One plausible explanation of these

One plausible explanation of these disagreements is that all people recognize some common ethical norms but different individuals interpret, apply, and balance these norms in different ways in light of their own values and life experiences.
Most societies also have legal rules that govern behavior, but ethical norms tend to be broader and more informal than laws. Although most societies use laws to enforce widely accepted moral standards and ethical and legal rules use similar concepts, it is important to remember that ethics and law are not the same. An action may be legal but unethical or illegal but ethical. We can also use ethical concepts and principles to criticize, evaluate, propose, or interpret laws. Indeed, in the last century, many social reformers urged citizens to disobey laws in order to protest what they regarded as immoral or unjust laws. Peaceful civil disobedience is an ethical way of expressing political viewpoints.
Another way of defining 'ethics' focuses on the disciplines that study standards of conduct, such as philosophy, theology, law, psychology, or sociology. For example, a "medical ethicist" is someone who studies ethical standards in medicine. One may also define ethics as a method, procedure, or perspectivefor deciding how to act and for analyzing complex problems and issues. For instance, in considering a complex issue like global warming, one may take an economic, ecological, political, or ethical perspective on the problem. While an economist might examine the cost and benefits of various policies related to global warming, an environmental ethicist could examine the ethical values and principles at stake.
Many different disciplines, institutions, and professions have norms for behavior that suit their particular aims and goals. These norms also help members of the discipline to coordinate their actions or activities and to establish the public's trust of the discipline. For instance, ethical norms govern conduct in medicine, law, engineering, and business. Ethical norms also serve the aims or goals of research and apply to people who conduct scientific research or other scholarly or creative activities. There is even a specialized discipline, research ethics, which studies these norms.
There are several reasons why it is important to adhere to ethical norms in research. First, norms promote the aims of research, such as knowledge, truth, and avoidance of error. For example, prohibitions against fabricating, falsifying, or misrepresenting research data promote the truth and avoid error. Second, since research often involves a great deal of cooperation and coordination among many different people in different disciplines and institutions, ethical standards promote the values that are essential to collaborative work, such as trust, accountability, mutual respect, and fairness. For example, many ethical norms in research, such as guidelines for authorship, copyright and patenting policies, data sharing policies, and confidentiality rules in peer review, are designed to protect intellectual property interests while encouraging collaboration. Most researchers want to receive credit for their