Briquetting of biomass has been fou

Briquetting of biomass has been found to be a viable technology for upgrading biomass materials, including agricultural residues, particularly in developing countries where there is abundant biowaste resources. The technology converts the biowaste into forms which are combustible in typical burners. The physical (elongation and voidage) characteristics and, hence, combustion characteristics of the briquettes formed depend on several factors among which the die pressure is prominent. This was confirmed by experimental investigations during which the samples were densified under die pressure ranges of 20–140 MPa.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อัดก้อนชีวมวลได้พบเทคโนโลยีที่ทำงานสำหรับการปรับรุ่นวัสดุชีวมวล รวมเกษตรตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนามีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ biowaste เทคโนโลยีแปลง biowaste ที่เป็นแบบฟอร์มที่จะเผาในเตาทั่วไป อัญมณี (elongation และ voidage) และ จึง เผาไหม้ลักษณะของ briquettes เกิดขึ้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการที่จะโดดเด่นระหว่างดันตาย นี้ถูกยืนยัน โดยการตรวจสอบทดลองซึ่งตัวอย่างที่ densified ภายใต้ช่วง 20 – 140 แรงดันตาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อัดก้อนชีวมวลที่ได้รับพบว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสำหรับการอัพเกรดวัสดุชีวมวลรวมทั้งเศษเหลือใช้ทางการเกษตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนาที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ biowaste เทคโนโลยีแปลง biowaste ในรูปแบบที่เป็นที่ติดไฟได้ในเตาทั่วไป ทางกายภาพ (การยืดตัวและ voidage) ลักษณะและดังนั้นลักษณะการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงอัดแท่งที่เกิดขึ้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการในระหว่างที่ความดันตายเป็นที่โดดเด่น นี้ได้รับการยืนยันจากการตรวจสอบการทดลองในระหว่างที่กลุ่มตัวอย่างเป็นอัดภายใต้ความดันช่วงตายของ 20-140 เมกะปาสคาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บริเคตติ้งประมาณได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ได้ปรับวัสดุชีวมวล รวมทั้งวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งมีอยู่ดาษดื่น biowaste ทรัพยากร เทคโนโลยีแปลง biowaste เป็นรูปแบบซึ่งจะติดไฟในเตาทั่วไป ทางกายภาพ ( การยืดตัวและ สัดส่วน ) ลักษณะและ ดังนั้นคุณลักษณะการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงอัดแท่ง ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการที่เกิดขึ้นระหว่างที่ตายดันเป็นเด่น นี้ได้รับการยืนยันโดยการตรวจสอบทดลองในระหว่างที่จำนวนเหลืออยู่ภายใต้ความดันตายช่วง 20 – 140 MPA