What are the opportunities for the

What are the opportunities for the extension profession?

Do extension organisations and practitioners themselves need to change in order to achieve change more effectively? An opportunity exists for those who are required to achieve change for their organisations, through the actions of others, to network and design a system of professional development. The challenge is to develop context-free skills in achieving change that can be adapted to any situation (individuals will bring their own particular technical knowledge and skills). As well as developing new skills, extension practitioners require a clear understanding of the environment they are working within, for example, "Who has the mandate and the ability (power?) to bring about change?" and "How are these required changes likely to impact the goals of individuals?" An international consulting firm established the 4% productivity target for the NZ dairy industry. This figure initially indicated what the industry requires to retain (or improve) its competitive performance. It has now become the extension challenge whereby the industry needs to collectively achieve this level of performance to remain viable in future.

Using a productivity target for a sector raises some interesting extension issues. Do we assume that what is rational for each individual farmer is the same as that for the industry as a whole? Are we adequately representing what is required in terms of change in the industry when we refer to a 4% productivity target? Experience to date indicates that the term productivity has been confusing to farmers (referring to a financial ratio) and tends to reinforce extension as a transfer of technology orientation at a time when participatory approaches are required to effectively facilitate change. Is extension the profession that is used to communicate to farmers the need for this target and to hold their hands as they strive to achieve it? An alternative approach would view extension as the profession that is a participant with others involved in industry strategy because of its unique position to facilitate change at every level of the industry, from farm management to industry planning. For example, Engel and Salomon (1997) refer to the role that extension performs in facilitating innovation for development. They used the concept Theatres of Innovation (in our example the New Zealand Dairy Industry) to design a comprehensive toolkit of methods and processes that enable the support of change for all participants in the theatre.

If extension is to play a more strategic role in rural industries and rural communities and thereby enhance their ability to manage change do we need any research for extension? Many extension practitioners say there is no need for research – just get on with the job. Yet, like most people, these same practitioners do their own research, though rarely document their findings. Learning independently can limit the possible rate of progress, and while there may be continuous incremental learning, the rate of change demands that there is transformational or generative learning (i.e. develop new paradigms) in order to make significant progress forward. The questions posed above will not be resolved by isolated, incremental and indiscriminate research endeavours of practitioners.

Extension is in dire need of a professional credibility among its peer professions like agricultural science and rural sociology. We contend that research on and with extension practitioners will be fundamental to developing this credibility. This research work needs to advance both theoretical and methodological understanding of extension. Most extension practitioners are critical of the Transfer of Technology model along with its counterpart the Adoption-Diffusion paradigm of innovation (Rogers and Shoemaker 1971). While we agree with many of the criticisms of the model we are concerned that there is little substantive work that enables organisations to use a more relevant and effective model for managing innovation and change. Considerable effort has been expended on participatory approaches but this has often stemmed from anti-science sentiments that does little to achieve a harmony among those working in Engel’s Theatre of Innovation (Paine 1997). We believe the time is right to undertake a comprehensive research program that is grounded in the rural environments of Australian and New Zealand to advance understanding of innovation and change. This work would set out to develop a pragmatic and theoretical framework that would assist in the analysis of needs, strategic planning, design and evaluation of innovation and change projects. Practitioners have often called for models other than the Transfer of Technology conception of these activities but are powerless to do more than voice their concerns. Their use of the term process to describe much of what they do when analysing, designing or evaluating their work provides some direction for this research.

