)
values (Perkins, 1999). For a thin base course layer, placing geogrid
at the subgrade/base course interface gives better performance,
while for a thicker course layer, placing the geogrid at the upper
one third of the base course layer gives better performance (Al-Qadi
et al., 2008; Haas et al., 1988; Abu-Farsakh and Chen, 2011). The
benefit of a geosynthetic becomes insignificant if the base course
layer is very thick (Collin et al., 1996; Kinney et al., 1998).
With pavement design moving toward mechanisticeempirical
based methods, quantifying the benefits of geosynthetics and
incorporating these benefits into MechanisticeEmpirical Pavement
Design Guide (MEPDG) has recently received a lot of attention
(Perkins et al., 2009; Chen and Abu-Farsakh, 2012). Nevertheless, a
lack of understanding the mechanisms of geosynthetic reinforcement,
especially rigorously quantifying the geosynthetic benefits,
has limited the effectiveness of attempts to change the engineering
design practice. These limitations provide a motivation for
continual research on geosynthetic reinforced pavements to better
understand the geosynthetic reinforcement benefits for incorporating
into future pavement design involving mechanisticeempirical
pavement design methods.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความหนาที่ฐาน และความแรงของ subgrade มีผลกระทบในประสิทธิภาพของ geosynthetic เสริมโครง (เช่นอัลกอฎี et al. 2008 ฝา et al. 1996 Kinney et al. 1998 เพอร์กิน1999) การปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ จะได้รับสำหรับส่วนการทดสอบผิวทางสร้างขึ้นบน subgrades สูงแคลิฟอร์เนียแบริ่งอัตราส่วน (CBR)ค่า (เพอร์กิน 1999) สำหรับบางหลักสูตรฐานชั้น วางขดที่ subgrade ฐาน อินเตอร์เฟซหลักสูตรช่วยให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในขณะที่สำหรับชั้นเรียนหนา วางขดที่ที่ด้านบนหนึ่งในสามของหลักสูตรฐานชั้นให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า (อัลกอฎีet al. 2008 ฮา et al. 1988 Abu-Farsakh และเฉิน 2011) การประโยชน์ของการ geosynthetic กลายเป็นไม่สำคัญถ้าหลักสูตรฐานชั้นคือหนามาก (ฝา et al. 1996 Kinney et al. 1998)ด้วยการออกแบบทางเท้าที่เคลื่อนย้ายไปทาง mechanisticeempiricalคะแนนวิธี ประโยชน์ของ geosynthetics เชิงปริมาณ และผสมผสานผลประโยชน์เหล่านี้ในถนน MechanisticeEmpiricalคู่มือการออกแบบ (MEPDG) ล่าสุดได้รับความสนใจมาก(เพอร์กิน et al. 2009 เฉินและอาบู Farsakh, 2012) อย่างไรก็ตาม การความเข้าใจกลไกของ geosynthetic เหล็กเสริมเชิงปริมาณอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยชน์ geosyntheticประสิทธิผลของความพยายามในการเปลี่ยนแปลงทางวิศวกรรมจำกัดออกปฏิบัติงาน ข้อจำกัดเหล่านี้ให้เป็นแรงจูงใจวิจัยอย่างต่อเนื่องบน geosynthetic เสริมทางเท้าที่ดีกว่าเข้าใจประโยชน์เสริม geosynthetic สำหรับเพจในการออกแบบถนนในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับ mechanisticeempiricalวิธีการออกแบบผิวทาง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความหนาของฐานและความแข็งแรงของฐานรากมีผลกระทบต่อ
ประสิทธิภาพการทำงานของ geosynthetic เสริมผิวทางลาดยาง (เช่น
อัล Qadi et al, 2008;.. Collin et al, 1996; นนี่ et al, 1998;. Perkins,
1999) การปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ จะได้รับสำหรับผิวส่วนการทดสอบ
สร้างขึ้นบน subgrades มีอัตราส่วนสูงแบริ่งแคลิฟอร์เนีย (CBR)
ค่า (Perkins, 1999) สำหรับชั้นแน่นอนบางฐานวาง Geogrid
ที่อินเตอร์เฟซฐานราก / หลักสูตรฐานให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
ในขณะที่สำหรับชั้นแน่นอนหนาวาง Geogrid ที่บน
หนึ่งในสามของชั้นแน่นอนฐานให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น (Al-Qadi
et al, 2008; Haas et al, 1988;. อาบู Farsakh และเฉิน 2011)
ประโยชน์ของ geosynthetic กลายเป็นไม่มีนัยสำคัญถ้าหลักสูตรฐาน
ชั้นมีความหนามาก (Collin et al, 1996;.. นนี่, et al, 1998).
