Nescafé has to find ways to deal wi

Nescafé has to find ways to deal with environmental pollution. Therefore, they convert waste into energy and use alternative energy that is environmentally friendly. Their efforts have focused on the local level, especially on the environment and needs of each local community.
Nescafé’s project for responsible coffee production has impacts on the environment and society. The goal is to create environmental impacts to a minimum, while creating value to society. The production of coffee has an impact on the environment and society. By trying to reduce energy and water use they can reduce greenhouse gas emissions efficiently. Moreover, they use more recycled materials and reduce the weight of packaging. They use coffee grounds as fuel instead of disposing of waste at a landfill. In Chile 2003, Nestlé has decided to switch from coal to natural gas in order to reduce emissions of greenhouse gases, including carbon dioxide, methane and nitrous oxide. After the factory inspection by the UN in July 2005, Nestlé reduced its carbon dioxide emissions by up to 20,000 tons per year. In the future there will be continued development for the plant to use natural gas instead of other energy further increases.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Nescafé ได้ค้นหาวิธีการจัดการกับมลพิษสิ่งแวดล้อม ดังนั้น พวกเขาแปลงขยะเป็นพลังงาน และใช้พลังงานทดแทนที่เป็นมิตร ความพยายามของพวกเขาได้มุ่งเน้นในระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมและความต้องการของชุมชนแต่ละท้องถิ่น โครงการ Nescafé ของสำหรับการผลิตกาแฟที่รับผิดชอบมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เป้าหมายคือการ สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ในขณะที่สร้างค่าสังคม การผลิตกาแฟมีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยพยายามลดการใช้พลังงานและน้ำ จะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ พวกเขาใช้วัสดุที่รีไซเคิลมากขึ้น และลดน้ำหนักของบรรจุภัณฑ์ พวกเขาใช้กาแฟเป็นเชื้อเพลิงแทนการทิ้งของเสียที่ฝังกลบมูลฝอย ในประเทศชิลี 2003, Nestlé ได้ตัดสินใจเมื่อต้องการสลับจากถ่านหินก๊าซธรรมชาติเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน และไนตรัสออกไซด์ หลังจากโรงงานตรวจสอบโดยสหประชาชาติในเดือน 2005 กรกฎาคม Nestlé ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยถึง 20000 ตันต่อปี ในอนาคตจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสำหรับโรงงานใช้ก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมอื่น ๆ พลังงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เนสกาแฟมีการหาวิธีการที่จะจัดการกับมลพิษทางสิ่งแวดล้อม ดังนั้นพวกเขาแปลงขยะเป็นพลังงานและใช้พลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความพยายามของพวกเขาได้มุ่งเน้นไปที่ระดับท้องถิ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสภาพแวดล้อมและความต้องการของแต่ละชุมชนท้องถิ่น.
โครงการเนสกาแฟสำหรับการผลิตกาแฟที่มีความรับผิดชอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม มีเป้าหมายที่จะสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดขณะที่การสร้างมูลค่าให้กับสังคม การผลิตกาแฟที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยพยายามที่จะลดการใช้พลังงานและน้ำที่พวกเขาสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้พวกเขาใช้วัสดุรีไซเคิลมากขึ้นและลดน้ำหนักของบรรจุภัณฑ์ พวกเขาใช้กากกาแฟเป็นเชื้อเพลิงแทนการกำจัดของเสียที่ฝังกลบ ในชิลี 2003 เนสท์เล่ได้ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนจากถ่านหินก๊าซธรรมชาติเพื่อที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมทั้งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มีเทนไนตรัสออกไซด์และ หลังจากที่ตรวจสอบโรงงานโดยสหประชาชาติในเดือนกรกฎาคมปี 2005 เนสท์เล่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ถึง 20,000 ตันต่อปี ในอนาคตจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสำหรับพืชที่จะใช้ก๊าซธรรมชาติแทนการเพิ่มขึ้นต่อพลังงานอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

nescaf ) ต้องค้นหาวิธีจัดการกับมลพิษสิ่งแวดล้อม ดังนั้น พวกเขาแปลงขยะเป็นพลังงานและใช้พลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความพยายามของพวกเขาได้มุ่งเน้นในระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อม และความต้องการของแต่ละท้องถิ่น
โครงการ nescaf ) สำหรับการผลิตกาแฟที่รับผิดชอบมี ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมเป้าหมายคือการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ในขณะที่การสร้างคุณค่าให้กับสังคม การผลิตกาแฟที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสังคม โดยพยายามที่จะลดการใช้พลังงานและน้ำจะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังใช้วัสดุรีไซเคิลมากขึ้นและลดน้ำหนักของบรรจุภัณฑ์พวกเขาใช้กาแฟเป็นเชื้อเพลิงแทนการทิ้งของเสียที่ฝังกลบ ในชิลี 2003 , เนสท์เล่ ได้ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนจากถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้แก่ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซมีเทน หลังจากการตรวจสอบโรงงาน โดยสหประชาชาติในเดือนกรกฎาคม 2005 ของเนสท์เล่ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 20 , 000 ตันต่อปีในอนาคตจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สำหรับโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติแทนพลังงานอื่น ๆเพิ่มเติมที่เพิ่มขึ้น