The study revealed that there is no

The study revealed that there is no difference in the attitude of workers towards time among private and public sector
workers. It is therefore important for private and public organization to know how to allocate time to the workers in
performing their assigned responsibilities, and how they perform on their job.
The study also revealed that there is a significant difference in the attitude of workers towards work among private and
public sector workers. This means that owners of organizations should enlighten their workers on the more reason why
they have to be contented with their job because a satisfied worker tends to perform better in his/her work.
It can also be deduced from the study carried out that there is no significant difference in workers’ perceived job
performance among private and public sector workers which means that both private and public sector workers have the
same way of perceiving their job performance.
The study revealed further that there is a significantly joint influence of workers’ attitude towards time and work on
perceived job performance in the private sector, although there is a significant independent influence of workers attitude
towards time on perceived job performance in the private sector but it does not apply to workers attitude towards work
which showed that there is no significant independent influence of workers attitude towards work on perceived job
performance in the private sector.
Findings from this study revealed that there is no significantly joint and independent influence of workers’ attitude
towards time and work on perceived job performance in the public sector which indicates that public sector workers’
attitude towards time and work does not have any influence on their perceived job performance, contrary to the private
sector workers’ attitude towards time and work that has a joint influence on perceived job performance with the worker’s
attitude towards time having the only independent influence in perceived job performance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาเปิดเผยว่า มีความแตกต่างทัศนคติของผู้ปฏิบัติงานต่อเวลาระหว่างภาคเอกชน และสาธารณะไม่
แรงงาน จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กร และภาครัฐต้องทราบวิธีการจัดสรรเวลาให้ผู้ปฏิบัติงานใน
ทำหน้าที่กำหนดของเขา และว่าพวกเขาทำหน้าที่
การศึกษายังเปิดเผยว่า มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในทัศนคติของคนงานต่องานระหว่างเอกชน และ
แรงงานภาครัฐ หมายความ ว่า เจ้าขององค์กรควรสอนงานของเหตุผลเพิ่มเติมทำไม
ได้จะพึงพอใจกับงานของพวกเขาเนื่องจากผู้ปฏิบัติงานพึงพอใจมีแนวโน้มที่จะ ทำงานดีขึ้นในการทำงานเขา/เธอ
มันสามารถยังมี deduced จากการศึกษาที่ดำเนินการว่า มีความไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในงานของผู้ปฏิบัติงานรับรู้
ประสิทธิภาพแรงงานภาครัฐและเอกชนซึ่งหมายความ ว่า ผู้ปฏิบัติงานภาครัฐและเอกชนมี การ
เหมือนของ perceiving การปฏิบัติงานได้
การศึกษาการเปิดเผยเพิ่มเติมว่า มีอิทธิพลร่วมกันอย่างมีนัยสำคัญของทัศนคติของผู้ปฏิบัติงานมีต่อเวลาและทำงานบน
ปฏิบัติงานในภาคเอกชน การรับรู้มีอิทธิพลอิสระสำคัญของทัศนคติคน
ต่อเวลาในการรับรู้งาน ในภาคเอกชนก็ไม่ใช้กับทัศนคติที่ผู้ปฏิบัติงานมีต่องาน
ซึ่งพบว่า มีอิทธิพลอิสระไม่สำคัญของทัศนคติที่ผู้ปฏิบัติงานมีต่องานในการรับรู้งาน
ประสิทธิภาพการทำงานในภาคเอกชน
ค้นพบจากการศึกษาเปิดเผยว่า มีไม่มีอิทธิพลร่วมกันอย่างมีนัยสำคัญ และขึ้นอยู่กับทัศนคติของผู้ปฏิบัติงานของ
ต่อเวลาและการทำงานประสิทธิภาพในการรับรู้งานในภาครัฐซึ่งบ่งชี้ว่า ภาครัฐแรง
ทัศนคติที่มีต่องานและเวลาไม่มีอิทธิพลใด ๆ ในการปฏิบัติงานรับรู้ ขัดกับส่วนตัว
ทัศนคติภาคแรงงานเวลาและงานที่มีอิทธิพลร่วมมองเห็นประสิทธิภาพของผู้ปฏิบัติงานงาน
ทัศนคติที่มีต่อเวลาที่มีอิทธิพลเฉพาะอิสระในการรับรู้ที่ปฏิบัติงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลการศึกษาพบว่าไม่มีความแตกต่างในทัศนคติของพนักงานต่อเวลาของคนงานภาค
ส่วนตัวและสาธารณะ จึงสำคัญสำหรับองค์กรภาครัฐและเอกชนเพื่อทราบวิธีการจัดสรรเวลาให้กับคนงานในการแสดงของพวกเขาได้รับมอบหมายความรับผิดชอบ
, และวิธีการที่พวกเขาดำเนินการงานของพวกเขา .
ผลการศึกษายังพบว่า มีความแตกต่างกันในทัศนคติของพนักงานที่มีต่อการทำงานของแรงงานภาครัฐเอกชนและ

นี้หมายความว่าเจ้าของขององค์กรควรให้พนักงานของตนในเหตุผลทำไม
จะพึงพอใจกับงานของตัวเอง เพราะพอใจ พนักงานมีแนวโน้มที่จะแสดงขึ้นในของเขา / เธอทำงาน .
มันยังสามารถ deduced จากการศึกษาว่าไม่มีความแตกต่างในการรับรู้การปฏิบัติงานของคนงาน
ระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งหมายความ ว่า แรงงานทั้งภาครัฐและเอกชนภาคแรงงานมีลักษณะเดียวกันของการรับรู้ประสิทธิภาพของงาน

.ผลการศึกษาพบอีกว่า มีคนงานร่วมอย่างมีนัยสำคัญมีอิทธิพลต่อทัศนคติของงานและเวลาในการปฏิบัติงาน
รับรู้ในภาคเอกชน ถึงแม้ว่าจะมีอิทธิพลสำคัญต่อทัศนคติของคนงานอิสระ
เวลารับรู้การปฏิบัติงานในภาคเอกชน แต่มันใช้ไม่ได้กับคนทัศนคติ
ซึ่งพบว่าไม่พบอิทธิพลของทัศนคติต่อการทํางานอิสระแรงงานในการปฏิบัติงานตาม

ในภาคเอกชน ผลจากการศึกษาพบว่าไม่มีทางร่วมอิสระและอิทธิพลของทัศนคติของพนักงานต่อการ
งานและเวลาการปฏิบัติงานในภาครัฐ ซึ่งพบว่าแรงงานภาคสาธารณะ
ทัศนคติต่อเวลาและทำงานไม่ได้มีอิทธิพลต่อการรับรู้ของพวกเขาการปฏิบัติงาน , ตรงข้ามกับเอกชน
ภาคแรงงานทัศนคติของงานและเวลาที่ มี อิทธิพล ร่วมในการรับรู้การปฏิบัติงานกับทัศนคติของผู้ปฏิบัติงานต่อ
เวลาที่มีเพียงอิสระมีอิทธิพลในการรับรู้การปฏิบัติงาน .