THE ROSE RED CITYDeep in the desert

THE ROSE RED CITY
Deep in the deserts of Jordan lies the ancient city of Petra. Petra (from the Greek, meaning “rock”) is located in a great rift valley about 80 kilometers south of the Dead sea. Through a narrow gorge, it emerges into view, revealing awe-inspiring monuments cut into the surrounding rose sandstone cliffs long ago.
There are many ways to get into Petra, but none of them is easy, and if the valleys are blocked off, it is almost impossible for anyone to enter. The main entrance to Petra, called the Siq, is a very narrow gorge, with sides as high as 200 meters. A handful of people on them could hold off an entire army. This gorge and the temple, called the Karneh, were used as a location in the American movie Indiana Jones and the Crusade and so became famous around the world. The remains of the ancient city of Petra have become a major tourist attraction in the middle east. But what is the story behind this astonishing city? Who built it, and why?
Petra was founded around the sixth century B.C. by Nabataean Arabs, a nomadic tribe who settled in the area. At that time, the site was probably no more than a storage place for their plunder. They soon found, however, that it paid better to demand money from the caravans carrying silk and spices from the Far East in return for giving them safe conduct through their land. The Nabataeans gradually obtained more and more territory and consequently gained control over more caravan routes, establishing a commercial empire that extended between Arabia and Syria.
Stories of the great wealth of Petra soon reached the ears of the Romans, and two The Nabataeans were one of the most civilized people of antiquity. Petra was renowned for its massive architecture and the ingenuity of its pools, dam, and water channels. The spectacular ruins of the city act as testimony to the engineering skills and artistry of the Nabataeans. Nearly 3,000 tombs, dwellings, banquet halls, altars, and niches were chiseled by hand into the rose red cliffs, creating a spectacle of brilliant facades. The giant semicircle of the amphitheatre carved into the rock had seats for eight thousand people. The Kazneh, or Treasury, is the most impressive of its monuments. Its name comes from the treasure that, in Bedouin legend, the Pharaoh chasing the Israelites hid in the urn at the site. The urn is marked by gunshots fired over the years: people have tried to knock it down to discover its contents. But the real treasure lies all around in this city, with its amazing examples of ancient architecture and engineering.