Latour (1996) has begun this exploration of process by testing the power of process philosophy to explain the science and innovation surrounding the development and uses of lactic acid by industry. Latour was pursuing a social study of science. Extension research needs to develop a framework that is capable of spawning innovations in extension methodologies that in turn will support innovative practices in rural industries and communities. We believe this need is so broad that practitioners (e.g. Extension and Consultancy) and researchers (eg. University and Research Institute) in both Australia and New Zealand could work together on a variety of projects that collectively contribute towards an improved understanding of process in relation to innovation and change.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โอกาสในการขยายอาชีพมีอะไรบ้างต่อองค์กรและผู้ฝึกฝนตนเองต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้บรรลุการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ โอกาสมีสำหรับผู้ที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กรของพวกเขา ผ่านการกระทำของผู้อื่น เครือข่าย และออกแบบระบบการพัฒนาอาชีพ ความท้าทายคือการ พัฒนาทักษะที่ปราศจากบริบทในการบรรลุการเปลี่ยนแปลงที่สามารถดัดแปลงสถานการณ์ใด ๆ (บุคคลจะนำความรู้ด้านเทคนิคเฉพาะและทักษะของตนเอง) รวมทั้งการพัฒนาทักษะใหม่ นามสกุลของผู้ต้องการทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมที่กำลังทำงานภายใน ตัวอย่าง "ที่มีโองการและความสามารถ (power) เพื่อเปลี่ยนแปลงหรือไม่ " และ"การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จำเป็นจะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายของบุคคลหรือไม่ " บริษัทปรึกษาระหว่างประเทศก่อตั้งเป้าหมายผลผลิต 4% สำหรับอุตสาหกรรมนมนิวซีแลนด์ รูปนี้เริ่มระบุอุตสาหกรรมที่ต้อง การรักษา (ปรับปรุง) ผลการดำเนินงานแข่งขัน ตอนนี้มันได้กลายเป็นส่วนขยายความท้าทายโดยต้องบรรลุระดับนี้ประสิทธิภาพการทำงานยังคงทำงานได้ในอนาคตโดยรวมอุตสาหกรรมใช้เป้าหมายผลผลิตภาคการระดมปัญหาบางนามสกุลที่น่าสนใจ เราสมมติว่า เชือดสำหรับเกษตรกรแต่ละแต่ละคือเหมือนกับที่อุตสาหกรรมโดยรวมหรือไม่ เราเพียงพอแสดงสิ่งจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมเราถึงเป้าหมายผลผลิต 4% หรือไม่ ประสบการณ์วันที่บ่งชี้ว่า ผลผลิตระยะแล้วเกิดความสับสนแก่เกษตรกร (หมายถึงอัตราส่วนทางการเงิน) และมีแนวโน้มที่หนุนขยายเป็นแนวเทคโนโลยีที่เมื่อแนวทางการมีส่วนร่วมจะต้องมีประสิทธิภาพช่วยในการเปลี่ยนแปลงการโอน เป็นส่วนขยายของอาชีพที่ใช้ติดต่อสื่อสารกับเกษตรกรสำหรับเป้าหมายนี้ และกุมมือของพวกเขาพวกเขามุ่งมั่นที่จะบรรลุมัน วิธีการอื่นจะดูส่วนขยายเป็นอาชีพที่ได้เข้าร่วมกับผู้อื่นที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์เนื่องจากตำแหน่งที่ไม่ซ้ำกันเพื่อให้ง่ายต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกระดับอุตสาหกรรม จากการจัดการฟาร์มการวางแผนอุตสาหกรรม ตัวอย่าง Engel และ Salomon (1997) หมายถึงบทบาทที่ดำเนินการส่วนขยายในการอำนวยความสะดวกสำหรับการพัฒนานวัตกรรม พวกเขาใช้แนวคิดละครนวัตกรรม (ในอย่างอุตสาหกรรมนมนิวซีแลนด์) ออกแบบเครื่องมือครอบคลุมวิธีการและกระบวนการที่เปิดใช้งานการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงผู้เข้าร่วมทั้งหมดในโรงละครถ้านามสกุลเป็นบทบาทเชิงกลยุทธ์มากขึ้นในอุตสาหกรรมชนบทและชนบท และเพิ่มความสามารถในการจัดการการเปลี่ยนแปลงจึง ต้องวิจัยใด ๆ สำหรับส่วนขยาย หลายนามสกุลผู้ว่า การวิจัยไม่จำเป็น – เพิ่งได้รับในงาน ยัง เช่นคนส่วนใหญ่ เหล่านี้ผู้เดียวทำวิจัยของตนเอง แม้ว่า เอกสารไม่ค่อยเปิดเผย เรียนรู้อย่างอิสระสามารถจำกัดอัตราความคืบหน้าเป็นไปได้ และในขณะที่อาจมีการเรียนรู้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อัตราการเปลี่ยนแปลงความต้องการที่ มีภาวะ หรือ generative เรียน (เช่นพัฒนา paradigms ใหม่) เพื่อให้ความคืบหน้าสำคัญไปข้างหน้า คำถามข้างต้นทำให้เกิดจะไม่สามารถแก้ไขได้ โดยการแยก เพิ่ม และเลือกรายแรก ๆ ของผู้นามสกุลอยู่ในต้องหายนะของความน่าเชื่อถือระดับมืออาชีพในวิชาชีพของเพียร์วิทยาศาสตร์เกษตรและสังคมวิทยาชนบท เราขอยืนยันว่า วิจัย และ มีนามสกุลของผู้จะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาความน่าเชื่อถือนี้ งานวิจัยนี้ต้องเข้าใจทฤษฎี และ methodological ต่ออายุล่วงหน้า ส่วนใหญ่นามสกุลของผู้ที่มีความสำคัญของแบบจำลองการถ่ายโอนเทคโนโลยีพร้อมกับสำเนาของกระบวนทัศน์แพร่รับของนวัตกรรม (โรเจอร์สและชูเมกเกอร์ 1971) ในขณะที่เราเห็นด้วยกับหลายวิจารณ์รุ่นเรามีความกังวลว่า มีงานเราน้อยที่ช่วยให้องค์กรเพื่อใช้เป็นแบบจำลองที่เกี่ยวข้องมากขึ้น และมีประสิทธิภาพสำหรับการจัดการนวัตกรรม และการเปลี่ยนแปลง เงินในวิธีแบบมีส่วนร่วมความพยายามมาก แต่นี้มักมี stemmed จากรู้สึกต่อต้านวิทยาศาสตร์ที่ไม่น้อยเพื่อให้เกิดความสามัคคีในหมู่ผู้ทำงานในของ Engel ละครนวัตกรรม (Paine 1997) เราเชื่อว่า เวลาถูกต้องเพื่อดำเนินการวิจัยครอบคลุมโปรแกรมที่สูตรในสภาพแวดล้อมแบบชนบทของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เพื่อความเข้าใจของนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงล่วงหน้า งานนี้จะกำหนดกรอบปฏิบัติ และทฤษฎีที่จะช่วยในการวิเคราะห์ความต้องการ กลยุทธ์การวางแผน ออกแบบ และประเมินโครงการนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลง พัฒนา ผู้มีมักเรียกแบบจำลองไม่คิดถ่ายโอนเทคโนโลยีของกิจกรรมเหล่านี้ แต่จะทำมากกว่าเสียงผู้ใช้ การใช้ของกระบวนการคำอธิบายมากสิ่งที่พวกเขาทำเมื่อวิเคราะห์ ออกแบบ หรือประเมินงานให้บางทิศทางสำหรับงานวิจัยนี้Latour (1996) ได้เริ่มกระบวนการสำรวจนี้ โดยการทดสอบอำนาจของกระบวนการปรัชญาวิทยาศาสตร์และสภาพแวดล้อมการพัฒนานวัตกรรม และใช้กรด โดยอุตสาหกรรม Latour ใฝ่หาการศึกษาทางสังคมศาสตร์ วิจัยขยายจำเป็นต้องพัฒนาเป็นกรอบที่มีความสามารถในการวางไข่นวัตกรรมในลักษณะนามสกุลที่ใช้จะสนับสนุนปฏิบัตินวัตกรรมในอุตสาหกรรมชนบทและชุมชน เราเชื่อว่า ความต้องการนี้เป็นดังนั้นสิ่งที่ผู้ (เช่นส่วนขยายและให้คำปรึกษา) และนักวิจัย (เช่น มหาวิทยาลัยและ สถาบันวิจัย) ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์สามารถทำงานร่วมกันบนความหลากหลายของโครงการที่มีส่วนร่วมต่อความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการเกี่ยวกับนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงโดยรวม ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อะไรคือโอกาสในการขยายอาชีพ? ทำองค์กรที่ขยายตัวเองและผู้ปฏิบัติงานจำเป็นต้องเปลี่ยนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ? โอกาสที่มีอยู่สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นเพื่อให้บรรลุการเปลี่ยนแปลงในองค์กรของพวกเขาผ่านการกระทำของคนอื่น