The statue of King U-ThongWithin th

The statue of King U-Thong

Within the large prang was an image of King Ramathibodi I (King U-Thong). In 1784
AD, in the reign of King Rama I (1782–1809), Prince Thepphonphak went to
Ayutthaya to restore the elephant kraal and found the figure. (1) He reported this to the
King who decided to move the image to Bangkok. Later the figure was re-casted as a
Buddha image, gilded with silver and moved to the Phra Nak Hall. King Rama IV
placed the image at the Prasat Phra Thep Bidorn (the Royal Pantheon - The Shrine of
the celestial Ancestors) in Wat Phra Kaeo at Bangkok. The standing decorated Buddha
located in the side recess of the main prang at present, is a new casting. Local people
believe that the spirit of Ramathibodi I still resides here.

West of the cloister enclosing the prang lays a large ubosot (ordination hall), 32 meters
long by 14 meters wide. The building was restored in 1956 during the government of
Field Marshal Phibun Songkhram. The monastic structure is presently in use.

South of the vihara is another smaller vihara with a reclining Buddha. Within the outer
wall there are a number of chedi rai (small votive chedis) and small monastic structures.
The temple has been frequently restored throughout the Ayutthaya period. New
constructions include the chedis in row, some of which were built during the Middle
Ayutthaya Period (1488 – 1628).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูปปั้นของพระเจ้าอู่ทองภายในปรางใหญ่เป็นภาพของพระรามาธิบดีฉัน (พระเจ้าอู่ทอง) ใน 1784 โฆษณา ในรัชสมัยของพระราม (1782-1809), เจ้าชาย Thepphonphak ยิ้ม อยุธยาคืนหมู่บ้านช้าง และพบตัวเลข (1) เขารายงานเพื่อการ กษัตริย์ตัดสินใจที่จะย้ายภาพไปกรุงเทพ หลังตัวเลขถูก re-หล่อเป็นการ พระพุทธรูป gilded กับซิลเวอร์ และย้ายศาลาพระนาก รัชกาล วางรูปที่ปราสาทพระเทพ Bidorn (รอยัลอง - ศาลเจ้าที่ของ บรรพบุรุษคน) ในวัดพระแก้วที่กรุงเทพ ยืนการตกแต่งพระพุทธรูป อยู่ในย่อมุมด้านในบริเวณปรางค์ปัจจุบัน จะหล่อใหม่ คนในท้องถิ่น เชื่อว่า จิตวิญญาณของรามาธิบดีที่ฉันยังคงอยู่ที่นี่ทางตะวันตกของวิหารคดแนบปราง lays อุโบสถขนาดใหญ่ (อุโบสถ), 32 เมตร โดย 14 เมตรกว้างยาว อาคารที่ถูกเรียกคืนในปี 1956 ระหว่างรัฐบาล จอมพลพิบูลย์สงคราม การใช้โครงสร้างสงฆ์อยู่ปัจจุบันจากวิหารนี้เป็นวิหารขนาดเล็กอีก ด้วยพระนอน ภายในภายนอก กำแพงมีเจดีย์ไร่ (chedis votive เล็ก) และโครงสร้างสงฆ์ขนาดเล็กได้ บูรณะวัดทั่วอยุธยาบ่อย ใหม่ ก่อสร้างรวม chedis แถว ซึ่งถูกสร้างขึ้นในระหว่างกลาง อยุธยา (ค.ศ. 1488 – 1628)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปปั้นของกษัตริย์ U-ทองภายในปรางค์ขนาดใหญ่เป็นภาพของพระรามาธิบดีที่ฉัน(พระเจ้าอู่ทอง) ใน 1784 AD ในสมัยรัชกาลที่ฉัน (1782-1809) เจ้าชาย Thepphonphak ไปอยุธยาเพื่อเรียกคืนหมู่บ้านช้างและพบร่าง (1) เขารายงานนี้ไปยังพระมหากษัตริย์ที่ตัดสินใจที่จะย้ายภาพไปยังกรุงเทพฯ ต่อมาร่างเป็นอีกครั้งที่หล่อเป็นพระพุทธรูปทองเงินและย้ายไปอยู่ที่พระนาคฮอลล์ รัชกาลวางภาพที่ปราสาทพระเทพ Bidorn (รอยัลแพนธีออน - ศาลบรรพบุรุษสวรรค์) ในวัดพระแก้วกรุงเทพฯ พระพุทธรูปที่ได้รับการตกแต่งยืนอยู่ในช่องด้านข้างของปรางค์ประธานในปัจจุบันเป็นหล่อใหม่ ผู้คนในท้องถิ่นเชื่อว่าจิตวิญญาณของรามาธิบดีฉันยังคงอาศัยอยู่ที่นี่. ทางตะวันตกของวัดล้อมรอบปรางค์วางพระอุโบสถขนาดใหญ่ (อุโบสถ) 32 เมตรยาว14 เมตรกว้าง ตัวอาคารได้รับการบูรณะในปี 1956 ในช่วงรัฐบาลของจอมพลพิบูลสงคราม โครงสร้างวัดเป็นปัจจุบันในการใช้งาน. ทางทิศใต้ของวิหารเป็นอีกหนึ่งวิหารขนาดเล็กที่มีพระพุทธไสยาสน์ ภายในด้านนอกผนังมีจำนวนของเจดีย์ไร่ (เจดีย์พระพิมพ์เล็ก) และโครงสร้างวัดขนาดเล็ก. วัดได้รับการบูรณะบ่อยตลอดสมัยอยุธยา ใหม่การก่อสร้างรวมถึงเจดีย์ในแถวบางแห่งที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงกลางสมัยกรุงศรีอยุธยา(1488 - 1628)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปปั้นของกษัตริย์อู่ทอง

