1.  การใช้ ICT พัฒนาและบริหารกำลังคนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบราชการ    การแปล - 1.  การใช้ ICT พัฒนาและบริหารกำลังคนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบราชการ    ไทย วิธีการพูด

1.  การใช้ ICT พัฒนาและบริหารกำลังค

1.  การใช้ ICT พัฒนาและบริหารกำลังคนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบราชการ  
     วารสารวิทยบริการ ปีที่ 16 ฉบับที่ 1 มกราคม-เมษายน 2548 หน้า 48-61
     ดร.ปรัชญนันท์  นิลสุข  (ค.ด.เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา)
     หัวหน้าศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร    วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม
     prachyanun@hotmail.com    http://www.prachyanun.com
ดร.ปรัชญนันท์  นิลสุข
       นโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบราชการ   โดยปฏิรูประบบราชการเริ่มจากการปรับโครงสร้างหน่วยงานการบริหารระบบราชการ และมีมาตรการต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะการพัฒนาและบริหารกำลังคนนั่นคือ ข้าราชการ   ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ  เป็นพลังผลักดันและขับเคลื่อน    การนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT : Information and Communication Technology)  เข้ามาใช้ในการพัฒนาและบริหารกำลังคน   จึงต้องมีความเข้าใจถึงรากฐานตั้งแต่นโยบาย ICT  ของประเทศ  และนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา
การใช้ ICT  เพื่อพัฒนาบุคลากร  ,  การใช้ ICT  เพื่อการบริหารกำลังคน  ,  การใช้  ICT  เพื่อพัฒนาการบริการ  ,  อุปสรรคการนำ ICT  มาใช้ในการพัฒนาและบริหารกำลังคน  ซึ่งแต่ละประเด็นล้วนมีความสอดคล้องสัมพันธ์กัน   อันจะส่งผลไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบราชการโดยรวม
นโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
รัฐบาลได้มีการกำหนดกลยุทธ์การพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่สำคัญไว้ 5 กลุ่ม คือ
·       เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านภาครัฐ (e-Government)
·       เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านพาณิชย์ (e-Commerce)
·       เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านอุตสาหกรรม (e-Industry)
·       เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านการศึกษา  (e-Education)
·       เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านสังคม  (e-Society)
e-Government  เป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลต้องการให้เกิดรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์  โดยแบ่งออกเป็น 3 ด้านคือ  G to G  (Government  to  Government)   หน่วยงานภาครัฐต่อภาครัฐ  , G to B   (Government to Business)  หน่วยงานภาครัฐต่อภาคธุรกิจ  และ  G  to  C  (Government to Citizen)   หน่วยงานภาครัฐต่อภาคประชาชน โดยมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลแห่งชาติ  PMOC  (Prime Minister Operation
Center)  ,  MOC  (Ministerial Operation Center)  ,  POC (Provincial Operation Center)  ,  DOC (Department Operation Center)
            เป้าหมายสูงสุดของรัฐก็คือ ต้องการให้ประชาชนทุกคนมี Smart Card  ที่สามารถแสดงข้อมูลของประชาชนทุกคนในประเทศได้  (สุรพงษ์  สืบวงศ์ลี, 2546)    เมื่อนำกลยุทธ์ทั้ง 5 นี้มาดำเนินการ โดยประสานสัมพันธ์และเชื่อมโยงการดำเนินการของแต่ละกลุ่มด้วยการวางแผนและการปฏิบัติที่รอบคอบ บนพื้นฐานของปัจจัยสำคัญอีกสามด้านที่จะเป็นสื่อนำไปสู่เศรษฐกิจและสังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้ คือ การสร้างทรัพยากรมนุษย์ การส่งเสริมนวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศและอุตสาหกรรมสารสนเทศ เชื่อว่าในสิบปีข้างหน้าประเทศไทยจะมีการพัฒนาไปสู่เป้าหมายข้างต้นได้อย่างเหมาะสม  ยุทธศาสตร์ตามแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  ได้
กำหนดยุทธศาสตร์หลักทั้ง  7  ด้าน  ได้แก่
            1. ยุทธศาสตร์ที่ 1  การพัฒนาอุตสาหกรรม ICT เพื่อให้เป็นผู้นำในภูมิภาค
            2. ยุทธศาสตร์ที่ 2   การใช้ ICT เพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยและสังคม ไทย
