SectorsSingapore is a world leader

Sectors
Singapore is a world leader in several economic areas: The country is the world's fourth leading financial centre,[123] the world's second largest casino gambling market,[124] one of the world's top three oil-refining centres, the world's largest oil-rig producer, and a major hub for ship repair services.[125][126][127] The World Bank has named Singapore as the easiest place in the world to do business,[124] and ranks Singapore the world's top logistics hub.[128] The 4th edition of the Global Green Economy Index™ (GGEI) revealed that expert practitioners ranked Singapore the 7th greenest city in the world.[129]

In April 2013, for the first time, Singapore surpassed Japan in average daily foreign-exchange trading volume with $383 billion per day. So the rank became: the United Kingdom (41%), the United States (19%), Singapore (5.7)%, Japan (5.6%) and Hong Kong (4.1%).[130]

Singapore's economy depends heavily on exports and refining imported goods, especially in manufacturing,[131] which constituted 27% of the country's GDP in 2010, and includes significant electronics, petroleum refining, chemicals, mechanical engineering and biomedical sciences sectors. In 2006, Singapore produced about 10% of the world's foundry wafer output.[132] Singapore has a diversified economy, a strategy that the government considers vital for its growth and stability despite its size.[133]

Tourism also forms a large part of the economy, with over 15 million tourists visiting the city-state in 2014.[134] To attract more tourists, the government legalised gambling in 2005 and allowed two casino resorts (called Integrated Resorts) to be developed.[135] Singapore also promotes itself as a medical tourism hub: about 200,000 foreigners seek medical care there each year. Singapore medical services aim to serve at least one million foreign patients annually and generate USD3 billion in revenue.[136]

Singapore is an education hub, and many foreign students study in Singapore. More than 80,000 international students studied in Singapore in 2006.[137] Every morning, more than 5,000 Malaysian students cross the Johor–Singapore Causeway for education in Singapore.[138] In 2009, 20% of all students in Singaporean universities were international students. The students were mainly from ASEAN, China and India.[139]