ภายในปรางค์ขนาดใหญ่เป็นรูปของพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีชั้น King ( อู่ทอง ) ใน 1784
โฆษณา ในรัชสมัยของรัชกาลที่ ( 1 ) 1256 ) , เจ้าชาย thepphonphak ไป
อยุธยาเพื่อเรียกคืนหมู่บ้านช้าง และพบร่าง ( 1 ) เขารายงานให้
กษัตริย์ที่ตัดสินใจที่จะย้ายภาพไปยังกรุงเทพฯ ต่อมาก็เป็นรูปเป็น
หล่อพระพุทธรูปทองกับเงินและย้ายไปยังพระนัก Hall พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วางภาพที่ปราสาทพระเทพ bidorn ( หลวงแพนทีออน - ศาลเจ้า
บรรพบุรุษสวรรค์ ) ในวัดพระแก้วที่กรุงเทพ ยืนตกแต่งพระพุทธรูป
ตั้งอยู่ในด้านย่อมุมปรางค์หลักในปัจจุบันคือ หล่อใหม่
ชาวบ้านเชื่อว่าวิญญาณของรามาธิบดี ผมยังคงอยู่ที่นี่

ทางทิศตะวันตกของวิหารคดล้อมพระปรางค์วางอุโบสถขนาดใหญ่ ( พระอุโบสถวัดพระแก้ว )
ยาว 32 เมตร กว้าง 14 เมตร อาคารได้รับการบูรณะในปี 1956 ระหว่างรัฐบาล
จอมพลพิบูลสงคราม . โครงสร้างของสงฆ์ที่เป็นปัจจุบันในการใช้

ใต้ของวิหารเป็นวิหารขนาดเล็กอีก มีพระพุทธไสยาสน์ ภายในภายนอก
กำแพงมีเจดีย์ราย ( เจดีย์พระพิมพ์ขนาดเล็ก ) และโครงสร้างวัดเล็ก
วิหารได้รับการบูรณะบ่อยตลอดสมัยอยุธยา การก่อสร้างใหม่
รวมจำนวนในแถว ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงกลางสมัยอยุธยา ( 1
( 1628 )