Cassava is one of the most importan

Cassava is one of the most important staple foods
in the human diet in the tropics, and ranked as
the sixth most important source of calories in the
human diet worldwide (FAO 1996; Alfredo et
al. 2000). Oguntunde (2005) reported that total
production of cassava in Africa had increased from
35 to 80 million tons between 1965 and 1995, with
Nigeria leading the rest of Africa. In many parts
of Africa, cassava leaves and tender shoots are
consumed; because the leaves contain about 7%
of protein (fresh weight) and a high level of lysine
(Mabrouk et al. 1987). Cassava is a competitive
crop, especially for the production of starch, ani

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มันสำปะหลังเป็นอาหารหลักสำคัญที่สุดอย่างใดอย่างหนึ่งในอาหารมนุษย์ในเขตร้อน และการจัดอันดับแหล่งที่มาสำคัญที่สุดหกของแคลอรี่ในการมนุษย์อาหารทั่วโลก (FAO 1996 Alfredo ร้อยเอ็ดal. 2000) Oguntunde (2005) รายงานว่า ผลรวมผลิตมันสำปะหลังในแอฟริกาได้เพิ่มขึ้นจาก35 ไป 80 ล้านตันระหว่างปี 1965 และ 1995 ด้วยนำส่วนเหลือของแอฟริกาไนจีเรีย ในหลายส่วนแอฟริกา ใบมันสำปะหลังและยอดชำระเงินเป็นใช้ เนื่องจากใบประกอบด้วยประมาณ 7%โปรตีน (น้ำหนักสด) และแอล-ไลซีนในระดับสูง(Mabrouk et al. 1987) มันสำปะหลังมีการแข่งขันตัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการผลิตแป้ง เอนิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันสำปะหลังเป็นหนึ่งในอาหารหลักที่สำคัญที่สุดในอาหารของมนุษย์ในเขตร้อนและจัดอันดับให้เป็นแหล่งที่สำคัญที่สุดที่หกของแคลอรี่ในอาหารของมนุษย์ทั่วโลก(FAO 1996; อัลเฟร et al, 2000). Oguntunde (2005) รายงานว่ายอดรวมการผลิตมันสำปะหลังในแอฟริกาเพิ่มขึ้นจาก35-80000000 ตันระหว่าง 1965 และ 1995 กับไนจีเรียชั้นนำส่วนที่เหลือของทวีปแอฟริกา ในหลายส่วนของทวีปแอฟริกาใบมันสำปะหลังและยอดซื้อจะบริโภค; เพราะใบมีประมาณ 7% ของโปรตีน (น้ำหนักสด) และระดับสูงของไลซีน(Mabrouk et al. 1987) มันสำปะหลังเป็นการแข่งขันเพาะปลูกโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการผลิตแป้งนิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันสำปะหลังเป็นอาหารหลักที่สำคัญที่สุด
ในอาหารของมนุษย์ในเขตร้อน และรับการจัดอันดับ
6 สำคัญที่สุดแหล่งที่มาของแคลอรี่ในอาหารของมนุษย์ทั่วโลก
( เฝ้า 1996 ; Alfredo et
อัล 2000 ) oguntunde ( 2005 ) รายงานว่า ปริมาณการผลิตมันสำปะหลังในแอฟริกาได้

เพิ่มขึ้นจาก 35 ถึง 80 ล้านตันระหว่างปี 1965 และ 2538 กับ
ไนจีเรียนำส่วนที่เหลือของแอฟริกา ในหลายส่วน
แอฟริกา , ใบมันสำปะหลัง และบรรจงยิงเป็น
บริโภค เพราะใบประกอบด้วยโปรตีนประมาณ 7 %
( น้ำหนักสด ) และระดับไลซีน
( mabrouk et al . 1987 ) มันสำปะหลังเป็นพืชแข่งขัน
, โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการผลิตแป้ง นีย์