            3. ยุทธศาสตร์ที่ 3 การปฏิรูปและการสร้างศักยภาพเพื่อการวิจัยและพัฒนา ICT
            4. ยุทธศาสตร์ที่ 4 การยกระดับศักยภาพพื้นฐานของสังคมไทยเพื่อการแข่งขันในอนาคต
            5. ยุทธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการเพื่อมุ่งขยายตลาดต่างประเทศ
            6. ยุทธศาสตร์ที่ 6 การส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมใช้ ICT
            7. ยุทธศาสตร์ที่ 7 การนำ ICT  มาใช้ประโยชน์ในการบริหารและการให้บริการของภาครัฐ
            เป้าหมายการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ  เป็นเป้าหมายที่ครอบคลุมการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในภาครัฐทั้งในการบริหารราชการส่วนกลาง  ส่วนภูมิภาคและการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น   โดยเป้าหมายการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ  มี  2 เป้าหมายหลักคือ
1.       ระบบบริหาร (Back Office)  ประกอบด้วยงานสารบรรณ  งานพัสดุ  งานบุคลากร  งานการเงินและบัญชี  และงานงบประมาณการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจรภายในปี พ.ศ.2547
2.       ระบบบริการ (Front office)   ตามลักษณะงานของหน่วยงานต่าง ๆ ให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ร้อยละ 70   ภายในปี พ.ศ.2548   และครบทุกขั้นตอนภายในปี พ.ศ.2553
บทสรุป
             นโยบายของรัฐให้ความสำคัญในการนำ ICT  เข้ามาใช้ในการบริหารจัดการและการบริการ  ในหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ   รวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรทางด้านต่าง ๆ โดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้ามาใช้ให้มากขึ้น   การพัฒนาบุคลากร การบริหารจัดการและการบริการของรัฐสามารถนำเอา ICT เข้ามาใช้ได้ในทุกด้าน    แม้จะยังมีปัญหาอุปสรรคอยู่มากในหลาย ๆ ด้าน   แต่ระบบราชการคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการนำ ICT  เข้ามาช่วยในงานทุกส่วน   เพื่อความทันสมัย ความสะดวกและรวดเร็วในการพัฒนาระบบราชการจะเกิดประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก   ถ้าได้นำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้ามาใช้โดยเฉพาะพัฒนาข้าราชการอันเป็นหัวใจของระบบราชการทั้งหมด
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
1. การใช้พัฒนาและบริหารกำลังคนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบราชการ ICT วารสารวิทยบริการปีที่ 16 ฉบับที่ 1 มกราคม-เมษายน 2548 หน้า 48-61 ดร.ปรัชญนันท์นิลสุข (ค.ด.เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา) หัวหน้าศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม prachyanun@hotmail.com http://www.prachyanun.comดร.ปรัชญนันท์นิลสุข นโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบราชการโดยปฏิรูประบบราชการเริ่มจากการปรับโครงสร้างหน่วยงานการบริหารระบบราชการและมีมาตรการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโดยเฉพาะการพัฒนาและบริหารกำลังคนนั่นคือข้าราชการซึ่งเป็นหัวใจสำคัญเป็นพลังผลักดันและขับเคลื่อนการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT: ข้อมูลและเทคโนโลยีการสื่อสาร) เข้ามาใช้ในการพัฒนาและบริหารกำลังคนจึงต้องมีความเข้าใจถึงรากฐานตั้งแต่นโยบาย ICT ของประเทศและนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาการใช้ ICT เพื่อพัฒนาบุคลากร การใช้ ICT เพื่อการบริหารกำลังคน การใช้ ICT เพื่อพัฒนาการบริการ อุปสรรคการนำ ICT มาใช้ในการพัฒนาและบริหารกำลังคนซึ่งแต่ละประเด็นล้วนมีความสอดคล้องสัมพันธ์กันอันจะส่งผลไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบราชการโดยรวมนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรัฐบาลได้มีการกำหนดกลยุทธ์การพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่สำคัญไว้ 5 กลุ่มคือ· เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านภาครัฐ (รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์)· เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านพาณิชย์ (e-Commerce)· เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านอุตสาหกรรม (อีอุตสาหกรรม)· เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านการศึกษา (อีศึกษา)· เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านสังคม (อีสังคม)รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์เป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลต้องการให้เกิดรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์โดยแบ่งออกเป็น 3 ด้านคือ G-G (รัฐบาลกับรัฐบาล) หน่วยงานภาครัฐต่อภาครัฐ G กับ G และหน่วยงานภาครัฐต่อภาคธุรกิจ B (รัฐบาลธุรกิจ) กับ PMOC โดยมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลแห่งชาติหน่วยงานภาครัฐต่อภาคประชาชน C (รัฐบาลเพื่อประชาชน) (นายกรัฐมนตรีดำเนินการศูนย์), กระทรวงพาณิชย์ (ศูนย์ปฏิบัติการรัฐมนตรีต่างประเทศ), POC (ศูนย์ปฏิบัติการจังหวัด) เอกสาร (ศูนย์ปฏิบัติการกรม) เป้าหมายสูงสุดของรัฐก็คือต้องการให้ประชาชนทุกคนมีสมาร์ทการ์ดที่สามารถแสดงข้อมูลของประชาชนทุกคนในประเทศได้ (สุรพงษ์สืบวงศ์ลี ๒๕๔๖) เมื่อนำกลยุทธ์ทั้ง 5 นี้มาดำเนินการโดยประสานสัมพันธ์และเชื่อมโยงการดำเนินการของแต่ละกลุ่มด้วยการวางแผนและการปฏิบัติที่รอบคอบบนพื้นฐานของปัจจัยสำคัญอีกสามด้านที่จะเป็นสื่อนำไปสู่เศรษฐกิจและสังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้คือการสร้างทรัพยากรมนุษย์การส่งเสริมนวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศและอุตสาหกรรมสารสนเทศเชื่อว่าในสิบปีข้างหน้าประเทศไทยจะมีการพัฒนาไปสู่เป้าหมายข้างต้นได้อย่างเหมาะสมยุทธศาสตร์ตามแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้กำหนดยุทธศาสตร์หลักทั้ง 7 ด้านได้แก่ 1. ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาอุตสาหกรรม ICT เพื่อให้เป็นผู้นำในภูมิภาค 2. ยุทธศาสตร์ที่ 2 การใช้ ICT เพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยและสังคมไทย 3. ยุทธศาสตร์ที่ 3 การปฏิรูปและการสร้างศักยภาพเพื่อการวิจัยและพัฒนา ICT 4. ยุทธศาสตร์ที่ 4 การยกระดับศักยภาพพื้นฐานของสังคมไทยเพื่อการแข่งขันในอนาคต 5. ยุทธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการเพื่อมุ่งขยายตลาดต่างประเทศ 6. ยุทธศาสตร์ที่ 6 การส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมใช้ ICT 7. ยุทธศาสตร์ที่ 7 การนำ ICT มาใช้ประโยชน์ในการบริหารและการให้บริการของภาครัฐ เป้าหมายการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐเป็นเป้าหมายที่ครอบคลุมการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในภาครัฐทั้งในการบริหารราชการส่วนกลางส่วนภูมิภาคและการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นโดยเป้าหมายการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐเป้าหมายหลักคือมี 21. ระบบบริหาร (หลังสำนักงาน) ประกอบด้วยงานสารบรรณงานพัสดุงานบุคลากรงานการเงินและบัญชีและงานงบประมาณการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจรภายในปี พ.ศ.25472. ระบบบริการ (สำนักงาน) ตามลักษณะงานของหน่วยงานต่างๆ ให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ร้อยละ 70 ภายในปี พ.ศ.2548 และครบทุกขั้นตอนภายในปี พ.ศ.2553บทสรุป นโยบายของรัฐให้ความสำคัญในการนำ ICT เข้ามาใช้ในการบริหารจัดการและการบริการในหน่วยงานต่างๆ ของรัฐรวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรทางด้านต่างๆ โดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้ามาใช้ให้มากขึ้นการพัฒนาบุคลากรการบริหารจัดการและการบริการของรัฐสามารถนำเอา ICT เข้ามาใช้ได้ในทุกด้านแม้จะยังมีปัญหาอุปสรรคอยู่มากในหลายๆ ด้านแต่ระบบราชการคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการนำ ICT เข้ามาช่วยในงานทุกส่วนเพื่อความทันสมัยความสะดวกและรวดเร็วในการพัฒนาระบบราชการจะเกิดประสิทธิภาพเป็นอย่างมากถ้าได้นำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้ามาใช้โดยเฉพาะพัฒนาข้าราชการอันเป็นหัวใจของระบบราชการทั้งหมด
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
1. การใช้ไอซีที  
     ปีที่ 16 ฉบับที่ 1 มกราคม - เมษายน 2548 หน้า 48-61
     . ดรปรัชญนันท์นิลสุข
     วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม
     prachyanun@hotmail.com http://www.prachyanun.com
