Tempered glass is about four times

Tempered glass is about four times stronger than "ordinary," or annealed, glass. And unlike annealed glass, which can shatter into jagged shards when broken, tempered glass fractures into small, relatively harmless pieces. As a result, tempered glass is used in those environments where human safety is an issue. Applications include side and rear windows in vehicles, entrance doors, shower and tub enclosures, racquetball courts, patio furniture, microwave ovens and skylights.
To prepare glass for the tempering process, it must first be cut to the desired size. (Strength reductions or product failure can occur if any fabrication operations, such as etching or edging, take place after heat treatment.) The glass is then examined for imperfections that could cause breakage at any step during tempering. An abrasivesuch as sandpapertakes sharp edges off the glass, which is subsequently washed.
glass inspection
Image: AFG INDUSTRIES
GLASS INSPECTOR examines a sheet of tempered glass, looking for bubbles, stones, scratches or any other flaws that could potentially weaken it.
Next, the glass begins a heat treatment process in which it travels through a tempering oven, either in a batch or continuous feed. The oven heats the glass to a temperature of more than 600 degrees Celsius. (The industry standard is 620 degrees Celsius.) The glass then undergoes a high-pressure cooling procedure called "quenching." During this process, which lasts just seconds, high-pressure air blasts the surface of the glass from an array of nozzles in varying positions. Quenching cools the outer surfaces of the glass much more quickly than the center. As the center of the glass cools, it tries to pull back from the outer surfaces. As a result, the center remains in tension, and the outer surfaces go into compression, which gives tempered glass its strength.
Glass in tension breaks about five times more easily than it does in compression. Annealed glass will break at 6,000 pounds per square inch (psi). Tempered glass, according to federal specifications, must have a surface compression of 10,000 psi or more; it generally breaks at approximately 24,000 psi.
Another approach to making tempered glass is chemical tempering, in which various chemicals exchange ions on the surface of the glass in order to create compression. But because this method costs far more than using tempering ovens and quenching, it is not widely used.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระจกมีประมาณสี่ครั้งดีกว่าปกติ" หรือ อบ แก้ว และแตกต่างจากแก้วอบ ซึ่งสามารถแตกเป็นผลึกขรุขระเมื่อหัก อารมณ์แก้วหักเป็นชิ้นเล็ก ค่อนข้างอันตราย ดัง กระจกใช้ในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ที่มนุษย์ปลอดภัยเป็นปัญหา ใช้งานรวมถึงด้านข้างและหน้าต่างด้านหลังในรถ ประตู เปลือกฝักบัวและอ่างอาบน้ำ สควอช เก้าอี้ เตาอบไมโครเวฟ และสกายไลท์เตรียมแก้วสำหรับกระบวนการเนื่อง มันต้องแรกตัดให้ได้ขนาดที่ต้องการ (ลดความแข็งแรงหรือความล้มเหลวของผลิตภัณฑ์อาจเกิดขึ้นหากใช้งานประดิษฐ์ต่าง