3. Results and discussion3.1. Optim

3. Results and discussion
3.1. Optimization of callus induction medium
Vigorous callus growth was observed throughout the entire culture
period. Embryogenic calli quickly developed in all eight induction
media within the first week of incubation. Callus induction rate was
the highest on medium M11AP (84.0%) followed by M11APC1
(78.7%). However, callus fresh weight was significantly lower on
M11AP than on M11APC1 (Table 2). Overall, M11APC1 was found to
be the most efficient callus induction medium for SA281 among the
eight media tested. Similar experiments were preformed to optimize
callus induction media for Tx430 (Fig. 1c) and 91419R (data not
shown). Results indicated that M11APC1 was the optimal medium for
those two lines as well.
The callus fresh weight was significantly higher onM11AP (0.058 g/IE)
than onM11 (0.030 g/IE) (Table 2), indicating the beneficial effects
of L-asparagine and L-proline on callus growth which is in agreement
with a previous report (Elkonin et al., 1995). We further observed that
callus fresh weight was significantly higher on M11APC1 (0.068 g/IE)
than on M11AP (0.058 g/IE), suggesting that CuSO4•5H2O at 1.0 μM
has a positive effect on callus proliferation. These results highlighted
the importance of an appropriate concentration of additional ingredient
for optimizing callus induction medium in sorghum.
3.2. Optimization of callus regeneration medium
When IE-derived calli were subcultured on regeneration medium,
they turned into green tissue within one week (Fig. 1d). Notably,
calli on regeneration medium with plant growth regulators developed
more effectively than on media without growth regulators. For example,
SA281 calli on B1I1C1 produced maximum number of shoots
(72.6 per IE) (Fig. 1e and f). In contrast, calli on MSC1 produced the
least number of shoots (20.9 per IE) (Table 3). Moreover, BA and IAA
together were better than BA alone for callus regenerability when the
medium B1I1C1 (72.6 per IE) was compared with B2C1 (56.3 per IE).
Additional ingredients in regeneration medium have a significant
impact on regenerability. L-Asparagine and L-proline fostered significant
improvement in the number of shoots on B2C1AP (66.4 per IE) as compared
to that on B2C1 (56.3 per IE). PVP at 1 g/Lwhen supplemented in
B2C1P markedly increased shoot production (65.3 per IE) as compared
to B2C1 without PVP (56.3 per IE). These results are in agreement with
earlier reports (Elkonin et al., 1995; Hagio, 2002). A higher concentration
of CuSO4•5H2Oat1μM(ten-fold higher than that in MS) drastically
enhanced shoot production on B2C1 (56.3 per IE) as compared to that
on B2 (40.6 per IE), confirming the beneficial effect of high Cu level on
sorghum tissue culture (Nirwan and Kothari, 2003). Overall, B1I1C1
was the best regeneration medium for SA281 (Table 3).
In the present system, regeneration rates up to 100% have been
routinely obtained from three tested lines, much higher than 20–50%
recorded earlier for cv. X4004 (Gamborg et al., 1977). Recently, callus
regenerability was improved to 22.8 shoots per IE from sorghum line
IS 3566 (Pola et al., 2008). By comparison, the regenerability was
improved markedly in our experiments; over 60 regenerants were
produced from a single IE of SA281 within eight weeks' incubation
(Fig. 1e, f, g and h).
3.3. Effects of callus age
Callus rapidly grew across the three tested lineswithin twoweeks of
incubation (Fig. 1b and c), with a significant increase in callus fresh
weight (Table 4). However, variation in callus growth was observed
among the tested lines; SA281 callus grew faster than the other two.
The most rapid callus growth occurred between one and two weeks
as demonstrated by weekly callus growth ratio (the fresh weight of
current week divided by the fresh weight of previous week). Both
regeneration rate and regenerability (shoots per IE) peaked at two
weeks across these three lines (Table 4).