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กุหลาบแดงเมืองลึกในพระ Jordan อยู่เมืองโบราณเภตรา เปตรา (จากภาษากรีก ความหมาย "ร็อค") อยู่เกรตริฟต์แวลลีย์ 80 กิโลเมตรทางใต้ของทะเลตาย ผ่านโดดแคบ มันทอดลงในมุมมอง อนุสาวรีย์มากตัดเป็นหน้าผาหินทรายกุหลาบรอบนานเปิดเผย มีหลายวิธีที่จะได้รับในเปตรา แต่ไม่มีพวกเขาเป็นเรื่องง่าย และหุบเขาที่ถูกบล็อคปิด มันว่าเกือบเป็นไปไม่ได้สำหรับการป้อน ทางเข้าหลักเภตรา เรียก Siq โดดที่แคบมาก มีด้านสูง 200 เมตรได้ กำมือของคนนั้นสามารถเก็บออกจากกองทัพทั้งหมด โดดนี้และวัด เรียกว่า Karneh ใช้เป็นสถานที่ในภาพยนตร์อเมริกันอินเดียน่าโจนส์และสงครามครูเสด และดังนั้น กลายเป็นมีชื่อเสียงทั่วโลก ของโบราณของเมือง Petra ได้กลายเป็น แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในตะวันออกกลาง แต่เรื่องหลังนี่น่าอัศจรรย์คืออะไร ผู้สร้าง และทำไม เปตราก่อตั้งขึ้นรอบ ๆ บีศตวรรษที่หก โดยนาบาทาเอียนอาหรับ เผ่า nomadic ที่ชำระในพื้นที่ ในขณะนั้น เว็บไซต์ได้คงไม่เกินกว่าจัดเก็บสำหรับการปล้น พวกเขาเร็ว ๆ นี้พบ อย่างไรก็ตาม ที่มันจ่ายดีกว่าความต้องการเงินจากเน้นการถือครองผ้าไหมและเครื่องเทศจากตะวันออกไกลกลับมาเพื่อให้ปลอดภัยดำเนินผ่านที่ดินของตน Nabataeans ค่อย ๆ ได้รับดินแดนมาก ขึ้น และจึง ได้ควบคุมคาราวานเพิ่มเติมเส้นทาง สร้างอาณาจักรธุรกิจที่ขยายระหว่างดีอาระเบียและซีเรีย เรื่องราวของมายเภตราดีเร็วถึงหูของชาวโรมัน และ Nabataeans สองถูกคนของสุดอารยหนึ่ง เปตราเป็นสถาปัตยกรรมยิ่งใหญ่และการประดิษฐ์คิดค้นของสระว่ายน้ำ เขื่อน และช่องน้ำ โบราณสถานอันงดงามของเมืองทำหน้าที่เป็นพยานเพื่อทักษะและศิลปะ Nabataeans วิศวกรรม เกือบ 3000 สุสาน ย้าย เลี้ยง บูชา และตรงไหนถูกจารึกด้วยมือเป็นกุหลาบผาแดง สร้างปรากฏการณ์ของสมดุลที่ยอดเยี่ยม Semicircle ยักษ์ของอัฒจันทร์ที่แกะสลักลงในหินที่มีที่นั่งให้แปดหมื่นคน Kazneh การบริหารการเงิน ได้ประทับใจมากที่สุดของอนุสาวรีย์ ชื่อมาจากสมบัติที่ ในตำนานชาวเบดูอิน ฟาโรห์ไล่อิสราเอลซ่อนในผอบที่ไซต์ ผอบถูกทำเครื่องหมาย โดยเสียงปืนที่ยิงปี: คนพยายามเคาะลงได้เนื้อหา แต่สมบัติจริงอยู่รอบ ๆ ในเมือง ตัวอย่างความมหัศจรรย์ของวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมโบราณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดอกกุหลาบสีแดง CITY
ลึกเข้าไปในทะเลทรายของประเทศจอร์แดนที่ตั้งของเมืองโบราณเพตรา เปตรา (มาจากภาษากรีกหมายถึง "หิน") ตั้งอยู่ในหุบเขาแตกแยกที่ดีประมาณ 80 กิโลเมตรทางทิศใต้ของทะเลเดดซี ผ่านหุบเขาแคบ ๆ ก็โผล่ออกมาในมุมมองเผยให้เห็นอนุสาวรีย์กลัวตัดเป็นหน้าผาหินทรายโดยรอบเพิ่มขึ้นนานมาแล้ว.
มีหลายวิธีที่จะได้รับในเปตรามี แต่ไม่มีของพวกเขาเป็นเรื่องง่ายและถ้าหุบเขาจะถูกบล็อกออกก็ เกือบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับทุกคนที่จะเข้าสู่ ทางเข้าหลักไปเปตราเรียกว่า Siq เป็นหุบเขาแคบมากกับด้านข้างสูงถึง 200 เมตร ไม่กี่คนที่พวกเขาสามารถถือออกทั้งกองทัพ กินนี้และวัดที่เรียกว่า Karneh ถูกนำมาใช้เป็นสถานที่ในภาพยนตร์อเมริกันอินเดียน่าโจนส์และสงครามครูเสดและอื่น ๆ กลายเป็นที่รู้จักทั่วโลก ซากของเมืองโบราณเพตราได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในตะวันออกกลาง แต่สิ่งที่เป็นเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังเมืองที่น่าอัศจรรย์นี้หรือไม่? ใครสร้างมันขึ้นมาและทำไม?
เปตราก่อตั้งขึ้นรอบศตวรรษที่หกปีก่อนคริสตกาลโดยชาวอาหรับ Nabataean, ชนเผ่าเร่ร่อนที่ตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ ในขณะที่เว็บไซต์อาจจะไม่มากไปกว่าสถานที่ที่จัดเก็บข้อมูลสำหรับการปล้นของพวกเขา พวกเขาเร็ว ๆ นี้พบว่าการจ่ายเงินดีกว่าที่จะเรียกร้องเงินจากคาราวานแบกผ้าไหมและเครื่องเทศจากตะวันออกไกลในการตอบแทนสำหรับการดำเนินการให้พวกเขาปลอดภัยผ่านดินแดนของพวกเขา Nabataeans ได้ค่อยๆมากขึ้นและดินแดนมากขึ้นและได้รับดังนั้นการควบคุมมากขึ้นเส้นทางคาราวานสร้างจักรวรรดิเชิงพาณิชย์ที่ขยายระหว่างอารเบียและซีเรีย.
