J. Kwon‘s studies (2012) found out

J. Kwon‘s studies (2012) found out that computer games have a common strategy with thetraditional educational technologies which are used by teachers in Special Education: the presenceof feedback, the practice of repeating material to attract students‘ attention through visual signsand auditory signals, motivation by sustaining success and individual approach. Analyzing theresearch of the use of computer programs in correctional education, J. Mekie and her colleagues(2015) noted that the use of information technology is rather effective in teaching students withintellectual disabilities. However, the authors' analysis of computer programs for children withdevelopmental disabilities such as intellectual disabilities, autism spectrum disorders, leads to aconclusion that a more careful analysis of the deviations in the specifics of the development andtaking into account individual characteristics of each child are required. The authors also discussthe question of what should be the degree of incorporation of information technology in theeducational process of students with special needs, and to what extent they are compatible with thetraditional forms of training, what should be the degree of intervention of the teacher in thelearning process based on information technology. Testing a computer program developed by theauthors, and its use in teaching pupils with intellectual disabilities and autism spectrum disordersshowed that the audio-visual educational material helps to make learning easier for children andincreases its effectiveness. However, J. Mekie (2015), E.C. Bouck and their colleagues (2009) notethe lack of investigation of the influence of various computer technologies on the effectiveness oftraining pupils with disabilities in different school subjects. Some researchers also point out thatthe same computer technologies have different effects on different groups of children depending onthe form of developmental disorders, so the effectiveness of the impact will also be different (Boucket al., 2009; Main et al., 2016). We believe that the uncertainty in the responses to questions aboutthe effectiveness of computer technology in teaching children with disabilities in general, and thenature of the impact of computer technology on the efficiency of teaching children with differentvariants of impaired development, in particular, is due to the intensive development of computertechnology and the advent of a large number of software development, on the one hand, and thepaucity of studies aimed at identifying the effects of these programs on learning processes, on theother hand. The teachers‘ attempt to introduce computer technology to the educational processwithout experimental verification is an intuitive search for effective methods of teaching, which isnot always justified.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาเจควอน (2012) พบว่าเกมคอมพิวเตอร์มีกลยุทธ์กันกับ
เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาแบบดั้งเดิมที่ใช้โดยครูการศึกษาพิเศษ: การปรากฏตัว
ของข้อเสนอแนะการปฏิบัติของการทำซ้ำวัสดุเพื่อดึงดูดความสนใจของนักเรียนผ่านสัญญาณภาพ
และได้ยิน สัญญาณแรงจูงใจจากความสำเร็จอย่างยั่งยืนและวิธีการของแต่ละบุคคล การวิเคราะห์
วิจัยในการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการศึกษาราชทัณฑ์เจ Mekie และเพื่อนร่วมงานของเธอ
(2015) ตั้งข้อสังเกตว่าการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศค่อนข้างมีประสิทธิภาพในการเรียนการสอนนักเรียนที่มี
ความพิการทางปัญญา อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์ของผู้เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กที่มี