ด้วยการออกแบบทางเท้าย้ายไป mechanisticeempirical
วิธีการตามปริมาณประโยชน์ของ Geosynthetics และ
ผสมผสานผลประโยชน์เหล่านี้เป็น MechanisticeEmpirical ทางเท้า
คู่มือการออกแบบ (MEPDG) เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับความสนใจมาก
(Perkins et al, 2009;. เฉินและอาบู Farsakh 2012) อย่างไรก็ตาม
ขาดความเข้าใจกลไกของการเสริมแรง geosynthetic ที่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างจริงจังเชิงปริมาณผลประโยชน์ geosynthetic ที่
มีการ จำกัด ประสิทธิผลของความพยายามที่จะเปลี่ยนวิศวกรรม
การออกแบบ ข้อ จำกัด เหล่านี้ให้แรงจูงใจสำหรับ
การวิจัยอย่างต่อเนื่องบนทางเท้า geosynthetic เสริมให้ดีขึ้น
เข้าใจในผลประโยชน์ที่เสริมแรง geosynthetic สำหรับการใช้มาตรการ
ในการออกแบบทางเท้าในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับ mechanisticeempirical
วิธีการออกแบบทางเท้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความหนาของฐาน และมี ผลต่อความแข็งแรงของฐานถนนประสิทธิภาพของ geosynthetic เสริมผิวจราจรแบบยืดหยุ่น ( เช่นอัล qadi et al . , 2008 ; Collin et al . , 1996 ; Kinney et al . , 1998 ; เพอร์กิ้นส์1999 ) การปรับปรุงเล็ก ๆน้อย ๆ จะได้รับ ส่วนการทดสอบถนนสร้างขึ้นบน subgrades ด้วยสูงอัตราส่วนผลแคลิฟอร์เนีย ( CBR )ค่า ( Perkins , 1999 ) สำหรับบางฐานหลักสูตรชั้นวาง Geogridที่รองพื้นทาง / ฐานติดต่อหลักสูตรให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในขณะที่ชั้นแน่นอนหนา , วาง geogrid ที่ด้านบนหนึ่งในสามของฐานหลักสูตรชั้นให้ประสิทธิภาพดีกว่า qadi ( อัลet al . , 2008 ; Haas et al . , 1988 ; อาบู farsakh และ Chen , 2011 ) ที่ประโยชน์ของ geosynthetic กลายเป็นไม่สำคัญถ้าฐานหลักสูตรเป็นชั้นหนามาก ( Collin et al . , 1996 ; Kinney et al . , 1998 )ด้วยการออกแบบย้ายไปยัง mechanisticeempirical บาทวิถีตาม วิธีการ ปริมาณ ประโยชน์ของ geosynthetics และผสมผสานผลประโยชน์เหล่านี้เป็น mechanisticeempirical บาทวิถีคู่มือการออกแบบ ( mepdg ) ที่เพิ่งได้รับความสนใจมากมาย( เพอกิ้น et al . , 2009 ; เฉินและอาบู farsakh , 2012 ) อย่างไรก็ตาม ,ขาดความเข้าใจกลไกของ geosynthetic เสริม ,โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณประโยชน์ geosynthetic อย่างจริงจัง ,มีจำกัดประสิทธิผลของความพยายามที่จะเปลี่ยนวิศวกรรมการออกแบบการปฏิบัติ ข้อ จำกัด เหล่านี้มีแรงจูงใจสำหรับการวิจัยอย่างต่อเนื่องใน geosynthetic เสริมผิวทางดีเข้าใจ geosynthetic ที่มีประโยชน์สำหรับผสมผสานในการออกแบบที่เกี่ยวข้อง mechanisticeempirical ในอนาคต บาทวิถีวิธีการออกแบบพื้น