contributions and do not want to have their ideas stolen or disclosed prematurely. Third, many of the ethical norms help to ensure that researchers can be heldaccountable to the public. For instance, federal policies on research misconduct, conflicts of interest, the human subjects protections, and animal care and use are necessary in order to make sure that researchers who are funded by public money can be held accountable to the public. Fourth, ethical norms in research also help to build public support for research. People more likely to fund research project if they can trust the quality and integrity of research. Finally, many of the norms of research promote a variety of other importantmoral and social values, such as social responsibility, human rights, animal welfare, compliance with the law, and health and safety. Ethical lapses in research can significantly harm human and animal subjects, students, and the public. For example, a researcher who fabricates data in a clinical trial may harm or even kill patients, and a researcher who fails to abide by regulations and guidelines relating to radiation or biological safety may jeopardize his health and safety or the health and safety of staff and students.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หนึ่งคำอธิบายที่เป็นไปได้ของความขัดแย้งเหล่านี้เป็นที่ทุกคนรู้จักบางบรรทัดฐานจริยธรรมทั่วไป แต่บุคคลอื่นแปล ใช้ และดุลบรรทัดฐานเหล่านี้ด้วยวิธีการต่าง ๆ เมื่อค่าและประสบการณ์ชีวิตของตนเองสังคมส่วนใหญ่ยังมีกฎกฎหมายที่ควบคุมการทำงาน แต่บรรทัดฐานจริยธรรมมักจะกว้างขึ้น และเป็นมากขึ้นกว่ากฎหมาย แม้สังคมส่วนใหญ่ใช้กฎหมายบังคับใช้มาตรฐานทางศีลธรรมที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง และกฎจริยธรรม และกฎหมายแนวคิดคล้ายกัน เป็นสิ่งสำคัญจำจรรยาบรรณและกฎหมายไม่เหมือนกัน การดำเนินการได้ตามกฎหมาย แต่ศีลธรรม หรือผิดกฎหมาย แต่จริยธรรม เรายังสามารถใช้แนวคิดจริยธรรมและหลักการวิพากษ์วิจารณ์ ประเมิน เสนอ หรือการตีความกฎหมาย แน่นอน ในศตวรรษที่ผ่านมา ปฏิรูปสังคมหลายเรียกร้องให้ประชาชนขัดกฎหมายเพื่อปฏิเสธสิ่งที่พวกเขาถือว่าเป็นกฎหมาย immoral หรือทำลาย อารยะขัดขืนเงียบสงบทางจริยธรรมของมุมมองทางการเมืองได้อีกวิธีหนึ่งของการกำหนด 'จริยธรรม' เน้นสาขาวิชาที่ศึกษามาตรฐานจรรยาบรรณ เช่นปรัชญา ศาสนา กฎหมาย จิตวิทยา สังคมวิทยา ตัวอย่าง "ethicist แพทย์" คือบุคคลที่ศึกษามาตรฐานทางจริยธรรมในการแพทย์ หนึ่งอาจกำหนดจริยธรรมยัง เป็นวิธีการ ขั้นตอน หรือ perspectivefor การกำหนดวิธีการดำเนินการ และวิเคราะห์ปัญหาที่ซับซ้อนและปัญหา ตัวอย่าง ในการพิจารณาปัญหาซับซ้อนเช่นภาวะโลกร้อน หนึ่งอาจใช้เป็นมุมมองทางเศรษฐกิจ นิเวศวิทยา การเมือง หรือจริยธรรมในปัญหา ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์อาจตรวจสอบต้นทุนและผลประโยชน์ของนโยบายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อน ethicist สิ่งแวดล้อมที่สามารถตรวจสอบค่าจริยธรรมและหลักการที่เดิมพันสาขาวิชาต่าง ๆ สถาบัน และหลายอาชีพมีบรรทัดฐานสำหรับพฤติกรรมที่เหมาะสมกับจุดมุ่งหมายเฉพาะและเป้าหมายของพวกเขา บรรทัดฐานเหล่านี้ยังช่วยให้สมาชิกของระเบียบวินัยการประสานงานการดำเนินการหรือกิจกรรมของพวกเขา และสร้างความน่าเชื่อถือของประชาชนที่วินัย ตัวอย่าง บรรทัดฐานจริยธรรมครอบคลุมจรรยาบรรณแพทย์ กฎหมาย วิศวกรรม และธุรกิจ บรรทัดฐานจริยธรรมยังบริการจุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายของงานวิจัย และใช้กับคนที่ทำงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หรือกิจกรรมอื่น