การพัฒนาคนพิการเช่นความพิการทางปัญญา, ความผิดปกติของออทิสติกสเปกตรัมนำไปสู่
ข้อสรุปว่าการวิเคราะห์ระมัดระวังมากขึ้นของการเบี่ยงเบนในรายละเอียดของการพัฒนาและการ
สละเข้าไปในลักษณะของแต่ละบุคคลบัญชีของเด็กแต่ละคนจะต้อง ผู้เขียนยังหารือเกี่ยวกับ
คำถามของสิ่งที่ควรจะเป็นระดับของการรวมตัวกันของเทคโนโลยีสารสนเทศในที่
ขั้นตอนการศึกษาของนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษและสิ่งที่ขอบเขตที่พวกเขาเข้ากันได้กับ
รูปแบบดั้งเดิมของการฝึกอบรมสิ่งที่ควรจะมีระดับของการแทรกแซงของ ครูใน
กระบวนการเรียนรู้บนพื้นฐานของเทคโนโลยีสารสนเทศ การทดสอบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาโดย
ผู้เขียนและการใช้งานในการเรียนการสอนนักเรียนที่มีความพิการทางปัญญาและความผิดปกติของออทิสติกสเปกตรัม
แสดงให้เห็นว่าวัสดุการศึกษาภาพและเสียงจะช่วยให้การเรียนรู้ได้ง่ายขึ้นสำหรับเด็กและ
เพิ่มประสิทธิภาพของมัน อย่างไรก็ตามเจ Mekie (2015), EC Bouck และเพื่อนร่วมงานของพวกเขา (2009) ทราบ
การขาดการตรวจสอบอิทธิพลของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ เกี่ยวกับประสิทธิผลของ
นักเรียนที่มีความพิการการฝึกอบรมในวิชาโรงเรียนที่แตกต่างกัน นักวิจัยบางคนยังชี้ให้เห็นว่า
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกันมีผลกระทบที่แตกต่างกันในกลุ่มที่แตกต่างของเด็กขึ้นอยู่กับ
รูปแบบของการผิดปกติของพัฒนาการดังนั้นประสิทธิภาพของผลกระทบก็จะแตกต่างกัน (Bouck
et al, 2009. หลัก et al., 2016) เราเชื่อว่ามีความไม่แน่นอนในการตอบคำถามเกี่ยวกับ
ประสิทธิภาพของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการสอนเด็กที่มีความพิการโดยทั่วไปและ
ลักษณะของผลกระทบของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่มีต่อประสิทธิภาพของการสอนเด็กที่มีความแตกต่างกัน
หลากหลายรูปแบบของการพัฒนาที่มีความบกพร่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ เนื่องจากการพัฒนาอย่างเข้มข้นของเครื่องคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีและการถือกำเนิดของจำนวนมากของการพัฒนาซอฟต์แวร์บนมือข้างหนึ่งและ
ความยากจนของการศึกษามุ่งเป้าไปที่การระบุผลกระทบของโปรแกรมเหล่านี้ในกระบวนการเรียนรู้บน
มืออื่น ๆ ครูพยายามที่จะนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในขั้นตอนการศึกษา
โดยไม่ต้องตรวจสอบการทดลองคือการค้นหาที่ใช้งานง่ายสำหรับวิธีการที่มีประสิทธิภาพของการเรียนการสอนซึ่งเป็น
ไม่เป็นธรรมเสมอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาของ j. Kwon (๒๐๑๒) พบว่าเกมคอมพิวเตอร์มีกลยุทธ์ร่วมกันกับ
เทคโนโลยีการศึกษาแบบดั้งเดิมที่ครูใช้ในการศึกษาพิเศษ: การปรากฏตัว
ของข้อเสนอแนะการปฏิบัติของวัสดุที่ทำซ้ำเพื่อดึงดูดความสนใจของนักเรียนผ่านสัญญาณภาพ
และสัญญาณหูแรงจูงใจโดยการสนับสนุนความสำเร็จและวิธีการของแต่ละบุคคล การวิเคราะห์
การวิจัยของการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการศึกษาราชทัณฑ์, j. Mekie และเพื่อนร่วมงานของเธอ
(๒๐๑๕) ตั้งข้อสังเกตว่าการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศค่อนข้างมีประสิทธิภาพในการสอนนักเรียนด้วย
พิการทางปัญญา อย่างไรก็ตามผู้เขียน ' การวิเคราะห์โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กที่มี
ความบกพร่องทางปัญญา, ความผิดปกติของออทิสติก, นำไปสู่
สรุปได้ว่าการวิเคราะห์ความเบี่ยงเบนอย่างรอบคอบมากขึ้นในรายละเอียดของการพัฒนาและ
โดยคำนึงถึงลักษณะเฉพาะของเด็กแต่ละคนจะต้อง ผู้เขียนยังหารือเกี่ยวกับ
คำถามของสิ่งที่ควรจะเป็นระดับของการจัดให้มีเทคโนโลยีสารสนเทศใน
ขั้นตอนการศึกษาของนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษและขอบเขตที่พวกเขาเข้ากันได้กับ
รูปแบบดั้งเดิมของการฝึกอบรม, สิ่งที่ควรจะระดับของการแทรกแซงของครูใน
กระบวนการเรียนรู้ตามเทคโนโลยีสารสนเทศ การทดสอบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาโดย
ผู้เขียน, และการใช้ในการสอนนักเรียนที่มีความพิการทางปัญญาและโรคออทิสติสเปกตรัม
แสดงให้เห็นว่าวัสดุการศึกษาภาพเสียงช่วยให้การเรียนรู้ง่ายขึ้นสำหรับเด็กและ
เพิ่มประสิทธิผลของมัน อย่างไรก็ตาม, j. Mekie (๒๐๑๕), E.C. Bouck และเพื่อนร่วมงาน (๒๐๐๙) หมายเหตุ
การขาดการสืบสวนของอิทธิพลของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ต่างๆเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ
การฝึกอบรมนักเรียนที่มีความพิการในวิชาที่แตกต่างกันของโรงเรียน นักวิจัยบางคนชี้ให้เห็นว่า
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เดียวกันมีผลแตกต่างกันในกลุ่มเด็กที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับ
รูปแบบของความผิดปกติของการพัฒนาดังนั้นประสิทธิภาพของผลกระทบที่จะยังแตกต่างกัน (Bouck
et al., ๒๐๐๙; หลัก et al., ๒๐๑๖) เราเชื่อว่าความไม่แน่นอนในการตอบคำถามเกี่ยวกับ
ประสิทธิภาพของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการสอนเด็กพิการโดยทั่วไปและ
ลักษณะของผลกระทบของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับประสิทธิภาพของการสอนเด็กที่แตกต่างกัน
สายพันธุ์ของการพัฒนาที่บกพร่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากการพัฒนาอย่างเข้มข้นของคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีและการถือกำเนิดของการพัฒนาซอฟต์แวร์จำนวนมากในมือข้างหนึ่งและ
การศึกษาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อระบุผลกระทบของโปรแกรมเหล่านี้ในกระบวนการเรียนรู้
มืออื่นๆ ความพยายามของครูที่จะแนะนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ให้กับกระบวนการศึกษา
โดยไม่มีการตรวจสอบการทดลองเป็นการค้นหาที่ใช้งานง่ายสำหรับวิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพซึ่งเป็น
ไม่ได้เป็นธรรมเสมอไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

J、 Kwon's studies（2012）发现，电脑游戏与
การใช้เทคโนโลยีการศึกษาแบบดั้งเดิมของครูการศึกษาพิเศษ
การฝึกปฏิบัติเพื่อดึงดูดความสนใจของนักเรียนโดยการทำซ้ำสัญลักษณ์ภาพ
รวมทั้งสัญญาณการได้ยินแรงจูงใจและวิธีการส่วนบุคคลเพื่อรักษาความสำเร็จ การวิเคราะห์
การศึกษาการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาการอบรมเลี้ยงดู
หมายเหตุการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสอนของนักเรียน
ความบกพร่องทางสติปัญญา อย่างไรก็ตามผู้เขียนวิเคราะห์โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับเด็ก
ความผิดปกติของการพัฒนาเช่นความผิดปกติทางสติปัญญาหรือออทิสติก
สรุปการวิเคราะห์ระมัดระวังมากขึ้นของการพัฒนาที่เฉพาะเจาะจงและความเบี่ยงเบน
ต้องคำนึงถึงลักษณะส่วนบุคคลของเด็กแต่ละคน ผู้เขียนยังกล่าวถึง
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในประเทศจีน
กระบวนการทางการศึกษาของนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ
รูปแบบการฝึกอบรมแบบดั้งเดิมสำหรับครู
กระบวนการเรียนรู้บนพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศ ทดสอบโดย
ผู้เขียนและการประยุกต์ใช้ในการสอนของนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาและออทิสติก
แสดงให้เห็นว่าวัสดุโสตทัศนูปกรณ์ช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น
เพิ่มประสิทธิภาพของ อย่างไรก็ตามเจเม็กกี้ e.c.bauck และเพื่อนร่วมงานของเขากล่าวว่า
ขาดการสำรวจเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ต่างๆ
การฝึกอบรมนักเรียนพิการในวิชาที่แตกต่างกัน นักวิจัยบางคนยังชี้ให้เห็น
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เดียวกันมีผลแตกต่างกันในกลุ่มเด็กที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับ
รูปแบบของอุปสรรคในการพัฒนาดังนั้นผลกระทบจะแตกต่างกัน
หลักและคนอื่นๆ 2016 ปี เราคิดว่าเกี่ยวกับ
ประสิทธิผลของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการสอนเด็กพิการทั่วไป
ผลของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่มีต่อประสิทธิภาพการสอนของเด็กวัยเรียนต่างกัน
ความหลากหลายของอุปสรรคในการพัฒนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากการพัฒนาที่เข้มข้นของคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีและการเกิดขึ้นของการพัฒนาซอฟต์แวร์จำนวนมากในมือข้างหนึ่ง
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโครงการเหล่านี้ต่อกระบวนการเรียนรู้
มืออีกข้าง ความพยายามของครูที่จะนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้าสู่กระบวนการทางการศึกษา
ไม่มีการทดลองพิสูจน์เป็นวิธีที่ใช้งานง่ายของการสอนที่มีประสิทธิภาพ
มันไม่มีเหตุผลเสมอไป