ๆ ในเครือข่ายและการออกแบบระบบการพัฒนามืออาชีพ ความท้าทายคือการพัฒนาทักษะบริบทในการบรรลุการเปลี่ยนแปลงที่สามารถปรับให้เข้ากับสถานการณ์ใด ๆ (บุคคลที่จะนำความรู้ทางเทคนิคของตัวเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งและทักษะ) รวมทั้งการพัฒนาทักษะใหม่ขยายผู้ปฏิบัติจำเป็นต้องมีความเข้าใจที่ชัดเจนของสภาพแวดล้อมที่พวกเขากำลังทำงานภายในตัวอย่างเช่น "ใครมีอำนาจและความสามารถ (power) เพื่อนำมาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง?" และ "วิธีการที่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายของบุคคลได้หรือไม่" บริษัท ที่ปรึกษาระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นเป้าหมายการผลิต 4% สำหรับอุตสาหกรรมนมนิวซีแลนด์ ตัวเลขนี้ในขั้นต้นชี้ให้เห็นสิ่งที่อุตสาหกรรมต้องใช้ในการรักษา (หรือปรับปรุง) ผลการดำเนินงานในการแข่งขัน มันได้กลายเป็นความท้าทายในขณะนี้โดยการขยายอุตสาหกรรมต้องการที่จะรวมบรรลุระดับของการปฏิบัตินี้ยังคงทำงานได้ต่อไปในอนาคต. ใช้เป้าหมายการผลิตสำหรับภาคการยกบางประเด็นที่น่าสนใจขยาย ไม่เราคิดว่าสิ่งที่เป็นเหตุผลของแต่ละบุคคลที่เกษตรกรเป็นเช่นเดียวกับที่อุตสาหกรรมโดยรวมหรือไม่? พวกเราจะเพียงพอที่เป็นตัวแทนของสิ่งที่จะต้องในแง่ของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมเมื่อเรากล่าวถึงเป้าหมายการผลิต 4%? ประสบการณ์การทำงานถึงวันที่บ่งชี้ว่าการผลิตในระยะที่ได้รับความสับสนให้กับเกษตรกร (หมายถึงอัตราส่วนทางการเงิน) และมีแนวโน้มที่จะเสริมสร้างส่วนขยายเป็นการถ่ายโอนเทคโนโลยีของการปรับในช่วงเวลาที่วิธีการมีส่วนร่วมจะต้องมีประสิทธิภาพในการอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนแปลง ขยายเป็นอาชีพที่ใช้ในการสื่อสารให้กับเกษตรกรจำเป็นต้องสำหรับเป้าหมายนี้และที่จะจับมือของพวกเขาขณะที่พวกเขามุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จได้หรือไม่ วิธีทางเลือกที่จะดูการขยายเป็นอาชีพที่มีส่วนร่วมกับคนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมกลยุทธ์เพราะตำแหน่งที่ไม่ซ้ำกันเพื่ออำนวยความสะดวกการเปลี่ยนแปลงในระดับของอุตสาหกรรมทุกจากการจัดการฟาร์มเพื่อการวางแผนอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างเช่นอีและซาโลมอน (1997) อ้างถึงบทบาทที่ขยายดำเนินการในการอำนวยความสะดวกด้านนวัตกรรมสำหรับการพัฒนา พวกเขาใช้แนวคิดโรงละครแห่งนวัตกรรม (ในตัวอย่างของเราอุตสาหกรรมนมนิวซีแลนด์) ในการออกแบบชุดเครื่องมือที่ครอบคลุมวิธีการและกระบวนการที่ช่วยให้การสนับสนุนของการเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้เข้าร่วมทั้งหมดในโรงละคร. ถ้านามสกุลคือการมีบทบาทเชิงกลยุทธ์มากขึ้นในชนบท อุตสาหกรรมและชุมชนในชนบทและจึงเพิ่มความสามารถในการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงที่เราต้องทำวิจัยสำหรับการขยายหรือไม่? ผู้ปฏิบัติงานส่วนขยายหลายคนบอกว่ามีความจำเป็นสำหรับการวิจัยไม่มี - เพียงแค่ได้รับกับงาน แต่เช่นคนส่วนใหญ่ปฏิบัติงานเหล่านี้เหมือนกันทำวิจัยของตัวเองแม้ว่าจะไม่ค่อยเอกสารที่ค้นพบ การเรียนรู้อย่างอิสระสามารถ จำกัด