Unlike rice embryogenic callus which can maintain regenerability
over 40 weeks (Nabors et al., 1983), sorghum embryogenic callus does
not maintain a useful level of regenerability over fourweeks. The reason
for this phenomenon is, as yet, unknown. Our data from three tested
lines unequivocally demonstrated that the optimal callus age was
two-weeks old. When callus was four-weeks old, the regeneration
rate and regenerability dropped markedly. For instance, SA281 could
produce 59 shoots per IE when callus was two-weeks old; however, it
only generated 3 shoots per IE when callus was four-weeks old
(Table 4). Therefore, callus age plays a critical role on regenerability,

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3. ผล และการอภิปราย3.1. การเพิ่มประสิทธิภาพของสื่อเหนี่ยวนำแคลลัสพบว่า แคลลัสที่แข็งแรงเจริญเติบโตทั่วทั้งวัฒนธรรมรอบระยะเวลา เอเรียเพาะทั้งหมดแปดเหนี่ยวนำพัฒนาอย่างรวดเร็วสื่อภายในสัปดาห์แรกของการกกไข่ อัตราการเหนี่ยวนำแคลลัสสูงที่สุดใน M11AP กลาง (84.0%) ตาม ด้วย M11APC1(78.7%) แคลลัสสดน้ำหนักก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในM11AP กว่าบน M11APC1 (ตารางที่ 2) โดยรวม M11APC1 พบว่าเป็นสื่อเหนี่ยวนำแคลลัสมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับ SA281 ระหว่างการทดสอบสื่อแปด การทดลองคล้ายถูก preformed เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพcallus สื่อเหนี่ยวนำสำหรับ Tx430 (รูปที่ 1c) และ 91419R (ข้อมูลไม่แสดง) ผลลัพธ์ระบุไว้ว่า M11APC1 เป็นสื่อที่เหมาะสมสำหรับบรรทัดที่สองเป็นอย่างดีน้ำหนักสดของแคลลัสคือ onM11AP สูง (0.058 กรัม IE)กว่า onM11 (0.030 กรัม IE) (ตาราง 2), ระบุผลประโยชน์L asparagine และ L-proline เติบโตแคลลัสซึ่งเป็นตกลงมีรายงานก่อนหน้านี้ (Elkonin et al. 1995) เราสังเกตเห็นเพิ่มเติมที่แคลลัสน้ำหนักสดก็สูงบน M11APC1 (0.068 g IE)กว่าบน M11AP (0.058 กรัม/IE), แนะนำที่ CuSO4•5H2O ที่ 1.0 ไมครอนมีผลดีในการเจริญเติบโตของแคลลัส ผลลัพธ์เหล่านี้เน้นความสำคัญของความเข้มข้นที่เหมาะสมของส่วนผสมเพิ่มเติมสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพปานกลางเหนี่ยวนำแคลลัสข้าวฟ่าง3.2. การเพิ่มประสิทธิภาพของแคลลัสฟื้นฟูปานกลางเมื่อเอเรียมา IE ถูก subcultured ในฟื้นฟูปานกลางพวกเขากลายเป็นเนื้อเยื่อสีเขียวภายในหนึ่งสัปดาห์ (รูปที่ 1 d) ยวดพัฒนาเอเรียบนสื่อฟื้นฟูกับฮอร์โมนพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าสื่อ โดยฮอร์โมน ตัวอย่างเช่นเอเรีย SA281 บน B1I1C1 ผลิตจำนวนหน่อ(72.6 ต่อ IE) (รูปที่ 1e และ f) ตรงกันข้าม เอเรียใน MSC1 ผลิตน้อยจำนวนหน่อ (20.9 ต่อ IE) (ตารางที่ 3) นอกจากนี้ IAA และ BAกันได้ดีกว่า BA เพียงอย่างเดียวสำหรับ regenerability แคลลัสเมื่อการB1I1C1 กลาง (72.6 ต่อ IE) เปรียบเทียบ B2C1 (56.3 ต่อ IE)ส่วนผสมในการฟื้นฟูมีความสำคัญทบ regenerability L-Asparagine และ L proline ส่งเสริมที่สำคัญปรับปรุงจำนวนหน่อบน B2C1AP (66.4 ต่อ IE) เปรียบที่บน B2C1 (56.3 ต่อ IE) PVP ที่ 1 g/Lwhen เสริมในB2C1P การผลิตยิง (65.3 ต่อ IE) เป็นการเปรียบเทียบที่เพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัดการ B2C1 โดย PVP (56.3 ต่อ IE) ผลลัพธ์เหล่านี้เป็นข้อตกลงกับรายงานก่อนหน้า (Elkonin et al. 1995 กับ 2002) ความเข้มข้นสูงของ CuSO4•5H2Oat1μM (ten-fold มากกว่า MS) อย่างมากเพิ่มการผลิตยิงบน B2C1 (56.3 ต่อ IE) เปรียบเทียบกับใน B2 (40.6 ต่อ IE), ยืนยันผลประโยชน์ของ Cu ระดับบนข้าวฟ่างเลี้ยงเนื้อเยื่อ (Nirwan และโพธิวรคุณ 2003) โดยรวม B1I1C1แก้ไขฟื้นฟูสื่อที่ดีที่สุดสำหรับ SA281 (ตารางที่ 3)ในระบบปัจจุบัน ฟื้นฟูราคาถึง 100% ได้รับได้รับเป็นประจำจากทดสอบเส้นสาม สูงกว่า 20-50%บันทึกไว้ก่อนหน้านี้สำหรับพันธุ์ X4004 (Gamborg et al. 1977) เมื่อเร็ว ๆ นี้ callusregenerability ถูกพัฒนาขึ้นเป็นหน่อ 22.8 ต่อ IE จากข้าวฟ่างบรรทัดเป็น 3566 (โพลา et al. 2008) โดยการเปรียบเทียบ แก้ไขการ regenerabilityดีขึ้นอย่างเด่นชัดในการทดลองของเรา มีมากกว่า 60 regenerantsผลิตจากเดียว IE ของ SA281 ภายในกกไข่แปดสัปดาห์(รูปที่ 1e, f, g และ h)3.3 ผลกระทบของอายุแคลลัสแคลลัสที่เติบโตอย่างรวดเร็วข้าม twoweeks lineswithin ทดสอบสามของกกไข่ (รูป 1b และ c), กับการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในแคลลัสสดน้ำหนัก (ตารางที่ 4) อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงในการเจริญเติบโตของแคลลัสพบว่าระหว่างบรรทัดการทดสอบ แคลลัส SA281 เติบโตเร็วกว่าอีกสองการเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดของแคลลัสที่เกิดขึ้นระหว่างสัปดาห์ที่หนึ่ง และสองเป็นการแสดงให้เห็นในสัปดาห์ callus (สดน้ำหนักของอัตราการเจริญเติบโตปัจจุบันสัปดาห์หาร ด้วยน้ำหนักสดของสัปดาห์ก่อนหน้า) ทั้งสองอัตราฟื้นฟู และ regenerability (หน่อต่อ IE) แหลมสองสัปดาห์ในสามบรรทัดเหล่านี้ (ตารางที่ 4)ซึ่งแตกต่างจากแคลลัสเพาะข้าวที่สามารถรักษา regenerabilityไม่แคลลัสข้าวฟ่างเพาะกว่า 40 สัปดาห์ (Nabors et al. 1983),ไม่รักษาระดับประโยชน์ของ regenerability ผ่าน fourweeks เหตุผลสำหรับปรากฏการณ์นี้ไม่ ยัง รู้จัก ข้อมูลจากสามทดสอบบรรทัด unequivocally แสดงให้เห็นว่าอายุแคลลัสเหมาะสมที่สุดสองสัปดาห์เก่า เมื่อแคลลัสเป็นสี่สัปดาห์เก่า การฟื้นฟูregenerability และอัตราลดลงอย่างเด่นชัด เช่น SA281 สามารถผลิตหน่อ 59 ต่อ IE เมื่อแคลลัสเป็นสองสัปดาห์เก่า อย่างไรก็ตาม มันเพียงสร้าง 3 หน่อต่อ IE เมื่อแคลลัสเป็นสี่สัปดาห์เก่า(ตารางที่ 4) ดังนั้น อายุแคลลัสมีบทบาทสำคัญใน regenerability