ๆ เช่นการแกะสลักหรือขอบ รักษาความร้อน) แล้วมีการตรวจสอบแก้วลูบที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกในทุกขั้นตอนในการแบ่งเบาบรรเทา มี abrasivesuch เป็นขอบคม sandpapertakes ปิดแก้ว ซึ่งเป็นน้ำล้างในเวลาต่อมาตรวจสอบแก้วภาพ: afg สามารถอุตสาหกรรมแก้วสารวัตรตรวจสอบแผ่นกระจก มองหาฟองอากาศ หิน รอยขีดข่วน หรือข้อบกพร่องอื่น ๆ ที่อาจจะลดลงได้ถัดไป แก้วเริ่มกระบวนการรักษาความร้อนที่ส่งผ่านเตาเนื่อง ในชุดหรือต่อเนื่องฟีด เตาอุ่นแก้วอุณหภูมิมากกว่า 600 องศาเซลเซียส (มาตรฐานอุตสาหกรรมเป็น 620 องศาเซลเซียส) แก้วแล้วผ่านขั้นตอนเย็นแรงดันสูงที่เรียกว่า "ชุบ" ในระหว่างกระบวนการนี้ ซึ่งกินเวลาเพียงไม่กี่วินาที แรงดันสูงเมลพื้นผิวกระจกจากหัวฉีดในตำแหน่งที่แตกต่างกัน ดับเย็นผิวด้านนอกของแก้วได้อย่างรวดเร็วจากศูนย์ เป็นศูนย์กลางของแก้วเย็น มันพยายามดึงกลับมาจากผิวด้านนอก เป็นผล ศูนย์กลางยังคงอยู่ในความตึงเครียด และผิวด้านนอกไปจากการบีบอัด ซึ่งทำให้กระจกมีความแข็งแรงแก้วความตึงเครียดแบ่งประมาณห้าครั้งได้ง่ายขึ้นไม่เหมือนในการบีบอัด อบแก้วจะแบ่งที่ 6,000 ปอนด์ ต่อตารางนิ้ว (psi) กระจกนิรภัย ตามข้อกำหนดของรัฐบาลกลาง ต้องมีการบีบอัดพื้น 10,000 psi หรือมากกว่า โดยทั่วไปมันหยุดพักเวลาประมาณ 24,000 psiวิธีอื่นจะทำให้กระจกเป็นการแบ่งเบาบรรเทาเคมี ซึ่งสารเคมีต่าง ๆ แลกเปลี่ยนประจุบนผิวของแก้วเพื่อสร้างการบีบอัด แต่เนื่องจากวิธีนี้ค่าใช้จ่ายมากกว่าการใช้เตาอบเนื่องและชุบ ที่จะไม่ใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กระจกนิรภัยเป็นเรื่องเกี่ยวกับสี่ครั้งดีกว่า "ธรรมดา" หรืออบแก้ว และแตกต่างจากแก้วอบซึ่งสามารถสลายลงในเศษขรุขระเมื่อหักกระดูกหักอารมณ์แก้วเป็นขนาดเล็กชิ้นค่อนข้างอันตราย เป็นผลให้กระจกถูกนำมาใช้ในสภาพแวดล้อมเหล่านั้นที่ความปลอดภัยของมนุษย์เป็นปัญหา ใช้งานรวมถึงด้านข้างและด้านหลังหน้าต่างในยานพาหนะ, ประตูทางเข้าห้องอาบน้ำฝักบัวและอ่างอาบน้ำเปลือก, สนามแร็กเก็ต, ลานเฟอร์นิเจอร์, เตาอบไมโครเวฟและสกายไลท์.
เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับกระบวนการแก้วแบ่งเบาก็ก่อนอื่นจะต้องตัดให้ได้ขนาดที่ต้องการ (ลดความแรงหรือความล้มเหลวของผลิตภัณฑ์อาจเกิดขึ้นหากการดำเนินงานการผลิตใด ๆ เช่นการแกะสลักหรือขอบจะเกิดขึ้นหลังจากการรักษาความร้อน.) แก้วคือการตรวจสอบแล้วไม่สมบูรณ์ที่อาจทำให้เกิดความแตกแยกในขั้นตอนใด ๆ ในระหว่างการแบ่งเบาบรรเทา abrasivesuch เป็น sandpapertakes ขอบคมปิดกระจกซึ่งจะถูกชะล้างภายหลัง.
ตรวจสอบกระจก
ภาพ: AFG INDUSTRIES
. กระจก INSPECTOR ตรวจสอบแผ่นกระจกที่มองหาฟอง, หิน, รอยขีดข่วนหรือข้อบกพร่องอื่น ๆ ที่อาจจะลดลงมัน
ถัดไป แก้วจะเริ่มต้นขั้นตอนการรักษาความร้อนในการที่จะเดินทางผ่านเตาอบแบ่งเบาทั้งในชุดหรือฟีดอย่างต่อเนื่อง เตาอบความร้อนแก้วที่อุณหภูมิกว่า 600 องศาเซลเซียส (มาตรฐานอุตสาหกรรม 620 องศาเซลเซียส.) แก้วแล้วผ่านขั้นตอนการระบายความร้อนแรงดันสูงที่เรียกว่า "ดับ". ในระหว่างกระบวนการนี้ซึ่งเป็นเวลาเพียงเสี้ยววินาทีอากาศแรงดันสูง blasts พื้นผิวของกระจกจากอาร์เรย์ของหัวฉีดในตำแหน่งที่แตกต่างกัน ดับเย็นพื้นผิวด้านนอกของแก้วมากขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าศูนย์ เป็นศูนย์กลางของแก้วเย็นก็พยายามที่จะดึงกลับมาจากพื้นผิวด้านนอก เป็นผลให้ศูนย์ยังคงอยู่ในความตึงเครียดและพื้นผิวด้านนอกเข้าไปในการบีบอัดซึ่งจะช่วยให้กระจกนิรภัยแข็งแรง.
กระจกในความตึงเครียดแบ่งประมาณห้าครั้งได้ง่ายกว่ามันไม่ในการบีบอัด แก้วอบจะทำลายที่ 6,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (PSI) กระจกนิรภัย, ตามข้อกำหนดของรัฐบาลกลางจะต้องมีการบีบอัดพื้นผิวของ 10,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้วหรือมากกว่านั้น โดยทั่วไปแบ่งอยู่ที่ประมาณ 24,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว.
วิธีการที่จะทำให้กระจกอีกประการหนึ่งคือการแบ่งเบาบรรเทาสารเคมีซึ่งในสารเคมีต่างๆแลกเปลี่ยนไอออนบนพื้นผิวของกระจกเพื่อที่จะสร้างการบีบอัด แต่เป็นเพราะวิธีการนี้มีค่าใช้จ่ายมากขึ้นกว่าการใช้เตาอบและแบ่งเบาดับก็ไม่ได้ใช้กันอย่างแพร่หลาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กระจกเป็นเรื่องเกี่ยวกับสี่ครั้งแข็งแกร่งกว่า " สามัญ " หรืออบ , กระจก และแตกต่างจากอบแก้วที่สามารถแตกเป็นแฉกปลิวเมื่อแตก กระจกนิรภัยแตกกระจกลงเล็กน้อย ไม่เป็นอันตรายค่อนข้างชิ้น ผลคือ กระจกที่ใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีความปลอดภัยของมนุษย์เป็นปัญหา ใช้งานรวมถึงประตูทางเข้าด้านข้างและด้านหลังหน้าต่างในยานพาหนะ , ฝักบัวและอ่างอาบน้ำ enclosures แร็กเกตบอลศาลเฟอร์นิเจอร์ลาน , เตาอบไมโครเวฟและสกายไลท์เตรียมแก้วสำหรับกระบวนการแบ่งเบา มันต้องตัดตามขนาดที่ต้องการ ( ลดแรงหรือความล้มเหลวของผลิตภัณฑ์สามารถเกิดขึ้นถ้ามีการดำเนินงาน เช่น แกะสลัก หรือ ขอบ เกิดขึ้นหลังการรักษา ความร้อน ) แก้วแล้วจะตรวจสอบสำหรับข้อบกพร่องที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกในขั้นตอนใด ๆในระหว่างการ . การ abrasivesuch เป็น sandpapertakes ขอบคมออกจากแก้ว ซึ่งต่อมาล้างตรวจสอบกระจกภาพ : อุตสาหกรรม AFC Asian Cupสารวัตรแก้วตรวจสอบแผ่นกระจกมองหาฟองหิน รอยขีดข่วน หรืออื่น ๆ ข้อเสียที่อาจจะลดลงต่อไป แก้วจะเริ่มกระบวนการให้ความร้อนที่มันเดินทางผ่าน tempering เตาเหมือนกันในชุดหรืออาหารสัตว์อย่างต่อเนื่อง เตาอบร้อนแก้วอุณหภูมิมากกว่า 600 องศาเซลเซียส ( มาตรฐานอุตสาหกรรมเป็น 620 องศาเซลเซียส ) แก้ว แล้วผ่านกระบวนการหล่อเย็นแรงดันสูงเรียกว่า " ดับ " ในระหว่างกระบวนการนี้ ซึ่งใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาที อากาศแรงดันสูงระเบิดพื้นผิวของแก้วจากอาร์เรย์ของหัวฉีดที่แตกต่างกันในตำแหน่ง ดับเย็นพื้นผิวด้านนอกของแก้วมากเร็วกว่าศูนย์ เป็นศูนย์กลางของแก้วเย็น มันพยายามที่จะดึงกลับมาจากพื้นผิวด้านนอก เป็นผลให้ศูนย์อยู่ในความตึงเครียดและพื้นผิวด้านนอกเข้าไปอัดกระจก ซึ่งให้ความแข็งแรงกระจกแตกแรง ประมาณ 5 ครั้งได้ง่ายขึ้นกว่าจะอัด อบแก้วจะแตกที่ 6000 ปอนด์ ต่อตารางนิ้ว ( psi ) กระจกนิรภัย ตามข้อกำหนดของรัฐบาลกลาง จะต้องมีการบีบอัดพื้นผิวของ 10 , 000 psi หรือมากกว่า โดยทั่วไปแบ่งประมาณ 24 , 000 psi .วิธีอื่นที่จะทำให้กระจกเป็นเคมี แบ่งเบาในที่ต่าง ๆ การแลกเปลี่ยนไอออนเคมีบนพื้นผิวของกระจกเพื่อสร้างการบีบอัด แต่เพราะวิธีนี้ค่าใช้จ่ายมากกว่าการใช้เตาอบและกระหาย มันไม่ได้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย