The pupils interviewed stated that

The pupils interviewed stated that they always spent at least a half to one hour to prepare for their traditional dictation
lessons before changes. They all viewed dictation as a kind of spelling-checking exercise. 12 out of 15 pupils (80% of
the pupils) indicated they were working under stress and threat. 100% of the pupils declared that they were always
trying hard to get high scores to satisfy their parents. They all thought that every learner had to undergo dictation
lessons in their language learning process. All of them had strong belief that dictation helped their learning. They had
never thought of any possibility of change in the way dictation could have been conducted. Some pupils expressed their
concerns about having changes. They were insecure over any new ways of dictation which they had never experienced
before and they did not have confidence in getting satisfactory results in their work in new ways of doing dictation.
After the introduction of the innovative dictation activities, pupils began to enjoy their dictation lessons. Some
pupils immediately asked whether they would have the same kind of activities in their coming dictation lessons once the
lesson was over. They looked forward to having the lessons again instead of avoiding them like what they did in the
past. Data collected in the questionnaires revealed pupils’ consistent and strong belief in the use of dictation in their
learning. The figure was even higher than it was before the study. There was an increase of 17 pupils representing
17.5% of the sample. This is an encouraging finding because it reveals that pupils not only treat innovative dictation
activities as interesting games but also as learning processes. 15 more pupils, an increase of 15.5%, found happiness in
their dictation lessons and the satisfaction pupils gained from the innovative dictation lessons also increased by 12.4%
or a total of 12 more pupils. Pupils who were previously worried about changes realised that dictation lessons could also
be fun. 57 out of 97 pupils, representing 58.8% of the sample, either gave the responses of ‘strongly agree’ or ‘agree’ on
having more dictation lessons. There was an increase of 15 pupils representing an increase of 22.7% who held positive
responses when compared with the figure at the beginning of the study. In the final questionnaire, 78% of pupils
expressed that they enjoyed their innovative dictation activities while 76% of the pupils expressed their preferences in
having the new innovative dictation activities to the traditional exercises they used to have.
6
The rise in figures implies that pupils have developed a positive attitude towards their dictation lessons. They
began to believe that learning could take place in relaxing and enjoyable dictation lessons. Their positive attitude led to
their willingness in having more dictation lessons that might eventually enhance their language learning. Details were
shown in the following diagrams.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักเรียนสัมภาษณ์ระบุว่า พวกเขาจะใช้น้อยครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับพวกเขาแบบดั้งเดิมบทเรียนก่อนการเปลี่ยนแปลง พวกเขาทั้งหมดดูบอกเป็นการออกกำลังกายการตรวจสอบการสะกดของ 12 จาก 15 นักเรียน (80% ของนักเรียน) ระบุทำภายใต้ความเครียดและความเสี่ยง 100% ของนักเรียนที่ประกาศว่า พวกเขาได้เสมอพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้คะแนนสูงสุดของการปกครอง พวกเขาคิดว่า ผลงานมีการได้รับคำบอกบทเรียนในกระบวนการเรียนรู้ภาษาของพวกเขา เชื่อว่าที่บอกช่วยการเรียนรู้ทั้งหมดได้ พวกเขาได้ไม่เคยคิดว่า ความเป็นไปใด ๆ ของการเปลี่ยนแปลงในวิธีการเขียนตามคำบอกอาจได้ดำเนิน นักเรียนบางส่วนที่แสดงของพวกเขาความกังวลเกี่ยวกับการมีการเปลี่ยนแปลง พวกเขาก็ไม่ปลอดภัยผ่านใด ๆ วิธีการใหม่ของการเขียนตามคำบอกซึ่งพวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์ก่อน และพวกเขาไม่มีความมั่นใจในการรับผลในการทำงานในรูปแบบใหม่ของการทำบอกหลังจากนำกิจกรรมบอกนวัตกรรม นักเรียนเริ่มไปเรียนการเขียนตามคำบอก บางนักเรียนทันทีถามว่า พวกเขาจะมีกิจกรรมประเภทเดียวกันในการเรียนการเขียนตามคำบอกมาครั้งเรียนได้มากกว่า พวกเขามองไปข้างหน้าจะมีบทเรียนอีกครั้งแทนที่จะหลีกเลี่ยงได้เช่นสิ่งที่พวกเขาได้ในการที่ผ่านมา ของนักเรียนสอดคล้อง และความเชื่อในการใช้ของคำบอกในการเปิดเผยข้อมูลในแบบสอบถามของพวกเขาการเรียนรู้ ตัวเลขก็สูงกว่าก่อนการศึกษา มีการเพิ่มขึ้นของนักเรียนที่ 17 แทน17.5% ของตัวอย่าง เป็นการส่งเสริมการค้นหาเนื่องจากมันแสดงให้เห็นว่า นักเรียนไม่เพียงรักษานวัตกรรมบอกกิจกรรม เป็นเกมที่น่าสนใจ แต่ยัง เป็นกระบวนการเรียนรู้ นักเรียนเพิ่มเติม 15 เพิ่มขึ้น 15.5% พบความสุขในหลักสูตรการเขียนตามคำบอกและความพึงพอใจนักเรียนที่ได้รับจากบทเรียนนวัตกรรมบอกเพิ่มขึ้น 12.4%หรือจำนวนนักเรียนเพิ่มเติม 12 นักเรียนที่กังวลก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงรู้บอกที่เรียนอาจยังจะสนุก นักเรียน 57 จาก 97 ร้อยละ 58.8 ของตัวอย่าง ก็ให้การตอบสนองของ 'ขอยอมรับ' หรือ 'ตกลง'มีบทเรียนบอกเพิ่มเติม มีการเพิ่มขึ้นของนักเรียน 15 ที่เพิ่ม 22.7% ที่จัดเป็นบวกการตอบสนองเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขที่เริ่มต้นของการศึกษา ในแบบสอบถามสุดท้าย 78% ของนักเรียนแสดงว่า พวกเขาอิ่มกิจกรรมนวัตกรรมบอก 76% ของนักเรียนที่แสดงค่าที่กำหนดในมีกิจกรรมบอกนวัตกรรมใหม่เพื่อการออกกำลังกายแบบดั้งเดิมที่เคยมี6เพิ่มขึ้นในตัวเลขบ่งชี้ว่า นักเรียนมีพัฒนาทัศนคติเชิงบวกต่อการเรียนการเขียนตามคำบอก พวกเขาเริ่มที่จะเชื่อว่า การเรียนรู้อาจใช้เวลาในการผ่อนคลาย และสนุกบอกบทเรียน ทัศนคติที่นำไปสู่ใจของพวกเขามีบทเรียนบอกเพิ่มเติมที่อาจเสริมสร้างการเรียนรู้ภาษาในที่สุด รายละเอียดมีแสดงในไดอะแกรมต่อไปนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักเรียนสัมภาษณ์ระบุว่าพวกเขามักจะใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการบงการดั้งเดิมของพวกเขา
บทเรียนก่อนการเปลี่ยนแปลง พวกเขาทั้งหมดที่ได้ดูคำสั่งเป็นชนิดของการออกกำลังกายการสะกด-การตรวจสอบ 12 จาก 15 นักเรียน (80% ของ
นักเรียน) ระบุว่าพวกเขากำลังทำงานภายใต้ความกดดันและเป็นภัยคุกคาม 100% ของนักเรียนได้ประกาศว่าพวกเขามักจะ
พยายามอย่างหนักที่จะได้รับคะแนนสูงเพื่อตอบสนองความปกครองของพวกเขา พวกเขาทุกคนคิดว่าคนที่เรียนเขาจะได้รับการบงการ
บทเรียนในกระบวนการเรียนรู้ภาษาของพวกเขา ทั้งหมดของพวกเขามีความเชื่อมั่นว่าคำสั่งช่วยให้การเรียนรู้ พวกเขา
ไม่เคยคิดว่าเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงในคำสั่งวิธีการใด ๆ ที่จะได้รับการดำเนินการ นักเรียนบางคนแสดงของพวกเขา
กังวลเกี่ยวกับการมีการเปลี่ยนแปลง พวกเขาไม่ปลอดภัยกว่าวิธีการใหม่ ๆ ของคำสั่งที่พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์
มาก่อนและพวกเขาไม่ได้มีความมั่นใจในการได้รับผลที่น่าพอใจในการทำงานของพวกเขาในรูปแบบใหม่ของการทำคำสั่ง.