As a result of the recession in the early 2000s and a slump in the technology sector, Singapore's GDP contracted by 2.2% in 2001. The Economic Review Committee was set up in December 2001 and recommended several policy changes to revitalise the economy. Singapore has since recovered, due largely to improvements in the world economy; the economy grew by 8.3% in 2004, 6.4% in 2005,[140] and 7.9% in 2006.[141] After a contraction of 0.8% in 2009, the economy recovered in 2010, with GDP growth of 14.5%. Most work in Singapore is in the service sector, which employed 2,151,400 people out of 3,102,500 jobs in December 2010. The percentage of unemployed economically active people above age 15 is about 2%.[142]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภาคสิงคโปร์เป็นผู้นำระดับโลกในด้านเศรษฐกิจหลาย: ประเทศโลกที่สี่ของศูนย์กลางทางการเงินชั้นนำ [123] คาสิโนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกที่ตลาดการพนัน [124] หนึ่งของโลกด้านบนสามศูนย์น้ำมันกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของโลก ผลิต -rig และเป็นศูนย์กลางที่สำคัญสำหรับการให้บริการซ่อมเรือ. [125] [126] [127] ธนาคารโลกมีชื่อสิงคโปร์เป็นสถานที่ที่ง่ายที่สุดในโลกในการทำธุรกิจ [124] และอันดับที่สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางโลจิสติกชั้นนำของโลก . [128] ฉบับที่ 4 ของดัชนีเศรษฐกิจสีเขียวทั่วโลก™ (GGEI) เปิดเผยว่าผู้ปฏิบัติงานผู้เชี่ยวชาญการจัดอันดับประเทศสิงคโปร์เมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ 7 ในโลก. [129] ในเดือนเมษายนปี 2013 เป็นครั้งแรกในสิงคโปร์แซงญี่ปุ่นเฉลี่ยต่อวันต่างประเทศ ปริมาณการซื้อขาย -exchange กับ 383,000,000,000 $ ต่อวัน ดังนั้นอันดับกลายเป็น. สหราชอาณาจักร (41%) สหรัฐอเมริกา (19%) สิงคโปร์ (5.7)% ญี่ปุ่น (5.6%) และฮ่องกง (4.1%) [130] เศรษฐกิจของสิงคโปร์ขึ้นอยู่กับการส่งออกและ กลั่นสินค้านำเข้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิต [131] ซึ่งประกอบด้วย 27% ของ GDP ของประเทศในปี 2010 และรวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม, สารเคมี, วิศวกรรมเครื่องกลและภาควิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ ในปี 2006 สิงคโปร์ผลิตประมาณ 10% ของการส่งออกเวเฟอร์หล่อของโลก. [132] สิงคโปร์มีเศรษฐกิจที่หลากหลายกลยุทธ์ที่ว่ารัฐบาลจะพิจารณาที่สำคัญสำหรับการเจริญเติบโตและความมั่นคงของแม้จะมีขนาดของมัน. [133] การท่องเที่ยวยังเป็นส่วนมาก เศรษฐกิจที่มีมากกว่า 15 ล้านนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองรัฐในปี 2014 [134] เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้นรัฐบาลพนันในปี 2005 และอนุญาตให้ทั้งสองรีสอร์ทคาสิโน (เรียกว่ารีสอร์ทแบบบูรณาการ) ได้รับการพัฒนา. [135] สิงคโปร์นอกจากนี้ยังส่งเสริม ตัวเองเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์: ประมาณ 200,000 ชาวต่างชาติที่แสวงหาการรักษาพยาบาลที่มีในแต่ละปี บริการทางการแพทย์ที่สิงคโปร์มุ่งมั่นที่จะให้บริการอย่างน้อยหนึ่งล้านผู้ป่วยต่างชาติเป็นประจำทุกปีและสร้าง USD3 พันล้านรายได้. [136] สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการศึกษาและนักเรียนต่างชาติจำนวนมากการศึกษาในสิงคโปร์ มากกว่า 80,000 นักศึกษาต่างชาติที่ศึกษาในสิงคโปร์ในปี 2006 [137] ทุกเช้ากว่า 5,000 นักเรียนมาเลเซียข้ามทางหลวงยะโฮร์สิงคโปร์เพื่อการศึกษาในสิงคโปร์. [138] ในปี 2009, 20% ของนักเรียนทุกคนในมหาวิทยาลัยสิงคโปร์เป็นนักศึกษาต่างชาติ . นักเรียนส่วนใหญ่จากอาเซียนจีนและอินเดีย. [139] อันเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงต้นยุค 2000 และตกต่ำในภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่จีดีพีของสิงคโปร์หดตัว 2.2% ในปี 2001 คณะกรรมการพิจารณาเศรษฐกิจได้ถูกจัดตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม ปี 2001 และแนะนำการเปลี่ยนแปลงนโยบายหลายอย่างเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ สิงคโปร์ได้ตั้งแต่หายเนื่องจากส่วนใหญ่จะมีการปรับปรุงในระบบเศรษฐกิจโลก; เศรษฐกิจขยายตัว 8.3% ในปี 2004 6.4% ในปี 2005 [140] และ 7.9% ในปี 2006 [141] หลังจากที่หดตัว 0.8% จากในปี 2009 เศรษฐกิจฟื้นตัวในปี 2010 มีอัตราการเติบโตของจีดีพี 14.5% ส่วนใหญ่ทำงานในสิงคโปร์อยู่ในภาคบริการซึ่งลูกจ้าง 2,151,400 คนออกจากงาน 3,102,500 ในเดือนธันวาคม 2010 ร้อยละของคนตกงานใช้งานทางเศรษฐกิจดังกล่าวข้างต้นอายุ 15 ปีเป็นประมาณ 2%. [142]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภาค
สิงคโปร์เป็นผู้นำโลกในพื้นที่เศรษฐกิจหลายประเทศของโลกที่สี่นำระบบศูนย์ [ 123 ] ที่สองของโลกที่ใหญ่ที่สุดคาสิโนการพนันตลาด [ 124 ] หนึ่งของโลกด้านบนสามน้ำมันกลั่นศูนย์ , ผลิตอุปกรณ์ขุดเจาะน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นศูนย์กลางที่สำคัญสำหรับการบริการซ่อมแซม เรือ[ 125 ] [ 126 ] [ 127 ] ธนาคารโลกมีชื่อว่าสิงคโปร์เป็นสถานที่ที่ง่ายที่สุดในโลก เพื่อทำธุรกิจ [ 124 ] และอันดับที่สิงคโปร์สุดยอดศูนย์กลางโลจิสติกส์ [ 128 ] รุ่นที่ 4 ของเศรษฐกิจสีเขียวทั่วโลกดัชนี™ ( ggei ) เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการจัดอันดับสิงคโปร์ 7 สีเขียวเมืองในโลก [ 129 ]

ในเดือนเมษายน 2556 , ครั้งแรกสิงคโปร์แซงหน้าญี่ปุ่นในต่างประเทศมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยรายวัน $ 383 พันล้านต่อวัน ดังนั้นอันดับกลายเป็น : สหราชอาณาจักร ( ร้อยละ 41 ) , สหรัฐอเมริกา ( 19% ) สิงคโปร์ ( ร้อยละ 5.7 ) ญี่ปุ่น ( 5.6% ) และฮ่องกง ( 4.1% ) [ 130 ]

สิงคโปร์เศรษฐกิจพึ่งพาการส่งออกและนำเข้าสินค้าลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิต [ 131 ] ซึ่งขึ้น 27 % ของ GDP ของประเทศในปี 2553และรวมถึงที่สำคัญอุปกรณ์การกลั่นปิโตรเลียม เคมี และวิศวกรรมชีวการแพทย์ ภาคส่วน ใน 2549 , สิงคโปร์ผลิตประมาณ 10% ของโลกที่โรงหล่อเวเฟอร์ออก [ 132 ] สิงคโปร์มีเศรษฐกิจที่หลากหลาย เป็นกลยุทธ์ที่รัฐบาลจะพิจารณาที่สำคัญสำหรับการเจริญเติบโตและความมั่นคงที่แม้จะมีขนาดของมัน [ 133 ]

การท่องเที่ยวยังเป็นส่วนหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ของเศรษฐกิจกว่า 15 ล้านนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมนครรัฐใน 2014 . [ 134 ] เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น รัฐบาล legalized การพนันในปี 2005 และอนุญาตให้สองคาสิโนรีสอร์ท ( เรียกว่ารีสอร์ทแบบบูรณาการเพื่อพัฒนา [ 135 ] สิงคโปร์ยังส่งเสริมตัวเองเป็นแพทย์ท่องเที่ยวฮับ : ชาวต่างชาติ เกี่ยวกับ 200000 แสวงหาการดูแลทางการแพทย์นั้น ในแต่ละปีบริการทางการแพทย์ในสิงคโปร์ มุ่งให้บริการอย่างน้อยหนึ่งล้านผู้ป่วยต่างชาติเป็นรายปี และสร้าง USD3 ล้านในรายได้ [ 136 ]

สิงคโปร์เป็นฮับการศึกษา และมีนักศึกษาต่างชาติศึกษาในสิงคโปร์ มากกว่า 80 , 000 นักศึกษาต่างชาติศึกษาในสิงคโปร์ในปี 2006 [ 137 ] ทุกๆเช้า กว่า 5 , 000 นักเรียนมาเลเซีย Johor Causeway ข้าม–สิงคโปร์เพื่อการศึกษาในสิงคโปร์[ 138 ] ใน 2009 , 20% ของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยของสิงคโปร์ คือ นักศึกษานานาชาติ นักเรียนส่วนใหญ่จากอาเซียน จีน และอินเดีย [ 139 ]

ผลของภาวะถดถอยในช่วงต้นยุค 2000 และตกต่ำในภาคเทคโนโลยี , GDP ของสิงคโปร์หดตัว 2.2% ในปี 2001คณะกรรมการทบทวนเศรษฐกิจถูกจัดตั้งขึ้นในเดือนธันวาคมปี 2001 และแนะนำหลายการเปลี่ยนแปลงนโยบายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ สิงคโปร์ได้ตั้งแต่คืน , เนื่องจากส่วนใหญ่เพื่อการปรับปรุงในเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจขยายตัว 8.3% ในปี 2004 6.4% ในปี 2005 [ 140 ] และ 7.9% ในปี 2549 [ 141 ] หลังจากที่หดตัว 0.8% ใน 2009 , เศรษฐกิจฟื้นตัวในปี 2010 กับการเจริญเติบโตของ GDP 14.5 %ทำงานมากที่สุดในสิงคโปร์อยู่ในภาคบริการ ซึ่งใช้ 2151400 คนออกจาก 3102500 งานในเดือนธันวาคม 2553 ร้อยละของประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปใช้งานทางเศรษฐกิจว่างงานประมาณ 2% [ 142 ]