ROBERT MOTHERWELLAMERICAN / 1915 -

ROBERT MOTHERWELL
AMERICAN / 1915 - 1991
To the Palette for A La Pintura (1969)
Source: Oxford University Press
American painter, printmaker and editor. A major figure of the Abstract Expressionist generation, in his mature work he encompassed both the expressive brushwork of action painting and the breadth of scale and saturated hues of colour field painting, often with a marked emphasis on European traditions of decorative abstraction.
Motherwell was sent to school in the dry climate of central California to combat severe asthmatic attacks and developed a love for the broad spaces and bright colours that later emerged as essential characteristics of his abstract paintings. His later concern with themes of mortality can likewise be traced to his frail health as a child. From 1932 he studied literature, psychology and philosophy at Stanford University, CA, and encountered in the poetry of the French Symbolists an expression of moods that dispensed with traditional narrative. He paid tribute to these writers in later paintings such as Mallarmé’s Swan (1944; Cleveland, OH, Mus. A.) and The Voyage (1949; New York, MOMA), named after Baudelaire’s poem. As a postgraduate student of philosophy at Harvard University, Cambridge, MA, in 1937–8, he found further justification for abstraction in writings by John Dewey, Alfred North Whitehead and David Prall, later relating their views on the expression of individual identity through immediate experiences to his own urge to reveal his personality through the gestures of his brushwork (see Action Painting).
Motherwell decided to become an artist after seeing modern French painting during a trip to Paris in 1938–9, but in order to satisfy his father’s demands for a secure career he first studied art history from 1940 to 1941 under Meyer Schapiro at Columbia University, NY. Through Schapiro he met Roberto Matta and other exiled European artists associated with Surrealism; their use of automatism as a means of registering subconscious impulses was to have a lasting effect on Motherwell and on other American painters such as Jackson Pollock, Lee Krasner and William Baziotes, whom he befriended in New York after a trip to Mexico in 1941 with Matta.
While in Mexico, Motherwell executed his first known works, the Mexican Sketchbook of 11 pen-and-ink drawings in black and white (artist’s col.; for first page, see Arnason, 1982, p. 29). These were influenced by Matta but were more abstract and spontaneous in appearance. The appeal of automatist spontaneity, however, was complemented for him by the clear structure, simple shapes and broad areas of flat colour in paintings by Piet Mondrian, Picasso and Matisse.
The interaction of emotionally charged brushwork with severity of structure began to emerge in paintings such as the Little Spanish Prison (1941–4; New York, MOMA), a deceptively simple composition of slightly undulating vertical stripes in yellow and white interrupted by a single horizontal bar.
In 1943 Motherwell produced a series of dark, menacing works of torn and paint-stained paper in response to the wartime atmosphere. Surprise and Inspiration (Venice, Guggenheim), originally called Wounded Personage, equated the act of tearing with killing and the paint-soaked paper with bandages. These collages, which heralded his lifelong commitment to the medium, were presented as the focal point of his first one-man exhibition held in 1944 at Peggy Guggenheim’s Art of This Century Gallery, New York.