หลังจากการแนะนำของกิจกรรมการบงการนวัตกรรมนักเรียนเริ่มที่จะสนุกกับคำสั่งของพวกเขา บทเรียน บาง
นักเรียนทันทีถามว่าพวกเขาจะมีชนิดเดียวกันของกิจกรรมในการเรียนการบงการมาของพวกเขาครั้งหนึ่งเคยเป็น
บทเรียนที่ถูกกว่า พวกเขามองไปข้างหน้าจะมีบทเรียนอีกครั้งแทนการหลีกเลี่ยงพวกเขาต้องการสิ่งที่พวกเขาทำใน
อดีตที่ผ่านมา การเก็บรวบรวมข้อมูลในแบบสอบถามพบนักเรียน 'ความเชื่อที่สอดคล้องกันและแข็งแรงในการใช้คำสั่งในของพวกเขา
เรียนรู้ คิดเป็นสูงยิ่งขึ้นกว่า แต่ก่อนการศึกษา มีการเพิ่มขึ้นของนักเรียนที่เป็นตัวแทนของ 17 เป็น
17.5% ของกลุ่มตัวอย่าง นี่คือการค้นพบให้กำลังใจเพราะมันแสดงให้เห็นว่านักเรียนไม่เพียง แต่รักษาคำสั่งนวัตกรรม
กิจกรรมเป็นเกมที่น่าสนใจ แต่ยังเป็นกระบวนการเรียนรู้ 15 นักเรียนมากขึ้นเพิ่มขึ้น 15.5% พบความสุขใน
การเรียนการบงการของพวกเขาและความพึงพอใจของนักเรียนที่ได้จากบทเรียนคำสั่งที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพิ่มขึ้น 12.4%
หรือรวมเป็น 12 นักเรียนมากขึ้น นักเรียนที่เป็นห่วงก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงตระหนักว่าบทเรียนคำสั่งนอกจากนี้ยังอาจ
จะสนุก 57 จาก 97 นักเรียนคิดเป็น 58.8% ของกลุ่มตัวอย่างทั้งให้การตอบสนองของ 'เห็นด้วยอย่างยิ่ง' หรือ 'ตกลง' บน
มีบทเรียนคำสั่งเพิ่มเติม มีการเพิ่มขึ้นของนักเรียน 15 คิดเป็นเพิ่มขึ้น 22.7% ซึ่งถือเป็นบวก
การตอบสนองเมื่อเทียบกับตัวเลขที่จุดเริ่มต้นของการศึกษาที่ ในแบบสอบถามสุดท้าย 78% ของนักเรียน
แสดงว่าพวกเขาสนุกกับกิจกรรมการบงการนวัตกรรมของพวกเขาในขณะที่ 76% ของนักเรียนแสดงความต้องการของพวกเขาใน
การมีกิจกรรมการบงการนวัตกรรมใหม่เพื่อการออกกำลังกายแบบดั้งเดิมที่พวกเขาเคยมี.
