Popper (1959) gave one of the most

Popper (1959) gave one of the most famous accounts of science. He was a falsificationist. Lakatos (1970) described three brands of falsificationism: dogmatic, naive and sophisticated. Dogmatic falsificationism says that all theories are conjectural and science cannot prove; it can disprove. Proponents demand that once a theory is disproved, it must be unconditionally rejected. This means that science grows by the repeated overthrow of theories by hard facts (Lakatos, 1970). Naive falsificationism is similar to dogmatic falsificationism except that some methodological decisions7 need to be taken in naive falsificationism. Lakatos (1970) mentions two characteristics common to both dogmatic and naive falsificationism: (a) a test is – or must be made – a two-cornered fight between theory and experiment and (b) the only interesting outcome of this confrontation is refutation of the theory. PAT researchers do not subscribe to this methodological dictate of falsificationism

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Popper (1959) ให้หนึ่งบัญชีมีชื่อเสียงที่สุดของวิทยาศาสตร์ เขาได้ที่ falsificationist Lakatos (1970) กล่าวถึงแบรนด์ที่สามของ falsificationism: ขำน่านา ๆ และซับซ้อน Falsificationism นา ๆ กล่าวว่า ทฤษฎีทั้งหมดที่มี conjectural และวิทยาศาสตร์ไม่สามารถ พิสูจน์ได้ มันสามารถพิสูจน์หักล้าง Proponents ความว่า เมื่อดำรงเป็นทฤษฎี มันต้องเป็นลูกปฏิเสธ ซึ่งหมายความ ว่า วิทยาศาสตร์ขึ้น โดยล้มล้างการซ้ำของทฤษฎี โดยข้อเท็จจริงที่หนัก (Lakatos, 1970) Naive falsificationism จะคล้ายกับ falsificationism นา ๆ แต่บาง decisions7 methodological ต้องดำเนินการใน falsificationism ขำน่า Lakatos (1970) กล่าวถึงลักษณะทั่วไปนา ๆ ทั้งสอง และขำน่า falsificationism: (ก) การทดสอบคือ – หรือต้องทำ – การต่อสู้จนมุมสองระหว่างทฤษฎีและการทดลอง และ (ข) ผลลัพธ์เท่านั้นน่าสนใจของการเผชิญหน้านี้คือ refutation ของทฤษฎี นักวิจัย PAT ไม่ได้สมัครสมาชิกนี้ methodological บอกของ falsificationism

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตกใจ (1959) ให้เป็นหนึ่งในบัญชีที่มีชื่อเสียงที่สุดของวิทยาศาสตร์ เขาเป็น falsificationist Lakatos (1970) อธิบายสามแบรนด์ของ falsificationism: ดันทุรังไร้เดียงสาและมีความซับซ้อน ดันทุรัง falsificationism บอกว่าทฤษฎีทั้งหมดที่มีการคาดเดาและวิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้; ก็สามารถหักล้าง ความต้องการของผู้เสนอทฤษฎีที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รู้แจ้งเห็นจริงก็จะต้องถูกปฏิเสธโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งหมายความว่าวิทยาศาสตร์เติบโตโดยการล้มล้างซ้ำของทฤษฎีโดยข้อเท็จจริงที่ยาก (Lakatos, 1970) หน่อมแน้ม falsificationism คล้ายกับ falsificationism ดันทุรังยกเว้นว่า decisions7 วิธีการบางอย่างที่จะต้องมีการดำเนินการใน falsificationism ไร้เดียงสา Lakatos (1970) กล่าวถึงสองลักษณะทั่วไปทั้ง falsificationism ดันทุรังและไร้เดียงสา (ก) การทดสอบเป็น - หรือจะต้องทำ - การต่อสู้สองมุมระหว่างทฤษฎีและการทดสอบและ (ข) ผลลัพธ์ที่น่าสนใจของการเผชิญหน้านี้พิสูจน์ของ ทฤษฎี นักวิจัย PAT ไม่ได้สมัครสมาชิกนี้บอกให้เขียนวิธีการของ falsificationism

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปอปเปอร์ ( 1959 ) ให้หนึ่งบัญชีที่มีชื่อเสียงที่สุดของวิทยาศาสตร์ เขาเป็น falsificationist . ลากาตอส ( 1970 ) อธิบายไว้สามยี่ห้อ falsificationism : ดันทุรัง , ไร้เดียงสาและมีความซับซ้อน ดันทุรัง falsificationism บอกว่าทฤษฎีทั้งหมดคือการคาดเดาและวิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ มันสามารถหักล้าง . ผู้เสนอทฤษฎีความต้องการที่ครั้งหนึ่งคือ หักล้าง จะต้องไม่มีเงื่อนไขปฏิเสธซึ่งหมายความว่าวิทยาศาสตร์เติบโตโดยซ้ำล้มล้างทฤษฎีโดยข้อเท็จจริงยาก ลากาตอส , 1970 ) ไร้เดียงสา falsificationism คล้ายกับดันทุรัง falsificationism ยกเว้นบางวิธีการ decisions7 ต้องถูก falsificationism ไร้เดียงสา . ลากาตอส ( 1970 ) กล่าวถึงสองลักษณะทั่วไปทั้งดันทุรังและไร้เดียงสา falsificationism :( ก ) การทดสอบ ( หรือต้องทำทั้งสองทำให้การต่อสู้ระหว่างทฤษฎีและการทดลอง และ ( ข ) แต่ผลที่น่าสนใจของการเผชิญหน้านี้เป็นคำโต้แย้งของทฤษฎี แพท นักวิจัยไม่ได้สมัครสมาชิกบอกนี้ไม่สมบูรณ์ falsificationism