During the 1940s, like many of his colleagues in the New York School, Motherwell remained devoted to recognizable imagery, to the expressive potential of calligraphic marks and to subject-matter of a literary and of a political nature, as in Pancho VILLA, Dead and Alive (gouache and oil with collage on cardboard, 1943; New York, MOMA). The abstract paintings for which he is best known, such as Elegy to the Spanish Republic XXXIV (1953–4; Buffalo, NY, Albright–Knox A.G.), one of a series of more than 140 large canvases initiated in 1949, expressed a nostalgia that he shared with many of his generation for the lost cause of the Spanish Civil War. The works in this series typically consist of black, organic ovals squeezed by stiff, vertical bars against a white ground, retaining the unpremeditated quality of an ink sketch even when enlarged to enormous dimensions, as in the much later Reconciliation Elegy . He conceived of the shapes as elements within an almost musical rhythm, rich in associations with archetypal imagery of figures or body parts but sufficiently generalized to convey a mood rather than a specific representation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรเบิร์ตมาเธอร์เวลล์สหรัฐอเมริกา / 1915-1991ชุดสีสำหรับ Pintura ลา (1969)ที่มา: มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดกดจิตรกรชาวอเมริกัน printmaker และแก้ไข ตัวเลขหลักที่รุ่น Expressionist นามธรรม ในงานของเขาเป็นผู้ใหญ่เขาผ่านทั้ง brushwork แสดงออกของการวาดภาพและวาดภาพ มักจะ มีเน้นประเพณียุโรปของ abstraction ตกแต่งทำเครื่องหมายฟิลด์สีสีสันอิ่มตัวและขอบของสเกลมาเธอร์เวลล์ถูกส่งไปที่โรงเรียนเพื่อต่อสู้กับการโจมตีอย่างรุนแรงหอบหืดในอากาศแห้งของแคลิฟอร์เนียกลาง และพัฒนาความรักในช่องว่างที่กว้างและสีสดใสที่เกิดภายหลังเป็นลักษณะสำคัญของภาพวาดนามธรรมของเขา ความกังวลของเขาในภายหลังกับชุดรูปแบบของการตายในทำนองเดียวกันสามารถติดตามสุขภาพ frail เขาเป็นเด็ก จากปี 1932 เขาศึกษาวรรณคดี จิตวิทยา และปรัชญาที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด CA และพบในบทกวีของ Symbolists ฝรั่งเศสนิพจน์ของอารมณ์ที่คำ ด้วยการเล่าเรื่องแบบดั้งเดิม เขาจ่ายส่วยให้นักเขียนเหล่านี้ในภาพวาดในภายหลังเช่นของ Mallarmé สวอน (1944 คลีฟแลนด์ OH, Mus. A.) เดินทาง (1949 และ New York, MOMA), ชื่อหลังจากบทกวีของบอเดแลร์ เป็นนักศึกษาปริญญาเอกด้านปรัชญาที่ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เคมบริดจ์ MA ในปีค.ศ. 1937 – 8 เขาพบเหตุผลเพิ่มเติมสำหรับ abstraction ในงานเขียนโดยจอห์น Dewey อัลเฟรดนอร์ธ Whitehead และ David Prall เกี่ยวกับมุมมองของพวกเขาในนิพจน์ของตัวของตัวผ่านประสบการณ์ทันทีเพื่อกระตุ้นตนเองให้เหมาะกับบุคลิกภาพของเขาโดยใช้รูปแบบลายเส้นของเขา brushwork ในภายหลัง (ดูภาพการกระทำ)มาเธอร์เวลล์ตัดสินใจเป็น ศิลปินหลังจากเห็นสมัยฝรั่งเศสวาดภาพในระหว่างการเดินทางไปปารีส ในค.