Physical Activity and the Cancer Pa

Physical Activity and the Cancer Patient
In the past, people being treated for a chronic illness (an illness a person may live with for a long time, like cancer or diabetes) were often told by their doctor to rest and reduce their physical activity. This is good advice if movement causes pain, rapid heart rate, or shortness of breath. But newer research has shown that exercise is not only safe and possible during cancer treatment, but it can improve how well you function physically and your quality of life.

Too much rest can lead to loss of body function, muscle weakness, and reduced range of motion. So today, many cancer care teams are urging their patients to be as physically active as possible during cancer treatment. Many people are learning about the advantages of being physically active after treatment, too.

Ways regular exercise may help you during cancer treatment
Keep or improve your physical abilities (how well you can use your body to do things)
Improve balance, lower risk of falls and broken bones
Keep muscles from wasting due to inactivity
Lower the risk of heart disease
Lessen the risk of osteoporosis (weak bones that are more likely to break)
Improve blood flow to your legs and lower the risk of blood clots
Make you less dependent on others for help with normal activities of daily living
Improve your self-esteem
Lower the risk of being anxious and depressed
Lessen nausea
Improve your ability to keep social contacts
Lessen symptoms of tiredness (fatigue)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การออกกำลังกายและผู้ป่วยโรคมะเร็งในอดีตที่ผ่านมาคนที่ได้รับการรักษาโรคเรื้อรัง (โรคคนอาจจะอยู่กับเป็นเวลานานเช่นโรคมะเร็งหรือโรคเบาหวาน) มักจะได้รับการบอกเล่าจากแพทย์ของพวกเขาที่จะพักผ่อนและลดกิจกรรมกายภาพของพวกเขา
นี้เป็นคำแนะนำที่ดีถ้าการเคลื่อนไหวทำให้เกิดอาการปวดหัวใจเต้นเร็วหรือหายใจถี่ แต่งานวิจัยใหม่ได้แสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายไม่ได้เป็นเพียงความปลอดภัยและความเป็นไปได้ในระหว่างการรักษาโรคมะเร็ง แต่ก็สามารถปรับปรุงวิธีการที่ดีที่คุณทำงานทางร่างกายและคุณภาพชีวิตของคุณ. ส่วนที่เหลือมากเกินไปจะนำไปสู่การสูญเสียของการทำงานของร่างกายกล้ามเนื้ออ่อนแอและช่วงที่ลดลงของ การเคลื่อนไหว ดังนั้นวันนี้ทีมรักษามะเร็งจำนวนมากจะกระตุ้นให้ผู้ป่วยของพวกเขาจะเป็นงานทางร่างกายที่เป็นไปได้ในระหว่างการรักษาโรคมะเร็ง หลายคนมีการเรียนรู้เกี่ยวกับข้อดีของการออกกำลังกายหลังการรักษาด้วย. วิธีออกกำลังกายเป็นประจำอาจช่วยให้คุณในระหว่างการรักษาโรคมะเร็งให้หรือปรับปรุงความสามารถทางกายภาพของคุณ (วิธีที่ดีที่คุณสามารถใช้ร่างกายของคุณที่จะทำสิ่ง) ปรับปรุงสมดุลลดความเสี่ยงของการตก และกระดูกหักให้กล้ามเนื้อจากการสูญเสียอันเนื่องมาจากการใช้งานลดความเสี่ยงของโรคหัวใจลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน(กระดูกอ่อนแอที่มีแนวโน้มที่จะทำลาย) ไหลเวียนของเลือดในการปรับปรุงเพื่อให้ขาของคุณและลดความเสี่ยงของการอุดตันในเลือดให้คุณน้อยขึ้นอยู่กับคนอื่น ๆ ความช่วยเหลือเกี่ยวกับกิจกรรมตามปกติในชีวิตประจำวันในการปรับปรุงความนับถือตนเองของคุณลดความเสี่ยงของการเป็นกังวลและซึมเศร้าอาการคลื่นไส้ลดการปรับปรุงความสามารถของคุณที่จะทำให้การติดต่อทางสังคมลดอาการเมื่อยล้า(เมื่อยล้า)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กิจกรรมทางกาย และผู้ป่วยมะเร็ง
ในอดีต คนที่ถูกปฏิบัติสำหรับการเจ็บป่วยเรื้อรัง ( โรคคนอาจจะอยู่ด้วยนาน เช่นมะเร็งหรือโรคเบาหวาน ) มักจะถูกบอกโดยแพทย์ของพวกเขาเพื่อพักผ่อนและลดกิจกรรมทางกายภาพของพวกเขา นี้เป็นคำแนะนำที่ดี ถ้าเคลื่อนไหว ปวด หัวใจเต้นเร็ว หรือหายใจติดขัดแต่งานวิจัยใหม่แสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายไม่เพียง แต่ปลอดภัย และเป็นไปได้ในการรักษามะเร็ง แต่ก็สามารถปรับปรุงวิธีที่คุณการทำงานทางกายภาพและคุณภาพของชีวิต

พักผ่อนมากเกินไปสามารถนำไปสู่การสูญเสียการทำงานของร่างกาย กล้ามเนื้ออ่อนแรง และลดช่วงของการเคลื่อนไหว ดังนั้น วันนี้ ทีมดูแลผู้ป่วยมะเร็งหลายคนเรียกร้องที่จะเป็นทางร่างกายที่เป็นไปได้ในระหว่างการรักษามะเร็งหลายคนได้เรียนรู้เกี่ยวกับข้อดีของการใช้งานจริง หลังการรักษาด้วย

วิธีออกกำลังกายเป็นประจำอาจจะช่วยคุณในระหว่างการรักษามะเร็ง
รักษาหรือปรับปรุงความสามารถทางกายภาพของคุณ ( วิธีที่ดีที่คุณสามารถใช้ร่างกายของคุณเพื่อทำสิ่งที่ )
ปรับปรุงความสมดุล ลดความเสี่ยงของการล้มและกระดูกหัก
ให้กล้ามเนื้อจากการสูญเสียเนื่องจาก ความเฉื่อยชา
ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
ช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน ( กระดูกที่อ่อนแอมีแนวโน้มที่จะแบ่ง )
ปรับปรุงการไหลของเลือดที่ขาของคุณและลดความเสี่ยงของเลือดอุดตัน
ให้คุณน้อยขึ้นอยู่กับคนอื่น ๆสำหรับช่วยในกิจกรรมปกติของชีวิตประจำวันปรับปรุง

เห็นคุณค่าในตนเองของคุณลดความเสี่ยงของการกังวลและซึมเศร้าลดอาการ

ปรับปรุงความสามารถของคุณ เพื่อให้สังคมคลายอาการเมื่อยล้าติดต่อ
( ความเหนื่อย )