The economy of Vietnam is a develop

The economy of Vietnam is a developing planned economy and market economy. Since the mid-1980s, through the Đổi Mới reform period, Vietnam has made a shift from a highly centralized planned economy to a socialist-oriented market economy which use both directive and indicative planning (see Five-Year Plans of Vietnam). Over that period, the economy has experienced rapid growth. In the twenty-first century, Vietnam is in a period of being integrated into the global economy. Almost all Vietnamese enterprises are small and medium enterprises (SMEs). Vietnam has become a leading agricultural exporter and served as an attractive destination for foreign investment in Southeast Asia. In a similar fashion to other Communist countries after the end of the Cold War the planned economy of Vietnam lost the momentum for productivity and sustainable growth. In the current period the economy of Vietnam relies largely on foreign direct investment to attract the capital from overseas to support its continual economic rigorousness.[10]

In 2013, the nominal GDP reached US$170.565 billion,[11] with nominal GDP per capita of US$1,902. According to a forecast in December 2005 by Goldman Sachs, the Vietnamese economy was expected to become the 35th largest economy in the world with nominal GDP of US$436 billion and nominal GDP per capita of US$4,357 by 2020.[12] According to a forecast by the PricewaterhouseCoopers in 2008, Vietnam may be the fastest-growing of the world's emerging economies by 2020, with a potential annual growth rate of about 10% in real terms, which would increase the size of the economy to 70% of the size of the UK economy by 2040.[13]