ศ. 1938 – 9 แต่ เพื่อตอบสนองความต้องการของพ่อของเขาในอาชีพทางเขาแรกศึกษาประวัติศาสตร์ศิลปะจาก 1940 กับ 1941 ภายใต้ Meyer Schapiro ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย NY ผ่าน Schapiro เขาได้พบกับ Roberto Matta และอื่น ๆ ถูกเนรเทศศิลปินยุโรปที่เกี่ยวข้องกับลัทธิเหนือจริง ใช้ของ automatism ว่าลงทะเบียน subconscious แรงกระตุ้นให้ผลยั่งยืนมาเธอร์เวลล์ และจิตรกรชาวอเมริกัน Jackson Pollock, Lee Krasner และ William Baziotes ซึ่งเขา befriended ในนิวยอร์กหลังจากเดินทางไปเม็กซิโกใน 1941 กับ Matta ได้ในประเทศเม็กซิโก มาเธอร์เวลล์ดำเนินงานรู้จักเขาครั้งแรก Sketchbook เม็กซิกันของวาด 11 pen-and-ink ขาวดำ (พันเอกของศิลปิน หน้าแรก ดู Arnason, 1982, p. 29) เหล่านี้ได้รับอิทธิพลจาก Matta แต่นามธรรมมากขึ้น และอยู่ในลักษณะ อุทธรณ์ของ automatist spontaneity อย่างไรก็ตาม มีตู้สำหรับเขา โดยโครงสร้างที่ชัดเจน รูปทรงเรียบง่าย และพื้นที่กว้างแบนสีในภาพวาดโดยมงเดรียน Picasso และ Matisseการโต้ตอบของ brushwork ชำระอารมณ์ ด้วยความรุนแรงของโครงสร้างเริ่มโผล่ในภาพเช่นคุกสเปนน้อย (1941-4 New York, MOMA), องค์ประกอบคนเรื่องของลายเส้นแนวตั้งลำบากเล็กน้อยในสีเหลืองและสีขาวถูกขัดจังหวะ ด้วยแถบแนวนอนเดียวกันใน 1943 มาเธอร์เวลล์ผลิตชุดของความมืด menacing งานของกระดาษฉีก และระบายสีในบรรยากาศความโหดร้าย รู้สึกประหลาดใจและแรงบันดาลใจ (เวนิส Guggenheim), เดิมเรียกว่า Personage ได้รับบาดเจ็บ equated การกระทำของการฉีกขาดด้วยการฆ่าและใช้ผ้าพันแผลกระดาษสีที่เปี่ยมล้นไปด้วย อาชีพระดับสูงเหล่านี้ ซึ่งยกย่องว่า เสน่ห์ของเขารองสื่อ ถูกนำเสนอเป็นจุดเด่นของนิทรรศการ one-man ของเขาครั้งแรกจัดขึ้นในปี 1944 ที่ Peggy Guggenheim ศิลปะนี้ศตวรรษที่ Gallery นิวยอร์กในระหว่างทศวรรษ 1940 โดย เช่นของเพื่อนร่วมงานของเขาในโรงเรียน New York มาเธอร์เวลล์ยังคงอุทิศให้กับภาพจำ การแสดงออกเป็นเครื่องหมาย calligraphic และเรื่องเรื่อง ของตัววรรณกรรม และ ธรรมชาติทางการเมือง ใน Pancho by MacVx"> VILLA ตาย และอยู่ (gouache และน้ำมัน ด้วยภาพตัดปะบนกระดาษแข็ง 1943 New York, MOMA) ภาพวาดนามธรรมที่ที่เป็นรู้จักกันดี เช่น Elegy เพื่อ XXXIV สาธารณรัฐของสเปน (1953-4 บัฟฟาโล NY อรีน็อก A.G.), หนึ่งในชุดของผืนผ้าใบขนาดใหญ่ที่มากกว่า 140 ที่เริ่มต้นใน 1949 แสดงความคิดถึงที่เขาใช้ร่วมกับหลายรุ่นใน lost ของสงครามกลางเมืองของสเปน งานในชุดนี้ประกอบด้วยการคั้น โดยบาร์แข็ง แนวตั้งกับพื้นสีขาว รักษาคุณภาพของภาพร่างหมึกแม้ขยายขนาดมหาศาล ในการมากหลังกระทบ Elegy unpremeditated วงรีสีดำ อินทรีย์โดยทั่วไป เขารู้สึกของรูปร่างเป็นองค์ประกอบภายในเกือบดนตรีจังหวะ อุดมไปด้วยความสัมพันธ์กับภาพอย่างไร archetypal ของภาพหรือส่วนของร่างกาย แต่พอตั้งค่าทั่วไปถ่ายทอดเป็นอารมณ์แทนที่เป็นตัวแทนเฉพาะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรเบิร์ตเธอร์
AMERICAN / 1915 - 1991
เพื่อ Palette สำหรับลา Pintura (1969)
ที่มา:
สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยอเมริกันจิตรกรพิมพ์และบรรณาธิการ รูปที่สำคัญของการสร้างศิลปะนามธรรมในการทำงานที่เป็นผู้ใหญ่ของเขารวมทั้งพู่กันแสดงออกของการวาดภาพการกระทำและความกว้างของขนาดและสีอิ่มตัวของการวาดภาพสนามสีมักจะมีการเน้นการทำเครื่องหมายในประเพณียุโรปของนามธรรมตกแต่ง.