ๆ scholarly หรือสร้างสรรค์ มีได้เฉพาะวินัย จริยธรรม งานวิจัยที่ศึกษาบรรทัดฐานเหล่านี้มีหลายเหตุผลที่ทำไมจึงต้องปฏิบัติตามบรรทัดฐานจริยธรรมในการวิจัย ครั้งแรก บรรทัดฐานส่งเสริมจุดมุ่งหมายของการวิจัย ความรู้ ความจริง และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด ตัวอย่าง prohibitions กับ fabricating, falsifying หรือเวอร์แสดงข้อมูลการวิจัยสนับสนุนความจริง และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด สอง เนื่องจากงานวิจัยมักจะเกี่ยวข้องกับความร่วมมือและประสานงานระหว่างหลายคนแตกต่างกันในสาขาวิชาต่าง ๆ และสถาบันมาก มาตรฐานจริยธรรมส่งเสริมค่าที่จำเป็นต่อการทำงานร่วมกัน เช่นความน่าเชื่อถือ ความรับผิดชอบ ความเคารพ และยุติธรรม ตัวอย่าง บรรทัดฐานจริยธรรมในงานวิจัย เช่นการเสีย ลิขสิทธิ์ และ patenting นโยบาย แชร์นโยบาย และกฎรักษาความลับในเพียร์ ข้อมูลถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาขณะร่วมให้กำลังใจ นักวิจัยส่วนใหญ่ต้องการได้รับเครดิตสำหรับผลงานของพวกเขา และไม่ต้องการมีความคิดที่ถูกขโมย หรือการเปิดเผยก่อนเวลา ที่สาม บรรทัดฐานจริยธรรมมากมายช่วยให้นักวิจัยสามารถจะ heldaccountable ให้ประชาชน เช่น นโยบายของรัฐบาลกลางในวิจัยประพฤติ ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ การคุ้ม ครองเรื่องมนุษย์ และดูแลสัตว์ และการใช้จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่า นักวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนเงินสาธารณะสามารถจัดรับผิดชอบต่อสาธารณะ บรรทัดฐานที่สี่ จริยธรรมในการวิจัยยังช่วยในการสร้างสาธารณะสนับสนุนการวิจัย คนยิ่งเข้ากองทุนโครงการวิจัยถ้าพวกเขาสามารถเชื่อถือคุณภาพและความสมบูรณ์ของงานวิจัย สุดท้าย บรรทัดฐานงานวิจัยมากมายสนับสนุนหลากหลาย importantmoral และค่าสังคม สังคม สิทธิมนุษยชน สวัสดิการสัตว์ การปฏิบัติตาม กฎหมาย สุขภาพ และความปลอดภัยอื่น ๆ Lapses จริยธรรมในการวิจัยอาจเป็นอันตรายต่อมากเรื่องมนุษย์ และสัตว์ นักเรียน และประชาชน ตัวอย่าง นักวิจัยที่ fabricates ข้อมูลในการทดลองทางคลินิกอาจทำความเสียหาย หรือแม้แต่ฆ่าผู้ป่วย และนักวิจัยที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบและแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับรังสีหรือความปลอดภัยทางชีวภาพ อาจ jeopardize สุขภาพของเขา และความปลอดภัย หรือสุขภาพ และความปลอดภัยของพนักงานและนักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งคำอธิบายที่เป็นไปได้ของความขัดแย้งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทุกคนรับรู้บรรทัดฐานทางจริยธรรมบางอย่างร่วมกัน แต่บุคคลที่แตกต่างตีความนำไปใช้และความสมดุลของบรรทัดฐานเหล่านี้ในรูปแบบที่แตกต่างกันในแง่ของค่าของตัวเองและประสบการณ์ชีวิต.
สังคมส่วนใหญ่ยังมีกฎระเบียบทางกฎหมายที่ควบคุมพฤติกรรม แต่ บรรทัดฐานทางจริยธรรมที่มีแนวโน้มที่จะกว้างขึ้นและเป็นกันเองมากขึ้นกว่าที่กฎหมาย แม้ว่าสังคมส่วนใหญ่ใช้ในการบังคับใช้กฎหมายที่ได้รับการยอมรับมาตรฐานทางจริยธรรมและกฎระเบียบจริยธรรมและกฎหมายใช้แนวคิดที่คล้ายกันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ว่าจริยธรรมและกฎหมายที่ไม่เหมือนกัน การกระทำที่อาจจะมีกฎหมาย แต่ผิดจรรยาบรรณหรือผิดกฎหมาย แต่จริยธรรม นอกจากนี้เรายังสามารถใช้แนวคิดทางจริยธรรมและหลักการที่จะวิพากษ์วิจารณ์ประเมินผลเสนอหรือการตีความกฎหมาย แท้จริงในศตวรรษที่ผ่านมาการปฏิรูปทางสังคมจำนวนมากเรียกร้องให้ประชาชนที่จะฝ่าฝืนกฎหมายในการสั่งซื้อเพื่อประท้วงสิ่งที่พวกเขาได้รับการยกย่องเป็นศีลธรรมหรือกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม การละเมิดสิทธิที่เงียบสงบเป็นวิธีที่มีจริยธรรมในการแสดงมุมมองทางการเมือง.