Vietnam has been named among the Next Eleven and CIVETS countries. Despite economic achievement following Doi Moi, there exist issues that cause many analysts and researchers to remain worried about the economic slowdown in the country in recent years.[14][15]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เศรษฐกิจของเวียดนามมีการวางแผนเศรษฐกิจและตลาดเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนา ตั้งแต่ช่วงกลางของศตวรรษ 1980 ผ่านระยะปฏิรูป Mới Đổi เวียดนามได้ทำการเปลี่ยนจากเศรษฐกิจวางแผนจากส่วนกลางสูงไปเศรษฐกิจสังคมนิยมที่มุ่งเน้นตลาดซึ่งใช้ทั้งคำสั่งและวางแผนกอง (ดูแผนห้าปีของการประเทศเวียดนาม) ช่วงเวลาดังกล่าว เศรษฐกิจมีประสบการณ์เติบโตอย่างรวดเร็ว ในศตวรรษที่ยี่สิบ เวียดนามอยู่ในช่วงถูกรวมเข้ากับเศรษฐกิจโลก ขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs) วิสาหกิจเวียดนามเกือบทั้งหมดได้ เวียดนามได้กลายเป็น ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรชั้นนำ และเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนต่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในลักษณะคล้ายกับประเทศคอมมิวนิสต์หลังสงครามเย็นสิ้นสุด แผนเศรษฐกิจของเวียดนามสูญเสียโมเมนตัมสำหรับประสิทธิภาพการทำงานและเติบโตอย่างยั่งยืน ในปัจจุบัน เศรษฐกิจของเวียดนามอาศัยส่วนใหญ่การลงทุนเพื่อดึงดูดทุนจากต่างประเทศเพื่อสนับสนุนการ rigorousness ทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง [10]ใน 2013, GDP น้อยถึง 170.565 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ, [11] มีอัตรา GDP ต่อหัวของ US$ 1, 902 ตามการคาดการณ์ในเดือน 2548 ธันวาคมโดยโกลด์แมนแซคส์ เศรษฐกิจเวียดนามคาดว่าจะกลายเป็น เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุด 35 ในอัตรา GDP ของ 436 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และอัตรา GDP ต่อหัวของสหรัฐอเมริกา $4,357 2563 [12] ตามไปกับการคาดการณ์โดยเอใน 2008 เวียดนามอาจจะการเติบ โตของเศรษฐกิจโลกปี 2020 มีศักยภาพประจำปีอัตราการเติบโตประมาณ 10% คำจริง จะเพิ่มขนาดของเศรษฐกิจจะ 70% ของขนาดเศรษฐกิจ UK 2040 [13]เวียดนามได้รับการยกย่องประเทศถัด Eleven และลม แม้ มีความสำเร็จทางเศรษฐกิจต่อดอย Moi มีปัญหาที่ทำให้นักวิเคราะห์หลายคน และนักวิจัยยังคงกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศในปีล่าสุด [14] [15]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เศรษฐกิจของเวียดนามคือการพัฒนาเศรษฐกิจและการวางแผนเศรษฐกิจตลาด นับตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 1980 ผ่านระยะเวลาการปฏิรูปĐổiมัวเวียดนามได้ทำให้เปลี่ยนจากการวางแผนเศรษฐกิจส่วนกลางอย่างมากที่จะสังคมนิยมเชิงเศรษฐกิจตลาดซึ่งใช้ทั้งสั่งและตัวบ่งชี้การวางแผน (ดูแผนห้าปีของเวียดนาม) ในช่วงที่เศรษฐกิจมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดเวียดนามอยู่ในช่วงของการถูกรวมเข้ากับเศรษฐกิจโลก เกือบรัฐวิสาหกิจเวียดนามทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เวียดนามได้กลายเป็นผู้ส่งออกชั้นนำของการเกษตรและทำหน้าที่เป็นปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนจากต่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในลักษณะคล้ายกับประเทศคอมมิวนิสต์อื่น ๆ หลังจากการสิ้นสุดของสงครามเย็นวางแผนเศรษฐกิจของเวียดนามสูญเสียโมเมนตัมสำหรับการผลิตและการเติบโตอย่างยั่งยืน ในงวดปัจจุบันเศรษฐกิจของเวียดนามอาศัยส่วนใหญ่เกี่ยวกับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพื่อดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศเพื่อสนับสนุนความรุนแรงทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง. [10] ในปี 2013 จีดีพีถึง 170.565 $ พันล้าน [11] กับจีดีพีต่อหัวของสหรัฐ US $ 1,902 ตามการคาดการณ์ในเดือนธันวาคมปี 2005 โดยโกลด์แมนแซคส์ที่เศรษฐกิจเวียดนามที่คาดว่าจะกลายเป็น 35 เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีค่าจีดีพีของสหรัฐ 436 $ พันล้านดอลลาร์และค่าจีดีพีต่อหัวของสหรัฐ $ 4,357 ในปี 2020 [12] ตามที่คาดการณ์ โดย PricewaterhouseCoopers ในปี 2008 เวียดนามอาจจะเติบโตเร็วที่สุดของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ของโลกโดยในปี 2020 มีอัตราการที่มีศักยภาพการเติบโตประมาณ 10% ในแง่จริงซึ่งจะเพิ่มขนาดของเศรษฐกิจถึง 70% ของขนาดของ เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรโดย 2040 [13] เวียดนามได้รับการตั้งชื่อในหมู่ถัดไป Eleven และชะมดประเทศ แม้จะมีความสำเร็จทางเศรษฐกิจต่อไปดอยม่อยมีอยู่ปัญหาที่ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนและนักวิจัยที่จะยังคงกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศในปีที่ผ่านมา. [14] [15]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เศรษฐกิจของเวียดนามมีการพัฒนาแผนเศรษฐกิจและตลาดเศรษฐกิจ นับตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 1980 , ผ่านĐổผมớผมสมัยปฏิรูป เวียดนามได้เปลี่ยนจากการใช้ร่วมกันวางแผนเศรษฐกิจสังคมนิยมแบบตลาด เศรษฐกิจ ซึ่งใช้ทั้งคำสั่งและการวางแผน 3 ( ดูแผนห้าปีของเวียดนาม ) ในช่วงที่เศรษฐกิจมีประสบการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในศตวรรษที่ยี่สิบ เวียดนามอยู่ในช่วงของการรวมในเศรษฐกิจโลก วิสาหกิจเวียดนามเกือบทั้งหมดเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( SMEs ) เวียดนามกลายเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและทำหน้าที่เป็นปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนจากต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในแฟชั่นที่คล้ายกันประเทศคอมมิวนิสต์อื่น ๆหลังจากการสิ้นสุดของสงครามเย็นแผนเศรษฐกิจของเวียดนามสูญเสียโมเมนตัมสำหรับการผลิตและการเติบโตที่ยั่งยืน ในช่วงเวลาปัจจุบัน เศรษฐกิจของเวียดนามที่อาศัยส่วนใหญ่ในการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เพื่อดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศเพื่อสนับสนุนความเข้มงวดทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของ . [ 10 ]ใน 2013 , GDP ลดลงถึง US $ 170.565 พันล้าน [ 11 ] กับ nominal GDP ต่อหัวของสหรัฐอเมริกา $ 1900 . ตามการคาดการณ์ในเดือนธันวาคม 2549 โดยโกลด์แมนแซคส์ เศรษฐกิจเวียดนามคาดว่าจะกลายเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย GDP ระบุ 35 US $ 436 พันล้านและ nominal GDP ต่อหัวของสหรัฐอเมริกา $ การให้คําโดย 2020 . [ 12 ] ตามการคาดการณ์โดย PricewaterhouseCoopers ในปี 2551 เวียดนามจะเติบโตเร็วที่สุดของ ของโลกเศรษฐกิจใหม่โดย 2020 , ที่มีศักยภาพประจำปีอัตราการเติบโตประมาณ 10% ในแง่จริง ซึ่งจะช่วยเพิ่มขนาดของเศรษฐกิจถึง 70% ของขนาดของเศรษฐกิจ UK โดย 2040 . [ 13 ]เวียดนามได้รับการตั้งชื่อในประเทศ 11 ถัดไปและชะมด . แม้จะมีผลทางเศรษฐกิจต่อไปนี้โด๋ยเม้ย ยังมีปัญหาที่ทำให้นักวิเคราะห์และนักวิจัยยังคงกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศใน ปี ล่าสุด [ 14 ] [ 15 ]