อัตราที่เป็นไปได้ของความคืบหน้าและในขณะที่อาจจะมีการเรียนรู้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอัตราการเปลี่ยนแปลงเรียกร้องให้มีการเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงหรือการกำเนิด (เช่นการพัฒนากระบวนทัศน์ใหม่) เพื่อที่จะทำให้ความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญไปข้างหน้า คำถามที่ถูกวางไว้ข้างต้นจะไม่ได้รับการแก้ไขโดยการแยกความพยายามวิจัยที่เพิ่มขึ้นและการพิจารณาของผู้ปฏิบัติงาน. ขยายอยู่ในต้องหายนะของความน่าเชื่อถือระดับมืออาชีพในหมู่เพื่อนของอาชีพเช่นวิทยาศาสตร์การเกษตรและสังคมวิทยาชนบท เรายืนยันว่าการวิจัยและผู้ปฏิบัติงานที่มีส่วนขยายจะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาความน่าเชื่อถือนี้ งานวิจัยนี้ต้องการที่จะก้าวไปทั้งในทางทฤษฎีและเข้าใจวิธีการของการขยาย ส่วนใหญ่ผู้ปฏิบัติงานส่วนขยายที่มีความสำคัญของการถ่ายโอนเทคโนโลยีรูปแบบพร้อมกับคู่ของกระบวนทัศน์การยอมรับ-การแพร่กระจายของนวัตกรรม (โรเจอร์สและช่างทำรองเท้า 1971) ในขณะที่เราเห็นด้วยกับหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ของรูปแบบที่เรามีความกังวลว่ามีงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สำคัญที่ช่วยให้องค์กรที่จะใช้รูปแบบที่เกี่ยวข้องมากขึ้นและมีประสิทธิภาพสำหรับการจัดการนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลง ความพยายามอย่างมากที่ได้รับการใช้จ่ายเกี่ยวกับวิธีการแบบมีส่วนร่วม แต่ตอนนี้ยังเกิดมักจะมาจากความรู้สึกต่อต้านว่าวิทยาศาสตร์ไม่น้อยที่จะเกิดความสามัคคีในหมู่ผู้ที่ทำงานในโรงละครอีของนวัตกรรม (พายน์ 1997) เราเชื่อว่าเวลาที่เหมาะสมที่จะดำเนินการโครงการวิจัยที่ครอบคลุมที่เป็นเหตุผลในสภาพแวดล้อมในชนบทของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จะก้าวไปสู่ความเข้าใจของนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลง งานนี้จะกำหนดไว้ในการพัฒนากรอบการปฏิบัติและทฤษฎีที่จะช่วยในการวิเคราะห์ความต้องการของการวางแผนเชิงกลยุทธ์การออกแบบและการประเมินผลของนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงโครงการ ผู้ประกอบการมักจะเรียกว่าได้สำหรับรุ่นอื่น ๆ กว่าการถ่ายโอนเทคโนโลยีของความคิดของกิจกรรมเหล่านี้ แต่ไม่มีอำนาจที่จะทำมากกว่าเสียงของพวกเขากังวล การใช้งานของกระบวนการระยะที่จะอธิบายมากของสิ่งที่พวกเขาทำเมื่อวิเคราะห์การออกแบบหรือการประเมินผลการทำงานของพวกเขาให้ทิศทางบางอย่างสำหรับการวิจัยครั้งนี้. Latour (1996) ได้เริ่มการสำรวจของกระบวนการนี้โดยการทดสอบพลังของปรัชญากระบวนการที่จะอธิบายวิทยาศาสตร์และ นวัตกรรมรอบการพัฒนาและการใช้ประโยชน์จากกรดแลคติกโดยอุตสาหกรรม Latour ได้รับการใฝ่หาการศึกษาทางสังคมของวิทยาศาสตร์ การวิจัยขยายต้องการในการพัฒนากรอบการทำงานที่มีความสามารถของนวัตกรรมวางไข่ในวิธีการขยายที่ในการเปิดจะให้การสนับสนุนการปฏิบัติที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในอุตสาหกรรมในชนบทและชุมชน เราเชื่อว่าความต้องการนี้เป็นวงกว้างเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงาน (เช่นการขยายและให้คำปรึกษา) และนักวิจัย (เช่น. มหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัย) ทั้งในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์สามารถทำงานร่วมกันบนความหลากหลายของโครงการที่เรียกมีส่วนร่วมต่อความเข้าใจที่ดีขึ้นของกระบวนการในความสัมพันธ์ ที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อะไรคือโอกาสในการขยายอาชีพ ?