วิธีการกำหนด 'จริยธรรม' มุ่งเน้นไปที่สาขาวิชาที่ศึกษามาตรฐานการปฏิบัติอีกเช่นปรัชญาศาสนากฎหมายจิตวิทยาหรือสังคมวิทยา ยกตัวอย่างเช่น "ethicist ทางการแพทย์" เป็นคนที่ศึกษามาตรฐานทางจริยธรรมในการแพทย์ หนึ่งยังอาจกำหนดจริยธรรมเป็นวิธีการขั้นตอนหรือ perspectivefor ตัดสินใจวิธีการดำเนินการและการวิเคราะห์ปัญหาที่ซับซ้อนและปัญหา ยกตัวอย่างเช่นในการพิจารณาปัญหาที่ซับซ้อนเช่นภาวะโลกร้อนอาจจะมีเศรษฐกิจระบบนิเวศทางการเมืองหรือมุมมองทางจริยธรรมในการแก้ปัญหา ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์อาจตรวจสอบค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์จากนโยบายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อนเป็น ethicist สิ่งแวดล้อมสามารถตรวจสอบค่านิยมทางจริยธรรมและหลักการที่ถือหุ้น.
สาขาวิชาที่แตกต่างกันหลายสถาบันการศึกษาและอาชีพที่มีบรรทัดฐานสำหรับพฤติกรรมที่เหมาะสมกับจุดมุ่งหมายและเป้าหมายของพวกเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรทัดฐานเหล่านี้ยังช่วยให้สมาชิกของการมีวินัยในการประสานงานการกระทำของตนหรือกิจกรรมและเพื่อสร้างความไว้วางใจของประชาชนของตัวเองที่ ยกตัวอย่างเช่นบรรทัดฐานทางจริยธรรมควบคุมการปฏิบัติในการแพทย์กฎหมายวิศวกรรมและธุรกิจ บรรทัดฐานทางจริยธรรมยังทำหน้าที่จุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายของการวิจัยและนำไปใช้กับผู้ที่ดำเนินการวิจัยทางวิทยาศาสตร์หรือวิชาการหรือกิจกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆ แม้จะมีระเบียบวินัยเฉพาะจริยธรรมการวิจัยซึ่งจากการศึกษาบรรทัดฐานเหล่านี้.
มีเหตุผลหลายเหตุผลที่มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็นไปตามบรรทัดฐานทางจริยธรรมในการวิจัย ครั้งแรกบรรทัดฐานส่งเสริมจุดมุ่งหมายของการวิจัยเช่นความรู้ความจริงและการหลีกเลี่ยงความผิดพลาด ยกตัวอย่างเช่นข้อห้ามกับการผลิต, เท็จหรือหลอกลวงข้อมูลการวิจัยส่งเสริมความจริงและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด ประการที่สองนับตั้งแต่การวิจัยมักจะเกี่ยวข้องกับการจัดการที่ดีของความร่วมมือและการประสานงานในหมู่คนที่แตกต่างกันในสาขาวิชาที่แตกต่างกันและสถาบันส่งเสริมมาตรฐานทางจริยธรรมค่านิยมที่จำเป็นต่อการทำงานร่วมกันเช่นความไว้วางใจความรับผิดชอบเคารพซึ่งกันและกันและความเป็นธรรม ยกตัวอย่างเช่นบรรทัดฐานทางจริยธรรมจำนวนมากในการวิจัยดังกล่าวเป็นแนวทางในการประพันธ์ลิขสิทธิ์และนโยบายการจดสิทธิบัตรนโยบายการแบ่งปันข้อมูลและกฎการรักษาความลับในการทบทวนการออกแบบมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของทรัพย์สินทางปัญญาในขณะที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน นักวิจัยส่วนใหญ่ต้องการที่จะได้รับเครดิตสำหรับผลงานของพวกเขาและไม่ต้องการที่จะมีความคิดของพวกเขาถูกขโมยหรือเปิดเผยก่อนเวลาอันควร ประการที่สามหลายบรรทัดฐานทางจริยธรรมช่วยให้แน่ใจว่านักวิจัยสามารถ heldaccountable ให้ประชาชน ยกตัวอย่างเช่นนโยบายรัฐบาลกลางเกี่ยวกับการกระทำผิดการวิจัยการขัดแย้งทางผลประโยชน์คุ้มครองมนุษย์วิชาและการดูแลและการใช้สัตว์เป็นสิ่งที่จำเป็นในการสั่งซื้อเพื่อให้แน่ใจว่านักวิจัยที่ได้รับทุนจากเงินของประชาชนสามารถรับผิดชอบต่อสาธารณชน ประการที่สี่บรรทัดฐานทางจริยธรรมในการวิจัยนี้ยังช่วยในการสร้างการสนับสนุนจากประชาชนสำหรับการวิจัย คนมีแนวโน้มที่จะให้เงินทุนโครงการวิจัยถ้าพวกเขาสามารถไว้วางใจคุณภาพและความสมบูรณ์ของการวิจัย สุดท้ายหลายบรรทัดฐานของการวิจัยการส่งเสริมความหลากหลายของค่าอื่น ๆ importantmoral และสังคมเช่นความรับผิดชอบต่อสังคมสิทธิมนุษยชนสวัสดิภาพสัตว์มีการปฏิบัติตามกฎหมายและสุขภาพและความปลอดภัย นาคจริยธรรมในการวิจัยอย่างมีนัยสำคัญสามารถเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์นักเรียนและประชาชน ยกตัวอย่างเช่นนักวิจัยที่ fabricates ข้อมูลในการทดลองทางคลินิกอาจเป็นอันตรายต่อหรือแม้กระทั่งการฆ่าผู้ป่วยและนักวิจัยที่ล้มเหลวในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการฉายรังสีหรือความปลอดภัยทางชีวภาพที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยหรือสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานของเขาและ นักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่งในคำอธิบายที่น่าเชื่อถือของความขัดแย้งเหล่านี้คือการ ที่ทุกคนรู้จักทั่วไปปกติ แต่บุคคลที่แตกต่างกันตีความจริยธรรม , สมัคร , และความสมดุลของเกณฑ์เหล่านี้ในวิธีที่แตกต่างกันในแง่คุณค่าของตัวเองและประสบการณ์ชีวิต สังคมส่วนใหญ่มีกฎ
กฎหมายที่ควบคุมพฤติกรรม แต่บรรทัดฐานทางจริยธรรมมักจะเป็นวงกว้าง และเป็นทางการมากกว่ากฎหมายแม้ว่าสังคมส่วนใหญ่ใช้กฎหมายเพื่อบังคับใช้ ยอมรับ จริยธรรมและกฎจริยธรรมและกฎหมายใช้แนวคิดที่คล้ายกัน มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ว่าจริยธรรมและกฎหมายที่ไม่เหมือนกัน การกระทำอาจจะถูกกฎหมาย แต่ผิดจรรยาบรรณ หรือผิดกฎหมาย แต่จริยธรรม เราสามารถใช้แนวคิดและหลักการทางจริยธรรมที่จะวิจารณ์ ประเมิน เสนอแนะ หรือตีความกฎหมาย แน่นอน ในศตวรรษนี้ปฏิรูปสังคมหลายเรียกร้องให้ประชาชนฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อต่อต้านสิ่งที่พวกเขาถือว่าเป็นอนาจาร หรือ ธรรม กฎหมาย สงบอารยะขัดขืนเป็นทางจริยธรรมของแสดงทัศนะทางการเมือง .
