studied the effect of intermittent

studied the effect of intermittent drying on beta carotene degradation of squash slice. Their study showed that 87.2% of beta carotene in squash is preserved in intermittent drying while it was only 61.5% in conventional continuous drying. So, improvement of beta carotene retention is 41.78% which is much higher compared to ascorbic acid (33%) discussed previously. They developed degradation kinetics and predicted beta carotene loss considering first order reaction kinetics. The predicted data agreed with the experimental data within ±10%. No other studies investigated beta carotene in intermittent drying. Therefore, more studies needs to be conducted to investigate this for other products.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษาผลของการอบแห้งขาดตอนในการลดประสิทธิภาพของแคโรทีนเบต้าของสควอชชิ้น การศึกษาพบว่า 87.2% ของเบต้าแคโรทีนในสควอชถูกรักษาไว้ในแห้งขาด ๆ หาย ๆ ขณะเพียง 61.5% ในการอบแห้งแบบต่อเนื่อง ดังนั้น การปรับปรุงของเบต้าแคโรทีนเป็น 41.78% ซึ่งสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับกรดแอสคอร์บิค (33%) กล่าวก่อนหน้านี้ พวกเขาพัฒนาจลนพลศาสตร์การย่อยสลายและการสูญเสียแคโรทีนเบต้าคาดการณ์พิจารณาจลนพลศาสตร์ปฏิกิริยาลำดับแรก ข้อมูลคาดการณ์ตกลงกับข้อมูลการทดลอง〜% ไม่ศึกษาสอบสวนเบต้าแคโรทีนในการอบแห้งที่ไม่ต่อเนื่อง ดังนั้น การศึกษาเพิ่มเติมจำเป็นจะดำเนินการตรวจสอบนี้สำหรับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาผลกระทบของการอบแห้งเนื่องในการย่อยสลายของเบต้าแคโรทีชิ้นสควอช การศึกษาของพวกเขาแสดงให้เห็นว่า 87.2% ของเบต้าแคโรทีนในสควอชเป็นที่เก็บรักษาไว้ในการอบแห้งต่อเนื่องในขณะที่มันเป็นเพียง 61.5% ในการอบแห้งแบบเดิมอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการปรับปรุงการเก็บรักษาเบต้าแคโรทีเป็น 41.78% ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับวิตามินซี (33%) กล่าวก่อนหน้านี้ พวกเขาพัฒนาจลนศาสตร์การย่อยสลายและการคาดการณ์การสูญเสียเบต้าแคโรทีพิจารณาปฏิกิริยาจลนพลศาสตร์สั่งซื้อครั้งแรก ข้อมูลคาดการณ์เห็นด้วยกับข้อมูลการทดลองภายใน± 10% ไม่มีการศึกษาอื่น ๆ ตรวจสอบเบต้าแคโรทีนในการอบแห้งต่อเนื่อง ดังนั้นการศึกษาเพิ่มเติมจะต้องมีการดำเนินการเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้สำหรับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