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3. ผลการทดลองและการอภิปราย
3.1 การเพิ่มประสิทธิภาพของแคลลัสเหนี่ยวนำสื่อ
การเจริญเติบโตของแคลลัสแข็งแรงก็สังเกตเห็นตลอดทั้งวัฒนธรรม
ระยะเวลา แคลลัส Embryogenic การพัฒนาอย่างรวดเร็วในทุกการเหนี่ยวนำแปด
สื่อภายในสัปดาห์แรกของการบ่ม อัตราการเหนี่ยวนำแคลลัสเป็น
ที่สูงที่สุดใน M11AP กลาง (84.0%) ตามด้วย M11APC1
(78.7%) แต่แคลลัสน้ำหนักสดอย่างมีนัยสำคัญที่ลดลงใน
M11AP กว่า M11APC1 (ตารางที่ 2) โดยรวม, M11APC1 ก็พบว่า
เป็นสื่อเหนี่ยวนำแคลลัสที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับ SA281 ในหมู่
สื่อแปดทดสอบ การทดลองที่คล้ายกัน preformed เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
สื่อเหนี่ยวนำแคลลัสสำหรับ Tx430 (รูปที่ 1C.) และ 91419R (ข้อมูลไม่
แสดง) ผลการวิจัยพบว่า M11APC1 เป็นสื่อที่ดีที่สุดสำหรับ
ทั้งสองสายเช่นกัน.
แคลลัน้ำหนักสดสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ onM11AP (0.058 กรัม / IE)
กว่า onM11 (0.030 กรัม / IE) (ตารางที่ 2) แสดงให้เห็นผลประโยชน์
ของ L-asparagine และ L-โพรลีนต่อการเจริญเติบโตแคลลัสซึ่งอยู่ในข้อตกลง
กับรายงานก่อนหน้า (Elkonin et al., 1995) เรายังตั้งข้อสังเกตว่า
แคลลัสน้ำหนักสดสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน M11APC1 (0.068 กรัม / IE)
มากกว่า M11AP (0.058 กรัม / IE) บอกว่า CuSO 4 • 5H2O 1.0 ไมครอน
มีผลในเชิงบวกต่อการขยายแคลลัส ผลลัพธ์เหล่านี้ไฮไลต์
สำคัญของความเข้มข้นที่เหมาะสมของส่วนผสมเพิ่มเติม
สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพสื่อเหนี่ยวนำแคลลัสในข้าวฟ่าง.
3.2 การเพิ่มประสิทธิภาพของกลางแคลลัสฟื้นฟู
เมื่อ IE ที่ได้มาจากแคลลัสที่ถูกเลี้ยงในอาหารสูตรฟื้นฟู
พวกเขากลายเป็นเนื้อเยื่อสีเขียวภายในหนึ่งสัปดาห์ (รูป. 1D) ยวด
แคลลัสในสื่อการฟื้นฟูด้วยการควบคุมการเจริญเติบโตการพัฒนา
อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าในสื่อโดยไม่ต้องควบคุมการเจริญเติบโต ยกตัวอย่างเช่น
SA281 แคลลัสใน B1I1C1 ผลิตจำนวนสูงสุดของหน่อ
(72.6 ต่อ IE) (รูป. 1E และ F) ในทางตรงกันข้ามแคลลัสใน MSC1 ผลิต
จำนวนน้อยหน่อ (20.9 ต่อ IE) (ตารางที่ 3) นอกจากนี้ปริญญาตรีและ IAA
ร่วมกันได้ดีกว่าปริญญาตรีเพียงอย่างเดียวสำหรับแคลลัส regenerability เมื่อ
B1I1C1 กลาง (72.6 ต่อ IE) เปรียบเทียบกับ B2C1 (56.3 ต่อ IE).