เธอถูกส่ง ไปยังโรงเรียนในสภาพภูมิอากาศที่แห้งในตอนกลางของแคลิฟอร์เนียที่จะต่อสู้กับโรคหืดโจมตีที่รุนแรงและการพัฒนาความรักสำหรับพื้นที่ในวงกว้างและสีสดใสที่ต่อมากลายเป็นลักษณะสำคัญของภาพวาดนามธรรมของเขา ความกังวลของเขาในภายหลังที่มีรูปแบบของการตายเช่นเดียวกันสามารถโยงไปถึงสุขภาพที่อ่อนแอของเขาเป็นเด็ก จาก 1,932 เขาศึกษาวรรณคดีจิตวิทยาและปรัชญาที่ Stanford University, แคลิฟอร์เนียและที่พบในบทกวีของฝรั่งเศส Symbolists การแสดงออกของอารมณ์ความรู้สึกที่จ่ายด้วยการเล่าเรื่องแบบดั้งเดิม เขาจ่ายส่วยให้นักเขียนเหล่านี้ในภาพวาดในภายหลังเช่นหงส์Mallarméของ (1944; คลีฟแลนด์, โอไฮโอ, Mus ก.) และการเดินทาง (1949; นิวยอร์ก MOMA) ตั้งชื่อตามบทกวีของโบดแลร์ ในฐานะที่เป็นนักศึกษาปริญญาเอกของปรัชญาที่ Harvard University, เคมบริดจ์ใน 1937-8 เขาพบว่าเหตุผลต่อไปสำหรับสิ่งที่เป็นนามธรรมในงานเขียนของจอห์นดิวอี้โดยอัลเฟรดนอร์ทเฮดและเดวิด Prall ภายหลังที่เกี่ยวข้องกับมุมมองของพวกเขาในการแสดงออกของตัวตนของแต่ละบุคคลผ่านทันที ประสบการณ์ในการกระตุ้นของเขาเองที่จะเปิดเผยบุคลิกของเขาผ่านท่าทางของพู่กันของเขา (ดูการกระทำจิตรกรรม).
เธอตัดสินใจที่จะกลายเป็นศิลปินหลังจากที่ได้เห็นภาพวาดที่ทันสมัยฝรั่งเศสในระหว่างการเดินทางไปยังกรุงปารีสใน 1938-9 แต่เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของพ่อของเขา สำหรับการประกอบอาชีพที่มีความปลอดภัยครั้งแรกที่เขาได้ศึกษาประวัติศาสตร์ศิลปะ 1940-1941 ภายใต้เมเยอร์ Schapiro ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียนิวยอร์ก ผ่าน Schapiro เขาได้พบกับโรแบร์โต Matta และศิลปินยุโรปลี้ภัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถิตยศาสตร์; การใช้งานของอัตโนมัติเป็นวิธีการลงทะเบียนแรงกระตุ้นจิตใต้สำนึกก็จะมีผลยาวนานในมาเธอร์และจิตรกรชาวอเมริกันอื่น ๆ เช่นแจ็คสันพอลล็อคลี Krasner และวิลเลียม Baziotes ซึ่งเขาเป็นเพื่อนสนิทในนิวยอร์กหลังจากการเดินทางไปยังเม็กซิโกในปี 1941 กับแมทท่า .
ในขณะที่ในเม็กซิโกเธอดำเนินงานที่รู้จักกันครั้งแรกของเขาที่ Sketchbook เม็กซิกัน 11 ภาพวาดปากกาและหมึกสีดำและสีขาว (ศิลปินเทือกเขา .; สำหรับหน้าแรกให้ดู Arnason, 1982, น. 29) เหล่านี้ได้รับอิทธิพลจาก Matta แต่นามธรรมมากขึ้นและเกิดขึ้นเองในลักษณะที่ปรากฏ อุทธรณ์ของธรรมชาติ automatist อย่างไรครบครันสำหรับเขาโดยโครงสร้างที่ชัดเจนของรูปทรงที่เรียบง่ายและพื้นที่ในวงกว้างของสีแบนในภาพวาดโดย Piet Mondrian ปิกัสโซและมาตีส.