ดร. ปรัชญนันท์
       และมีมาตรการต่างๆ
ข้าราชการซึ่งเป็นหัวใจสำคัญเป็นพลังผลักดันและขับเคลื่อน (ICT: Information and Communication Technology) ไอซีทีของประเทศ
ไอซีทีเพื่อพัฒนาบุคลากร, การใช้ไอซีทีเพื่อการบริหารกำลังคน, การใช้ไอซีทีเพื่อพัฒนาการบริการ, อุปสรรคการนำไอซีทีมาใช้ในการพัฒนาและบริหารกำลังคน 5 กลุ่มคือ· (E-Government) · (e-Commerce) · (E-อุตสาหกรรม) · (E-การศึกษา) · (E-สังคม) รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ โดยแบ่งออกเป็น 3 ด้านคือ G เพื่อ G (รัฐบาลรัฐบาล) หน่วยงานภาครัฐต่อภาครัฐ, G ไป B (รัฐบาลธุรกิจ) หน่วยงานภาครัฐต่อภาคธุรกิจและ G เพื่อ C (รัฐบาลเพื่อประชาชน) หน่วยงานภาค รัฐต่อภาคประชาชน PMOC (นายกรัฐมนตรีดำเนินงานศูนย์) กระทรวงพาณิชย์ (รัฐมนตรีศูนย์ปฏิบัติการ) POC (ศูนย์ราชการจังหวัด) DOC (ศูนย์ปฏิบัติการกรม)             เป้าหมายสูงสุดของรัฐก็คือต้องการให้ประชาชนทุกคนมีบัตรสมาร์ท (สุรพงษ์สืบวงศ์ลี, 2546) เมื่อนำกลยุทธ์ทั้ง 5 นี้มาดำเนินการ คือการสร้างทรัพยากรมนุษย์การส่งเสริมนวัตกรรม ได้กำหนดยุทธศาสตร์หลักทั้ง 7 ด้าน ได้แก่            1 ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาอุตสาหกรรมไอซีทีเพื่อให้เป็นผู้นำในภูมิภาค            2 ยุทธศาสตร์ที่ 2 การใช้ไอซีที ไทย            3 ยุทธศาสตร์ที่ 3 ไอซีที            4 ยุทธศาสตร์ที่ 4             ยุทธศาสตร์ที่ 5             ยุทธศาสตร์ที่ 6 ไอซีที            7 ยุทธศาสตร์ที่ 7 การนำไอซีที             มี 2 เป้าหมายหลักคือ1 ระบบบริหาร (สำนักงานกลับ) ประกอบด้วยงานสารบรรณงานพัสดุงานบุคลากรงานการเงินและบัญชี พ.ศ. 2547 2 ระบบบริการ (สำนักงานด้านหน้า) ตามลักษณะงานของหน่วยงานต่าง ๆ 70 ภายในปี พ.ศ. 2548 และครบทุกขั้นตอนภายในปี              ไอซีที ในหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ ๆ การพัฒนาบุคลากร ไอซีทีเข้ามาใช้ได้ในทุกด้าน ๆ ด้าน ไอซีทีเข้ามาช่วยในงานทุกส่วนเพื่อความทันสมัย






















การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
1 . ทำไมการใช้ไอซีทีพัฒนาและบริหารกำลังคนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบราชการรึเปล่า
    วารสารวิทยบริการ 16 ปีที่ฉบับที่ 1 มกราคม - เมษายน 2548 หน้า 48-61
    ดร . ปรัชญนันท์ นิลสุข  ( ค . ด . เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา )
    หัวหน้าศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร   วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม
     prachyanun @ hotmail .     com http : / / www.prachyanun . com ปรัชญนันท์ นิลสุข

ดร .       นโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบราชการ  โดยปฏิรูประบบราชการเริ่มจากการปรับโครงสร้างหน่วยงานการบริหารระบบราชการและมีมาตรการต่างๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะการพัฒนาและบริหารกำลังคนนั่นคือข้าราชการ  ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ เป็นพลังผลักดันและขับเคลื่อน   การนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( ICT :เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เข้ามาใช้ในการพัฒนาและบริหารกำลังคน  จึงต้องมีความเข้าใจถึงรากฐานตั้งแต่นโยบายไอซีที ของประเทศ และนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา
การใช้รึเปล่าเพื่อพัฒนาบุคลากร ไอซีที ,ทำไมการใช้ไอซีที เพื่อการบริหารกำลังคน รึเปล่าการใช้รึเปล่ารึเปล่าเพื่อพัฒนาการบริการ  , ไอซีที ,ทำไมอุปสรรคการนำไอซีที มาใช้ในการพัฒนาและบริหารกำลังคน ซึ่งแต่ละประเด็นล้วนมีความสอดคล้องสัมพันธ์กัน  อันจะส่งผลไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบราชการโดยรวม

นโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรัฐบาลได้มีการกำหนดกลยุทธ์การพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่สำคัญไว้ 5 กลุ่มความ
·      เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านภาครัฐ ( e-Government )

·      เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านพาณิชย์ ( พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ )
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: