This combination of focused interna

This combination of focused internal labs plus the blend of internal and external research embodies Intel’s philosophy toward R&D. Sun-Lin Chou, the director of Intel’s Components Research Laboratory, explained how his lab functioned in this philosophy: “The primary role of the Labs is to link Intel with the outside research community. We need to do enough internal work to be knowledgeable enough to talk with outside researchers, and to know which approaches seem most promising. We also need enough internal work to be able to transfer promising research results back inside Intel quickly.”14 In 2001, Intel expanded this model to bring itself even closer to selected university research centers. It has opened up new “lablets”—small-sized research facilities—which
are located adjacent to three leading university research centers—Carnegie Mellon University, University of California–Berkeley, and University of Washington—instead of next to Intel fab facilities. As with other parts of its R&D system, Intel will manage these new entities in a
decidedly nontraditional manner. Each lablet is led by a university faculty member who is on an academic leave and is not a permanent employee of Intel. Intel hopes and expects these new entities to connect it more closely to leading academic research, but Intel does not expect to
“own” the output of this research. The company instead expects to win by having early access to promising new technologies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชุดนี้ของแล็บโฟกัสภายในพร้อมผสานการวิจัยภายใน และภายนอกผสานปรัชญาของ Intel ต่อ R&D ซันหลินโชว กรรมการของ Intel ส่วนวิจัย อธิบายวิธีปฏิบัติของเขาแยกในปรัชญานี้: "หน้าที่หลักของห้องปฏิบัติการได้เชื่อมโยง Intel กับชุมชนวิจัยภายนอก เราต้องทำงานภายในพอจะมีความรู้พอ จะพูดคุยกับนักวิจัยภายนอก และรู้วิธีที่ดูเหมือนว่า เรายังได้ทำงานภายในเพียงพอเพื่อให้สามารถถ่ายโอนผลวิจัยสัญญาภายใน Intel กลับอย่างรวดเร็ว"14 ในปีค.ศ. 2001, Intel ได้ขยายรูปแบบนี้เพื่อให้ตัวเองยิ่งเลือกมหาวิทยาลัยศูนย์วิจัย มันมีเปิดใหม่ "lablets" — สิ่งเล็กวิจัย — ซึ่ง
อยู่ติดกับศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยชั้นนำ 3 — คาร์เนกีเมลลอนมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยของรัฐแคลิฟอร์เนียเบิร์กลีย์ และมหาวิทยาลัยวอชิงตัน — แทนไป Intel fab สิ่งอำนวยความสะดวก เท่ากับส่วนอื่น ๆ ของระบบ R&D, Intel จะจัดการหน่วยใหม่ในแบบ
ลักษณะ nontraditional หลับ แต่ละ lablet นำ โดยอาจารย์มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นการลาศึกษา และไม่ใช่พนักงานถาวรของ Intel Intel หวัง และคาดว่าเอนทิตีเหล่านี้ใหม่เพื่อเชื่อมต่อมากขึ้นกับงานวิชาการชั้นนำ แต่ไม่คาดว่า Intel จะ
"เอง" ผลลัพธ์ของงานวิจัยนี้ บริษัทแทนคาดว่าจะชนะ มีเทคโนโลยีใหม่สัญญาก่อน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การรวมกันของโฟกัสภายในแล็บพลัสผสมของภายในและภายนอกของปรัชญาที่มีต่อการวิจัย ( Intel R &งซุนหลินโจว ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการวิจัยของอินเทล อธิบายว่าห้องของเขาอยู่ในปรัชญานี้ : " บทบาทหลักของห้องปฏิบัติการ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกับภายนอกชุมชนวิจัยเราต้องทำงานภายในพอที่จะมีความรู้พอที่จะพูดคุยกับนักวิจัยภายนอก และรู้ซึ่งวิธีการดูสัญญามากที่สุด เรายังต้องทำงานภายในเพียงพอที่จะสามารถถ่ายโอนผลการวิจัยแนวโน้มข้างใน Intel ได้อย่างรวดเร็ว . " 14 ในปี 2001 , Intel ขยายรูปแบบนี้ให้ตัวเองได้ใกล้ชิดกับการคัดเลือกมหาวิทยาลัยวิจัยศูนย์มันได้เปิดขึ้นใหม่ " lablets " - ขนาดเล็กสถาบันวิจัยซึ่งตั้งอยู่ติดกับา
3 ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon University , มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย - เบิร์กลีย์ และมหาวิทยาลัยวอชิงตันแทนที่จะถัดไปของอินเทลเครื่องจัง เช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆของ R & D ระบบ Intel จะจัดการองค์กรใหม่เหล่านี้ใน
เด็ดใหม่อย่างแต่ละ lablet นำโดยมหาวิทยาลัยคณะสมาชิกใครมีทิ้งงานวิชาการและไม่ใช่พนักงานประจำของ Intel . Intel หวังและคาดว่าหน่วยงานเหล่านี้ใหม่เพื่อเชื่อมต่ออย่างใกล้ชิดกับการนำงานวิจัยทางวิชาการ แต่ Intel ไม่ได้คาดหวังกับ
" เอง " ผลลัพธ์ของงานวิจัยนี้ บริษัทแทน คาดว่าจะชนะโดยมีต้นเข้าถึงแนวโน้มเทคโนโลยีใหม่
.