The design of the central sanctuary

The design of the central sanctuary, the Maha Pho wihan (also called Maha Chedi, Thai: มหาเจดีย์), does indeed somewhat resemble the Mahabodhi temple, clearly having Indian influences. Crowning the flat roof of the rectangular windowless building are seven spires (In Thai: chet yot) which gives the temple its name: a pyramid-like spire with a square base set back from the centre surrounded by four smaller similar spires, and, set atop the two smaller annexes of the main building, two bell-shaped chedis.

The interior of the building contains a barrel vaulted corridor which leads to a Buddha statue at its end. Right and left of the Buddha statue narrow stairs lead up to the roof. In days past a bodhi tree grew on top of the roof but which was removed in 1910 CE to prevent the structure from collapse. Women should not climb up to the roof as only men are allowed to enter this part of the temple.[1]

The exterior façades of the building feature 70, partially strongly weathered, stucco reliefs of Thewada (Devas), divine beings, the faces of whom have allegedly been modelled after relatives of King Tilokarat.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบบมุงเซ็นทรัล วิหารมหาโพธิ์ (เรียกว่ามหาเจดีย์ ไทย: มหาเจดีย์), แน่นอนค่อนข้างคล้ายพุทธคยา มีอิทธิพลอินเดียอย่างชัดเจน ผ่อนดาดฟ้าของอาคารไม่มีหน้าต่างสี่เหลี่ยมมีสไปรส์เจ็ด (ในไทย: โพธารามมหาวิหาร) ที่ให้วัดชื่อ: สไปร์เหมือนพีระมิด มีฐานสี่เหลี่ยมตั้งกลางล้อมรอบ ด้วยสี่ขนาดเล็กคล้ายสไปรส์ และ ตัมแอนเน็กซ์เล็กสองของอาคาร chedis ทรงระฆังคว่ำสองภายในอาคารประกอบด้วยทางเดิน vaulted กระบอกซึ่งนำไปสู่พุทธที่จุดสิ้นสุด ขวาและซ้ายของบันไดแคบรูปปั้นพระนำขึ้นไปยังดาดฟ้า วันที่ผ่านมาโพธิเป็น ต้นไม้เติบโตบนหลังคาแต่ที่ถูกเอาออกใน 1910 CE เพื่อป้องกันโครงสร้างจากยุบ ผู้หญิงไม่ควรปีนขึ้นหลังคาเป็นผู้ชายเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ป้อนวัดแห่งนี้ [1]Façades ภายนอกอาคารคุณลักษณะ 70 บางส่วนขอ weathered ปูน reliefs Thewada (Devas), ทิพย์เทพ ใบหน้าของผู้ที่ได้หลังการคือ แบบจำลองหลังจากญาติของกษัตริย์ Tilokarat

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การออกแบบของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์กลาง, มหาโพธิวิหาร (ที่เรียกว่ามหาเจดีย์ไทย: มหาเจดีย์) ไม่แน่นอนค่อนข้างคล้ายวัด Mahabodhi อย่างเห็นได้ชัดมีอิทธิพลอินเดีย ยอดหลังคาแบนของอาคารหน้าต่างสี่เหลี่ยมจะเจ็ดยอด (ภาษาไทย: เจ็ดยอด) ซึ่งจะช่วยให้วัดชื่อ: ยอดปิรามิดเช่นเดียวกับฐานสี่เหลี่ยมกำหนดกลับจากใจกลางที่ล้อมรอบด้วยสี่ขนาดเล็กยอดแหลมคล้ายกันและการตั้งค่า บนทั้งสองภาคผนวกที่มีขนาดเล็กของอาคารหลักสองเจดีย์รูประฆัง. ภายในอาคารมีทางเดินโค้งบาร์เรลซึ่งนำไปสู่การเป็นพระพุทธรูปที่สิ้นสุด ขวาและซ้ายของพระพุทธรูปบันไดแคบนำขึ้นไปบนหลังคา ในวันที่ผ่านมาต้นโพธิ์เติบโตบนหลังคา แต่ที่ถูกลบออกในปี 1910 ซีอีเพื่อป้องกันไม่ให้โครงสร้างจากการล่มสลาย ผู้หญิงไม่ควรปีนขึ้นไปบนหลังคาเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับอนุญาตที่จะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของวัดนี้. [1] อาคารด้านนอกของอาคาร 70 คุณลักษณะบางส่วนผุอย่างยิ่งปูนปั้นของ Thewada (อมร) สิ่งมีชีวิตที่พระเจ้าใบหน้า ของผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าได้รับการถ่ายแบบญาติของกษัตริย์ Tilokarat

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การออกแบบของวิหารกลาง วิหารมหาโพธิ์ ( เรียกว่ามหาเจดีย์ , ไทย : มหาเจดีย์ ) ไม่แน่นอนค่อนข้างคล้ายวัด mahabodhi อย่างชัดเจนมีอิทธิพลอินเดีย เป็นหลังคาแบนของอาคารหน้าต่างสี่เหลี่ยมที่ 7 ยอด ( ไทย : วัดเจ็ดยอด ) ซึ่งทำให้ชื่อของมัน :พีระมิดฐานสี่เหลี่ยมเหมือน Spire กับตั้งค่ากลับจากศูนย์ ล้อมรอบด้วยสี่ขนาดเล็กคล้ายยอดแหลม และตั้งอยู่บนสองขนาดเล็กภาคผนวกของอาคารหลักสองกระดิ่งรูปเจดีย์

ภายในอาคารประกอบด้วยบาร์เรลไม้ทางเดินที่นำไปสู่พระพุทธรูปที่ปลายของมัน ซ้ายและขวาของพระพุทธรูปแคบบันไดนำขึ้นไปบนดาดฟ้าในวันที่ผ่านมาต้นโพธิ์ปลูกบนดาดฟ้า แต่ซึ่งจะถูกลบออกใน CE 1910 เพื่อป้องกันโครงสร้างจากการล่มสลาย ผู้หญิงไม่ควรปีนขึ้นหลังคาเป็นผู้ชายเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในส่วนนี้ของพระวิหาร [ 1 ]

ทาภายนอกอาคารคุณลักษณะของเอฟเอเอดึส 70 บางส่วนขอผุ , ปูนปั้นนูนของเทวดา ( อมร ) ศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่งใบหน้าของผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าถูกจำลองหลังจากญาติของกษัตริย์ tilokarat .