ปฏิสัมพันธ์ของอารมณ์พุ่งพู่กันกับความรุนแรงของโครงสร้างเริ่มโผล่ออกมาในภาพวาด เช่นเรือนจำสเปนเล็ก ๆ น้อย ๆ (1941-4; นิวยอร์ก MOMA).
องค์ประกอบที่เรียบง่ายของลายแนวตั้งลูกคลื่นเล็กน้อยเหลืองและสีขาวขัดจังหวะด้วยแถบแนวนอนเดียวในปี1943 เธอหยิบชุดสีเข้มงานอันตรายของการฉีกขาด และกระดาษสีย้อมสีเพื่อตอบสนองต่อบรรยากาศในช่วงสงคราม ความประหลาดใจและแรงบันดาลใจ (เวนิส Guggenheim) เดิมเรียกว่าได้รับบาดเจ็บบุคคลสำคัญ, บรรจุการกระทำของการฉีกขาดที่มีการฆ่าและกระดาษสีแช่ด้วยผ้าพันแผล ภาพเหล่านี้ซึ่งประกาศความมุ่งมั่นตลอดชีวิตของเขาไปยังกลางที่ถูกนำเสนอเป็นจุดโฟกัสของการจัดนิทรรศการคนเดียวครั้งแรกของเขาที่จัดขึ้นในปี 1944 ที่หอ Peggy Guggenheim ของนี้แกลลอรี่ศตวรรษที่นิวยอร์ก.
ในช่วงปี 1940 เช่นเดียวกับหลายของเพื่อนร่วมงานของเขาใน โรงเรียนนิวยอร์กเธอยังคงทุ่มเทให้กับภาพที่รู้จักศักยภาพที่แสดงออกของเครื่องหมายการประดิษฐ์ตัวอักษรและเรื่องเรื่องของวรรณกรรมและที่มีลักษณะทางการเมืองในขณะที่พันโชวิลล่าตายและยังมีชีวิตอยู่ (gouache และน้ำมันที่มีภาพตัดปะบนกระดาษแข็ง, 1943; นิวยอร์ก MOMA) ภาพวาดนามธรรมที่เขาเป็นที่รู้จักกันดีเช่นไว้อาลัยสาธารณรัฐสเปน XXXIV (1953-4; บัฟฟาโล, นิวยอร์ก, ไบรท์-น็อกซ์เอจี) ซึ่งเป็นหนึ่งในชุดของกว่า 140 ผืนผ้าใบขนาดใหญ่ที่ริเริ่มในปี 1949 แสดงความคิดถึง ที่เขามีส่วนร่วมกับหลายรุ่นของเขาสำหรับสาเหตุที่หายไปของสงครามกลางเมืองสเปน ผลงานในชุดนี้มักจะประกอบด้วยสีดำวงรีอินทรีย์บีบโดยแข็งแถบแนวตั้งกับพื้นสีขาว, การรักษาที่มีคุณภาพกะทันหันของร่างหมึกแม้ในขณะที่การขยายขนาดใหญ่ในขณะที่ความสมานฉันท์ต่อมาไว้อาลัย เขารู้สึกของรูปทรงที่เป็นองค์ประกอบภายในจังหวะดนตรีเกือบที่อุดมไปด้วยความสัมพันธ์กับภาพตามแบบฉบับของตัวเลขหรือส่วนต่างๆของร่างกาย แต่ทั่วไปพอที่จะถ่ายทอดอารมณ์มากกว่าการเป็นตัวแทนที่เฉพาะเจาะจง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรเบิร์ตมาเธอร์เวลล์
ชาวอเมริกัน 1915 - 1991
กับจานสีสำหรับลาเหรอ ( 1969 )
ที่มา : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด
ชาวอเมริกันจิตรกรผู้พิมพ์และบรรณาธิการ รูปใหญ่ของการสร้างศิลปะนามธรรมในเขาเป็นผู้ใหญ่ทำงานเขาครอบคลุมถึงทั้งการกระทำและการแสดงออกความเคลื่อนไหวของภาพกว้างของขนาดและสีอิ่มตัวของสาขาจิตรกรรมสีมักจะมีเครื่องหมายเน้นประเพณียุโรปนามธรรมตกแต่ง .
มาเธอร์เวลล์ส่งโรงเรียนในสภาพอากาศแห้งแห่งแคลิฟอร์เนียภาคกลางเพื่อต่อสู้กับการโจมตีหอบหืดรุนแรง และพัฒนาความรักสำหรับผู้หญิงเป็นสีสดใสที่ต่อมากลายเป็นลักษณะสำคัญของภาพวาดนามธรรมของเขาความกังวลของเขาในภายหลังกับรูปแบบของการตายสามารถเหมือนกันจะโยงไปถึงสุขภาพที่อ่อนแอของเขาเป็นเด็ก จาก พ.ศ. 2475 เขาศึกษาวรรณกรรม จิตวิทยา และปรัชญาที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด แคลิฟอร์เนีย และพบในกวีนิพนธ์ ของ ฝรั่งเศส symbolists การแสดงออกของอารมณ์ที่จ่ายด้วยการเล่าเรื่องแบบดั้งเดิม เขาจ่ายส่วยให้นักเขียนเหล่านี้ในภาพในภายหลังเช่นมาลลาร์เม่หงส์ ( 1944 ) ;คลีฟแลนด์ , โอ้ , มัส . 1 . ) และการเดินทาง ( 1949 ; นิวยอร์ก MoMA ) ตั้งชื่อตามบทกวี โบดแลร์ . เป็นนักศึกษาปริญญาเอกของปรัชญาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เคมบริดจ์ , แมสซา , ใน 1937 – 8 , เขาได้พบเหตุผลเพิ่มเติมสำหรับนามธรรมในงานเขียน โดย จอห์น ดิวอี้ อัลเฟรด นอร์ทเฮด และเดวิด พรอลล์ ,ภายหลังที่เกี่ยวกับมุมมองของพวกเขาในการแสดงออกของตัวตนบุคคลผ่านประสบการณ์ทันทีเพื่อกระตุ้นให้ตัวเองเพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาผ่านทางท่าทางของความเคลื่อนไหวของเขา ( เห็นภาพ Action ) .
มาเธอร์เวลล์ตัดสินใจที่จะเป็นนักร้องหลังจากที่เห็นภาพวาดฝรั่งเศสสมัยใหม่ ระหว่างเดินทางไปปารีสใน 1938 – 9แต่เพื่อการตอบสนองความต้องการของบิดาของเขาเป็นอาชีพมั่นคงพระองค์แรกที่เรียนประวัติศาสตร์ศิลปะจาก 2483 ถึง 2484 ใต้ เมเยอร์ ชาปิโร มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย นิวยอร์ก ผ่าน ชาปิโร เขาพบกับโรแบร์โต้ มัตตะและเนรเทศศิลปินยุโรปที่เกี่ยวข้องกับป้ายสี ;พวกเขาใช้อัตโนมัติเป็นวิธีการลงทะเบียนจิตใต้สำนึกแรงกระตุ้นที่จะมีผลกระทบยาวนานใน Motherwell และจิตรกรชาวอเมริกันอื่น ๆเช่น แจ็คสัน พอลล็อค ลีแครสเนอร์ และวิลเลียม บาซิโอเทส ซึ่งเขาเป็นเพื่อนกับ ในนิวยอร์ก หลังจากเดินทางไปเม็กซิโก ในปี 1941 ด้วยเมตตา .