เรื่องราวของความมั่งคั่งยิ่งใหญ่ของเพตราเร็ว ๆ นี้ถึงหูของชาวโรมันและสอง Nabataeans เป็นหนึ่งใน อารยชนที่สุดของสมัยโบราณ เปตราเป็นที่รู้จักสำหรับสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่และมีความฉลาดของสระว่ายน้ำของเขื่อนและช่องทางน้ำ ซากปรักหักพังที่งดงามของการกระทำเมืองที่เป็นหลักฐานแสดงให้เห็นทักษะวิศวกรรมและศิลปะของ Nabataeans เกือบ 3,000 สุสาน, ที่อยู่อาศัย, ห้องจัดเลี้ยง, แท่นบูชาและซอกถูกสลักด้วยมือเป็นดอกกุหลาบสีแดงหน้าผาสร้างปรากฏการณ์ของอาคารที่ยอดเยี่ยม ครึ่งวงกลมขนาดยักษ์ของอัฒจันทร์แกะสลักเข้าไปในหินมีที่นั่งสำหรับแปดพันคน Kazneh หรือธนารักษ์เป็นที่น่าประทับใจที่สุดของอนุสาวรีย์ของมัน ชื่อของมันมาจากสมบัติที่ในตำนานชาวเบดูอินที่ฟาโรห์ไล่อิสราเอลซ่อนตัวอยู่ในโกศที่เว็บไซต์ โกศถูกทำเครื่องหมายด้วยปืนยิงข้ามปี: คนได้พยายามที่จะเคาะมันลงไปค้นพบเนื้อหาของมัน แต่สมบัติที่แท้จริงอยู่ทั่วในเมืองนี้มีตัวอย่างที่น่าตื่นตาตื่นใจของสถาปัตยกรรมโบราณและวิศวกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดอกกุหลาบสีแดงเมือง
ลึกเข้าไปในทะเลทรายของจอร์แดนอยู่เมืองโบราณของ Petra . เพตรา ( จากกรีกความหมาย " หิน " ) ตั้งอยู่ในหุบเขารอยแยกใหญ่ประมาณ 80 กิโลเมตรทางใต้ของทะเลที่ตายแล้ว ผ่านช่องเขาแคบๆ มันโผล่ออกมาให้เห็น เผยให้เห็นความกลัวเป็นแรงบันดาลใจอนุสาวรีย์ตัดเป็นรอบกุหลาบผาหินทรายนานแล้ว
มีหลายวิธีที่จะได้รับในซานฟรานซิสโกแต่ไม่มีผู้ใดของพวกเขาเป็นง่าย และถ้าหุบเขาปิด มันแทบเป็นไปไม่ได้สำหรับทุกคนที่จะใส่ ทางเข้าหลัก เภตรา เรียกว่า ซิก เป็นช่องเขาแคบมาก มีด้านสูง 200 เมตร คนไม่กี่คนที่พวกเขาสามารถถือไปทั้งกองทัพ ช่องเขานี้ และวัด เรียกว่า karneh ,ถูกใช้เป็นสถานที่ในหนังอเมริกันอินเดียน่าโจนส์และสงครามครูเสดและกลายเป็นที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ซากเมืองโบราณของ Petra ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักในตะวันออกกลาง แต่อะไรคือเบื้องหลังของเมืองที่น่าอัศจรรย์นี้ ใครสร้างมัน และทำไม ?
เภตราก่อตั้งขึ้นประมาณศตวรรษที่หกก่อนคริสต์ศักราชโดยอักษรนาบาทาเอียนชาวอาหรับเป็นชนเผ่าเร่ร่อนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ตอนนั้น เว็บไซต์อาจจะไม่เกินกระเป๋าสถานที่เพื่อปล้นของพวกเขา พวกเขาเร็ว ๆนี้พบ แต่ที่เงินดีกว่าที่จะเรียกร้องเงินจากคาราวานถือผ้าไหมและเครื่องเทศจากตะวันออกเพื่อให้พวกเขาดำเนินการที่ปลอดภัยผ่านที่ดินของตนพวกนาบาเทียนค่อยๆได้รับมากขึ้นและได้รับดินแดนจึงควบคุมเส้นทางกองคาราวานเพิ่มเติม สร้างอาณาจักรธุรกิจที่ขยายระหว่างซาอุดีอาระเบีย และซีเรีย
เรื่องราวของความมั่งคั่งยิ่งใหญ่ของเพตรา เร็ว ๆ นี้ถึงหูของโรมัน และ สอง นาบาเทียนเป็นหนึ่งในคนศิวิไลซ์ที่สุดของสมัยโบราณ .เพตรา มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมของมันใหญ่และความฉลาดของสระว่ายน้ำ , เขื่อน , และช่องทางน้ำ ทิวทัศน์เมืองพังเป็นพยานเพื่อทักษะวิศวกรรมและศิลปะของนาบาเทียน . เกือบ 3000 สุสาน ที่อยู่อาศัย , ห้องจัดเลี้ยง , แท่นบูชา , และ niches เป็นสลักด้วยมือเป็นดอกกุหลาบสีแดง หน้าผา สร้างปรากฏการณ์ของอาคารอัจฉริยะครึ่งวงกลมขนาดยักษ์ของอัฒจันทร์ที่แกะสลักเข้าไปในหินมีที่นั่งสำหรับ 8 พันคน การ kazneh หรือคลัง เป็นที่น่าประทับใจที่สุดของอนุสาวรีย์ ชื่อของมันมาจากสมบัติในตำนานเบดูอิน , ฟาโรห์ไล่ตามอิสราเอลที่ซ่อนอยู่ในโกศที่เว็บไซต์ โกศมีการทำเครื่องหมายโดยเสียงปืนยิงข้ามปี : คนได้พยายามที่จะเคาะลงเพื่อค้นหาเนื้อหาแต่สมบัติที่แท้จริงมันอยู่รอบ ๆในเมืองนี้ กับตัวอย่างที่น่าทึ่งของสถาปัตยกรรมโบราณ และวิศวกรรม