อีกวิธีหนึ่งของการกำหนด ' จริยธรรม ' เน้นสาขาวิชาที่มาตรฐานการศึกษาของการปฏิบัติ เช่น ปรัชญา ศาสนา กฎหมาย จิตวิทยา และสังคมวิทยา ตัวอย่างเช่น" Ethicist ทางการแพทย์ " คือคนที่การศึกษามาตรฐานทางจริยธรรมในการแพทย์ หนึ่งยังอาจกำหนดจริยธรรมตามขั้นตอน วิธีการ หรือ perspectivefor ตัดสินใจวิธีการทำและวิเคราะห์ปัญหาที่ซับซ้อนและปัญหา ตัวอย่างเช่นในการพิจารณาปัญหาที่ซับซ้อน เช่น ภาวะโลกร้อน หนึ่งอาจใช้เศรษฐกิจ นิเวศวิทยา การเมือง หรือจริยธรรมมุมมองเกี่ยวกับปัญหาในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์อาจจะตรวจสอบต้นทุนและผลประโยชน์ของนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อน การ Ethicist สิ่งแวดล้อมศึกษาค่านิยมทางจริยธรรมและหลักการเดิมพัน
วินัยที่แตกต่างกันหลายสถาบัน และมีพฤติกรรมที่สอดคล้องกับบรรทัดฐานสำหรับอาชีพเฉพาะจุดมุ่งหมายและเป้าหมายของพวกเขามาตรฐานเหล่านี้ยังช่วยให้สมาชิกของวินัย ประสานงานการกระทำหรือกิจกรรมและสร้างไว้วางใจของประชาชนของวินัย เช่น บรรทัดฐานทางจริยธรรมควบคุมความประพฤติในการแพทย์ กฎหมาย วิศวกรรม และธุรกิจ บรรทัดฐานทางจริยธรรมยังให้บริการวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของการวิจัย และใช้กับผู้ที่ดำเนินการวิจัยทางวิทยาศาสตร์หรือทางวิชาการหรือกิจกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆมีแม้กระทั่งวินัยเฉพาะจรรยาบรรณนักวิจัยซึ่งศึกษาบรรทัดฐานเหล่านี้ .
มีหลายเหตุผลว่าทำไมมันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะปฏิบัติตามบรรทัดฐานทางจริยธรรมในการวิจัย ก่อนเกณฑ์ส่งเสริมงานวิจัย เช่น ความรู้ ความจริง และการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด ตัวอย่างเช่น ข้อห้ามกับ fabricating ปลอมแปลง หรือ misrepresenting ข้อมูลวิจัยส่งเสริมความจริงและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด ประการที่สองเนื่องจากการวิจัยมักจะเกี่ยวข้องกับการจัดการที่ดีของความร่วมมือและการประสานงานระหว่างคนต่าง ๆในสาขาวิชาต่าง ๆและสถาบัน มาตรฐานจริยธรรมส่งเสริมค่านิยมที่จำเป็นที่ต้องทำงานร่วมกัน เช่น ความไว้วางใจ น่าเชื่อถือ เคารพซึ่งกันและกัน และความเป็นธรรม ตัวอย่างเช่น บรรทัดฐานทางจริยธรรมในการวิจัย เช่น แนวทางการประพันธ์ ,นโยบายลิขสิทธิ์และการจดสิทธิบัตรการแชร์ข้อมูลนโยบาย และกฎระเบียบความลับในตรวจสอบถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ด้านทรัพย์สินทางปัญญาในขณะที่ส่งเสริมให้ความร่วมมือ นักวิจัยส่วนใหญ่ต้องการที่จะได้รับเครดิตสำหรับผลงานของพวกเขาและไม่ต้องการที่จะมีความคิดของตัวเองถูกขโมย หรือเปิดเผยก่อนเวลาอันควร ประการที่สามหลายบรรทัดฐานจริยธรรมช่วยให้นักวิจัยสามารถ heldaccountable สู่สาธารณะ เช่น นโยบายของรัฐบาลกลางเกี่ยวกับการวิจัย , ความขัดแย้ง , คนคุ้มครองและดูแลสัตว์ และใช้เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่า นักวิจัยที่ได้รับทุนจากเงินสาธารณะ สามารถรับผิดชอบต่อสาธารณะ ประการที่สี่เกณฑ์จริยธรรมในการวิจัยยังช่วยในการสร้างสนับสนุนสาธารณะสำหรับการวิจัย ผู้คนมีแนวโน้มที่จะลงทุนโครงการวิจัยหากพวกเขาสามารถเชื่อถือได้คุณภาพและความสมบูรณ์ของข้อมูล ในที่สุด หลายแบบเพื่อส่งเสริมความหลากหลายของค่า importantmoral และสังคมอื่น ๆเช่น ความรับผิดชอบต่อ สังคม สิทธิมนุษยชน สวัสดิภาพสัตว์ ให้เป็นไปตามกฎหมาย และสุขภาพและความปลอดภัย