ขณะที่ในเม็กซิโก , มาเธอร์เวลล์ประหารชีวิตของเขาครั้งแรกที่รู้จักทำงานสมุดสเก็ตช์ของเม็กซิโก 11 และภาพวาดหมึกปากกาสีดำและสีขาว ( ศิลปินที่สำคัญ สำหรับหน้า แรกเห็น อาร์นาสัน , 2525 , หน้า 29 ) เหล่านี้ได้รับอิทธิพลโดยมัตตะแต่นามธรรมมากขึ้นและเป็นธรรมชาติในลักษณะที่ปรากฏ อุทธรณ์ของ automatist ความเป็นธรรมชาติ แต่ถูกเติมเต็มให้เขา โดยโครงสร้างชัดเจน รูปทรงที่เรียบง่ายและพื้นที่กว้างแบนสีโดย Piet mondrian ภาพวาด ,ปีกัสโซและ Matisse .
การชาร์จอารมณ์ความเคลื่อนไหวกับความรุนแรงของโครงสร้างเริ่มโผล่ในภาพเช่นคุกสเปนน้อย ( 1941 ) 4 ; นิวยอร์ก MoMA ) , องค์ประกอบง่ายๆ deceptively เล็กน้อยลูกคลื่นแนวตั้งแถบสีเหลืองและสีขาวการขัดจังหวะโดยเดี่ยวแนวนอนบาร์ .
ใน 1943 มาเธอร์เวลล์ผลิตชุด ของมืดเป็นอันตราย งานฉีกขาดและสีย้อมกระดาษในการตอบสนองต่อสงคราม บรรยากาศ แปลกใจและแรงบันดาลใจ ( เวนิส , Guggenheim ) , เดิมเรียกว่าบุคคลได้รับบาดเจ็บ , การกระทำของศาสนา equated กับฆ่า และสีกระดาษที่แช่ด้วยผ้าพันแผล ภาพตัดปะเหล่านี้ ซึ่งประกาศความมุ่งมั่นตลอดชีวิตของเขา ขนาดกลางที่ถูกนำเสนอเป็นจุดโฟกัสของการจัดนิทรรศการเดี่ยวของเขาแรกจัดขึ้นใน ค.ศ. 1944 ที่ศิลปะของศตวรรษนี้ Peggy Guggenheim Gallery , New York .
ระหว่าง 1940 เช่นเดียวกับหลายเพื่อนร่วมงานของเขาในโรงเรียนนิวยอร์ก มาเธอร์เวลล์ ยังคงทุ่มเทให้กับการเป็นที่รู้จัก เพื่อศักยภาพที่แสดงออกของเครื่องหมายการโบราณและวรรณกรรมและ ของธรรมชาติของการเมือง เช่น Pancho วิลล่าตายและยังมีชีวิตอยู่ ( ตัดช่องทางและน้ำมันกับเรขาคณิตบนกระดาษแข็ง 2486 ; นิวยอร์ก MoMA ) เป็นภาพวาดที่เขารู้จักดีที่สุด เช่น ไว้อาลัยกับ xxxiv สาธารณรัฐสเปน ( 1953 – 4 ; บัฟฟาโล นิวยอร์ก และท่านไบรท์น็อกซ์ ) หนึ่งในชุดของกว่า 140 ผืนผ้าใบขนาดใหญ่ที่เริ่มต้นในปี 1949 แสดงความคิดถึงที่เขาใช้ร่วมกันกับหลายรุ่นที่เขาหายไปเพราะของ สงครามกลางเมืองที่สเปนผลงานในชุดนี้มักจะประกอบด้วยสีดำ อินทรีย์ วงรี บีบโดยแข็งแถบแนวตั้งกับพื้นขาว รักษา unpremeditated คุณภาพของหมึกวาดเมื่อขยายขนาดมหาศาล ในการไว้อาลัย ประนีประนอมมากในภายหลัง เขารู้สึกรูปร่างเป็นองค์ประกอบภายในจังหวะดนตรีเกือบรวยในสมาคมที่มีภาพตามแบบฉบับของตัวเลขหรือส่วนของร่างกาย แต่เพียงพอที่จะถ่ายทอดอารมณ์ทั่วไปมากกว่าการแสดง

โดยเฉพาะ