ส่วนผสมเพิ่มเติมในสื่อการฟื้นฟูได้อย่างมีนัยสำคัญ
ส่งผลกระทบต่อ regenerability L-Asparagine และ L-โพรลีนส่งเสริมอย่างมีนัยสำคัญ
ในการปรับปรุงในจำนวนของหน่อใน B2C1AP (66.4 ต่อ IE) เมื่อเทียบ
กับที่บน B2C1 (56.3 ต่อ IE) PVP ที่ 1 กรัม / Lwhen เสริมใน
B2C1P อย่างเห็นได้ชัดเพิ่มกำลังการผลิตยิง (65.3 ต่อ IE) เมื่อเทียบกับ
การได้โดยไม่ต้อง B2C1 PVP (56.3 ต่อ IE) ผลลัพธ์เหล่านี้อยู่ในข้อตกลงที่มี
รายงานก่อนหน้านี้ (Elkonin, et al, 1995;. Hagio, 2002) ความเข้มข้นสูงกว่า
ของ CuSO 4 •5H2Oat1μM (สิบเท่าสูงกว่าใน MS) อย่างมาก
เพิ่มการผลิตยิง B2C1 (56.3 ต่อ IE) เมื่อเปรียบเทียบกับ
ใน B2 (40.6 ต่อ IE) ยืนยันผลประโยชน์ของระดับ Cu สูงใน
ข้าวฟ่าง การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (Nirwan และ Kothari, 2003) โดยรวม, B1I1C1
เป็นสื่อกลางในการฟื้นฟูที่ดีที่สุดสำหรับ SA281 (ตารางที่ 3).
ในระบบปัจจุบันอัตราการงอกใหม่ได้ถึง 100% ได้รับการ
ได้รับเป็นประจำจากสามสายการทดสอบสูงกว่า 20-50%
ที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้สำหรับพันธุ์ X4004 (Gamborg et al., 1977) เมื่อเร็ว ๆ นี้แคลลัส
regenerability ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น 22.8 ยอดต่อ IE จากบรรทัดข้าวฟ่าง
IS 3566 (Pola et al., 2008) โดยเปรียบเทียบ regenerability ถูก
ปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในการทดลองของเรา กว่า 60 เพาะถูก
ผลิตจาก IE เดียวของ SA281 ภายในบ่มแปดสัปดาห์ '
(รูป. 1E, F, G และ H).
3.3 ผลของอายุแคลลัส
แคลลัสเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วทั้งสามการทดสอบ lineswithin twoweeks ของ
การบ่ม (รูป. 1 ขและค) มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในแคลลัสสด
น้ำหนัก (ตารางที่ 4) อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงในการเจริญเติบโตแคลลัสที่ถูกพบ
ในหมู่สายการทดสอบ; SA281 แคลลัสเติบโตเร็วกว่าอีกสอง.
การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดแคลลัสที่เกิดขึ้นระหว่างที่หนึ่งและสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
แสดงให้เห็นว่าอัตราการเจริญเติบโตโดยแคลลัสรายสัปดาห์ (น้ำหนักสดของ
สัปดาห์ปัจจุบันหารด้วยน้ำหนักสดของสัปดาห์ก่อนหน้า) ทั้ง
อัตราการฟื้นฟูและ regenerability (ยอดต่อ IE) แหลมที่สอง
สัปดาห์ที่ผ่านมาทั่วทั้งสามสาย (ตารางที่ 4).
ซึ่งแตกต่างจากข้าวแคลลัส embryogenic ซึ่งสามารถรักษา regenerability
กว่า 40 สัปดาห์ (Nabors et al., 1983), ข้าวฟ่างแคลลัส embryogenic ไม่
ไม่ได้รักษา ระดับการใช้งานของ regenerability กว่า fourweeks เหตุผล
สำหรับปรากฏการณ์นี้เป็นยังไม่รู้จัก ข้อมูลของเราผ่านการทดสอบจากสาม
สายแจ่มแจ้งแสดงให้เห็นว่าอายุแคลลัสที่ดีที่สุดคือ
สองสัปดาห์ เมื่อแคลลัสเป็นสี่สัปดาห์เก่าฟื้นฟู
และอัตราการลดลงอย่างเห็นได้ชัด regenerability ยกตัวอย่างเช่น SA281 สามารถ
ผลิต 59 ยอดต่อ IE เมื่อแคลลัสเป็นสองสัปดาห์; แต่ก็
สร้างเพียง 3 หน่อต่อ IE เมื่อแคลลัสเป็นสี่สัปดาห์
(ตารางที่ 4) ดังนั้นอายุแคลลัสมีบทบาทที่สำคัญใน regenerability,