6
ขึ้นในตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่านักเรียน ได้มีการพัฒนาทัศนคติที่ดีต่อการเรียนการบงการของพวกเขา พวกเขา
เริ่มที่จะเชื่อว่าการเรียนรู้ที่จะใช้สถานที่ในการเรียนการบงการผ่อนคลายและสนุกสนาน ทัศนคติเชิงบวกของพวกเขาจะนำไปสู่
​​ความตั้งใจของพวกเขาในการมีคำสั่งบทเรียนมากขึ้นว่าในที่สุดอาจจะส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาของพวกเขา ตามรายละเอียด
ดังภาพต่อไปนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักเรียนสัมภาษณ์กล่าวว่าพวกเขามักจะใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเขียนตามคำบอกแบบดั้งเดิมของพวกเขาบทเรียนก่อนการเปลี่ยนแปลง พวกเขาทั้งหมดดูได้ตามคำบอกเป็นชนิดของการตรวจสอบการสะกดคำ ออกกำลังกาย 12 จาก 15 ( 80% ของนักเรียนนักเรียน ) พบพวกเขาทำงานภายใต้ความเครียดและภัยคุกคาม 100% ของนักเรียนประกาศว่าพวกเขาอยู่เสมอพยายามที่จะได้รับคะแนนสูงที่จะตอบสนองกับพ่อแม่ของพวกเขา พวกเขาคิดว่าผู้เรียนต้องผ่านการเขียนตามคำบอกบทเรียนในการเรียนรู้ภาษากระบวนการ ทั้งหมดของพวกเขามีความเชื่อว่า เขียนตามคำบอกช่วยการเรียนรู้ของตนเอง พวกเขามีไม่เคยคิดว่า ความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงในทางที่เขียนอาจจะถูกดำเนินการ นักเรียนบางแสดงของพวกเขาความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง พวกเขาไม่มั่นคงกว่าใด ๆ วิธีการใหม่ของการเขียนตามคำบอกที่พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์ก่อนและพวกเขาไม่ได้มีความมั่นใจในการรับผลที่น่าพอใจในงานของพวกเขาในวิธีใหม่ของการทำเขียนตามคำบอกหลังจากการแนะนำของกิจกรรมการเขียนตามคำบอกนวัตกรรมนักเรียนเริ่มที่จะสนุกกับบทเรียน เขียนตามคำบอกของ บางนักเรียนถามทันทีว่าพวกเขามีชนิดเดียวกันของกิจกรรมในบทเรียนมาเขียนเมื่อบทเรียนก็จบ พวกเขามองไปข้างหน้าจะมีบทเรียนอีกครั้งแทนที่จะหลีกเลี่ยงพวกเขาเหมือนที่พวกเขาทำในที่ผ่านมา ข้อมูลในแบบสอบถามพบนักเรียนที่สอดคล้องกันและความเชื่อที่แข็งแกร่งในการใช้พจนานุกรมในการของพวกเขาการเรียนรู้ ร่างสูงกว่าเดิมก่อนเรียน มีการเพิ่ม 17 นักเรียนแทน17.5 เปอร์เซ็นต์ ของตัวอย่าง นี่เป็นนิมิตหาเพราะมันพบว่า นักเรียนไม่เพียง แต่รักษาตามคำบอก นวัตกรรมเป็นเกมที่น่าสนใจ แต่ยังเป็นกิจกรรมการเรียนรู้กระบวนการ 15 นักเรียน เพิ่มขึ้น 15.5% , พบความสุขในบทเรียนตามคำบอกของพวกเขาและความพึงพอใจนักเรียนที่ได้รับจากบทเรียนที่เขียนใหม่ยังเพิ่มขึ้น 12.4%หรือรวมมากกว่า 12 คน นักเรียนที่เคยกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงคำสั่งได้ตระหนักว่าบทเรียนจะสนุก 57 จาก 97 นักเรียนเป็นตัวแทนระดับ 91% ของกลุ่มตัวอย่างทั้งสองให้การตอบสนองของ ' เห็นด้วย ' หรือ ' เห็นด้วย ' ในมีบทเรียนเขียนเพิ่มเติม มีการเพิ่ม 15 นักเรียนคิดเป็นเพิ่มขึ้น 22.7 % ที่จัดขึ้นเป็นบวกการตอบสนองเมื่อเทียบกับตัวเลขที่จุดเริ่มต้นของการศึกษา ในแบบสอบถาม สุดท้าย 78 % ของนักเรียนกล่าวว่าพวกเขาสนุกกับกิจกรรมการเขียนตามคำบอกนวัตกรรมของพวกเขาในขณะที่ 76% ของนักเรียนแสดงการตั้งค่าของพวกเขาในมีนวัตกรรมใหม่ต่างๆ เพื่อฝึกเขียนแบบดั้งเดิมที่พวกเขาเคยมี6การเพิ่มขึ้นของตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่า นักเรียนมีการพัฒนาทัศนคติที่ดีต่อบทเรียน เขียนตามคำบอกของ พวกเขาเริ่มที่จะเชื่อว่า การเรียนรู้จะใช้สถานที่ในการพักผ่อนและเรียนสนุก เขียนตามคำบอก ทัศนคติเชิงบวกของพวกเขานำไปสู่ความตั้งใจของพวกเขามีมากขึ้นตามคำบอกบทเรียนที่อาจจะส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาของพวกเขา รายละเอียดคือแสดงในแผนภาพต่อไปนี้