ทำองค์กรส่งเสริมและผู้ปฏิบัติงานต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้บรรลุการเปลี่ยนแปลงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ? โอกาสมีสำหรับผู้ที่ต้องการเพื่อให้บรรลุการเปลี่ยนแปลงสำหรับองค์กรของพวกเขา ผ่านการกระทำของผู้อื่นเพื่อการออกแบบเครือข่ายและระบบการพัฒนาวิชาชีพความท้าทายคือการพัฒนาทักษะในการบรรลุการเปลี่ยนแปลงบริบทฟรีที่สามารถปรับให้เข้ากับทุกสถานการณ์ ( บุคคลที่จะนำของตนเองโดยเฉพาะความรู้ด้านเทคนิคและทักษะ ) รวมทั้งการพัฒนาทักษะใหม่ ส่งเสริมผู้ปฏิบัติงานต้องมีความเข้าใจที่ชัดเจนของสภาพแวดล้อมที่พวกเขากำลังทำงานอยู่ภายใน ตัวอย่างเช่น " ใครมีอำนาจและความสามารถ ( ไฟฟ้า ) ? เพื่อนำมาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง ?" และ " วิธีเหล่านี้ต้องการการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายของแต่ละบุคคล ? บริษัทที่ปรึกษาระหว่างประเทศก่อตั้งเป้าหมายการผลิต 4 % สำหรับ NZ นมอุตสาหกรรม รูปนี้ตอนแรก พบว่า อุตสาหกรรมที่ต้องใช้เพื่อรักษาหรือปรับปรุง ) ความสามารถในการแข่งขันของมันได้กลายเป็นส่วนขยายความท้าทายที่อุตสาหกรรมต้องเรียกบรรลุระดับของการปฏิบัตินี้จะยังคงอยู่ได้ในอนาคต

ใช้ผลผลิตเพิ่มบางประเด็นที่น่าสนใจสำหรับภาคขยาย เราสันนิษฐานได้ว่า อะไรคือเหตุผลที่เกษตรกรแต่ละบุคคลก็เหมือนกันสำหรับอุตสาหกรรมทั้งหมด ?เราเป็นตัวแทนของสิ่งที่จะต้องมีในแง่ของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม เมื่อเราอ้างถึงเป้าหมายการผลิต 4 %ประสบการณ์ที่อาจบ่งชี้ว่าผลผลิตระยะยาวได้สับสนกับเกษตรกร ( หมายถึงอัตราส่วนทางการเงิน ) และมีแนวโน้มที่จะเสริมสร้างการเป็นการปฐมนิเทศเทคโนโลยีในเวลาเมื่อเข้ามามีส่วนร่วมจะต้องมีความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงคือการส่งเสริมอาชีพที่ใช้สื่อสารให้เกษตรกรต้องการเป้าหมายนี้ และจับมือของพวกเขาตามที่พวกเขามุ่งมั่นที่จะบรรลุมัน ทางเลือกจะดูนามสกุลเป็นอาชีพที่เป็นส่วนร่วมกับคนอื่น ๆที่เกี่ยวข้องในกลยุทธ์อุตสาหกรรม เพราะตำแหน่งที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงในระดับของทุกอุตสาหกรรมจากการจัดการฟาร์มการวางแผนอุตสาหกรรม ตัวอย่างเช่น เกล ซาโลมอน ( 1997 ) และอ้างถึงบทบาทที่ส่งเสริมประสิทธิภาพในการส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อการพัฒนา เขาใช้แนวคิดของนวัตกรรมโรงภาพยนตร์ ( ในตัวอย่างของเราที่นิวซีแลนด์อุตสาหกรรมนม ) การออกแบบเครื่องมือที่ครอบคลุมของวิธีการและกระบวนการที่ช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของผู้เข้าร่วมทั้งหมดในโรงละคร .

ถ้าขยายบทบาทเชิงกลยุทธ์มากขึ้นในชุมชนชนบทเกษตรอุตสาหกรรมและเพื่อเพิ่มความสามารถในการจัดการการเปลี่ยนแปลงเราต้องทำวิจัยใด ๆ สำหรับส่วนขยาย ? ผู้ปฏิบัติงานส่งเสริมมากว่า ไม่ต้องมี – วิจัยไปพร้อมกับงาน แต่เหมือนคนส่วนใหญ่ ผู้ปฏิบัติงานเหล่านี้ทำวิจัยของตนเอง แม้ว่าจะไม่ค่อยได้เอกสารผลการวิจัยของพวกเขาการเรียนรู้อย่างอิสระ สามารถกำหนดอัตราที่เป็นไปได้ของความก้าวหน้า และในขณะที่อาจจะมีการเพิ่มการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง อัตราความต้องการที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรือเข้าเรียน ( เช่น พัฒนากระบวนทัศน์ใหม่ ) เพื่อให้มีความคืบหน้าที่สำคัญไปข้างหน้า คำถามที่ถูกวางข้างต้นจะไม่สามารถแก้ไขได้ โดยการแยก