Type 2 diabetes and dementia are in

Type 2 diabetes and dementia are increasing in prevalence, as they are both
associated with ageing and the population as a whole is living longer. Individuals who
have both conditions will have very complex needs. People with diabetes are more
likely to develop dementia than the general population. This may be due to possible
genetic links; however, both conditions share common lifestyle risk factors. The
diagnosis of diabetes may be delayed in an individual with dementia for a number
of reasons. Conversely, the development of dementia in someone with diabetes has
significant implications for self-management. The focus of treatment for people with
diabetes and dementia is safety, particularly avoidance of hypoglycaemia, as well as
maintaining independence and use of self-management skills as far as possible. The
staff caring for people with diabetes and dementia should be appropriately trained.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และสมองเสื่อมจะเพิ่มในชุก เป็นพวกเขาทั้งสองเกี่ยวข้องกับการสูงอายุและประชากรที่อาศัยอยู่ทั้งหมดอีกต่อไป บุคคลที่มีทั้งสองเงื่อนไขจะมีความซับซ้อนมากขึ้น เป็นคนที่ มีโรคเบาหวานแนวโน้มที่จะพัฒนาสมองเสื่อมกว่าประชากรทั่วไป นี้อาจเป็น เพราะได้เชื่อมโยงทางพันธุกรรม อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขทั้งสองแบ่งปันปัจจัยเสี่ยงชีวิตทั่วไป ที่อาจล่าช้าในการวินิจฉัยโรคเบาหวานในบุคคลมีสมองเสื่อมสำหรับหมายเลขประการ ในทางกลับกัน มีการพัฒนาของสมองเสื่อมในผู้ที่มีโรคเบาหวานผลกระทบที่สำคัญสำหรับการจัดการตนเอง จุดเน้นของรักษาคนโรคเบาหวานสมองเสื่อมเป็นความปลอดภัย หลีกเลี่ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่งของ hypoglycaemia เป็นรักษาเอกราชและใช้ทักษะการจัดการตนเองเท่าที่เป็นไป ที่ดีสำหรับคนที่มีสมองเสื่อมและโรคเบาหวานควรได้รับการอบรมอย่างเหมาะสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรคเบาหวานประเภท 2
และภาวะสมองเสื่อมจะเพิ่มขึ้นในอัตราความชุกขณะที่พวกเขามีทั้งที่เกี่ยวข้องกับอายุและจำนวนประชากรโดยรวมมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
บุคคลที่มีเงื่อนไขที่ทั้งสองจะมีความต้องการที่ซับซ้อนมาก
ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีแนวโน้มที่จะพัฒนาภาวะสมองเสื่อมกว่าประชากรทั่วไป
นี้อาจจะเป็นเพราะความเป็นไปได้ในการเชื่อมโยงทางพันธุกรรม แต่เงื่อนไขที่ทั้งสองร่วมกันปัจจัยเสี่ยงการดำเนินชีวิตร่วมกัน การวินิจฉัยของโรคเบาหวานอาจมีความล่าช้าในบุคคลที่มีภาวะสมองเสื่อมสำหรับจำนวนของเหตุผล ตรงกันข้ามการพัฒนาของภาวะสมองเสื่อมในคนที่มีโรคเบาหวานมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญสำหรับการจัดการตนเอง ความสำคัญของการรักษาสำหรับผู้ที่มีโรคเบาหวานและภาวะสมองเสื่อมคือความปลอดภัยหลีกเลี่ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่งของ hypoglycaemia เช่นเดียวกับการรักษาความเป็นอิสระและการใช้ทักษะการจัดการตนเองเท่าที่จะทำได้ ดูแลพนักงานสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานและภาวะสมองเสื่อมที่ควรจะได้รับการฝึกฝนอย่างเหมาะสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และสมองเสื่อมจะเพิ่มขึ้นในความชุกเช่นที่พวกเขามีทั้ง
ที่เกี่ยวข้องกับอายุและประชากรที่เป็นทั้งอาศัยอยู่อีกต่อไป บุคคลที่
มีเงื่อนไขทั้งสองจะมีความต้องการที่ซับซ้อนมาก คนที่มีโรคเบาหวานมากขึ้น
น่าจะพัฒนาสมองเสื่อมกว่าประชากรทั่วไป นี้อาจจะเกิดจากการเชื่อมโยงทางพันธุกรรมเป็นไปได้
; อย่างไรก็ตามเงื่อนไขทั้งสองหุ้นทั่วไปไลฟ์สไตล์ปัจจัยเสี่ยง .
การวินิจฉัยโรคเบาหวานอาจจะล่าช้าในแต่ละคนความจำเสื่อม
สำหรับจำนวนของเหตุผล ในทางกลับกัน , การพัฒนาของโรคสมองเสื่อมในคนเบาหวาน
นัยยะสําคัญสําหรับการจัดการตนเอง จุดเน้นของการรักษาสำหรับผู้ที่มีโรคเบาหวานและภาวะ
คือความปลอดภัย โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยง hypoglycaemia เช่นเดียวกับ
รักษาความเป็นอิสระและการใช้ทักษะการจัดการตนเองเท่าที่จะเป็นไปได้
พนักงานดูแลผู้ป่วยเบาหวาน และโรคสมองเสื่อมควรเหมาะสมที่ผ่านการอบรม