Fortunately there are still a few t

Fortunately there are still a few tasty things for us gourmands to enjoy in relative security. Their numbers, however, are depleted almost daily, it seems, by ruthless proclamations from the ever-vigilant Food and Drug Administration and its allies, our doctors. The latest felon to face prosecution is the salt of life, sodium chloride.
Ostensibly, overuse of salt causes high blood pressure and hypertension, the cause of half the deaths in the United States every year. A few years ago the anti-salt campaigners raised such a rumpus that salt was banned from baby food. Currently pressure is being applied to food manufacturers to oblige them to label their products to show sodium content. Because doing so would cost mercenary manufacturers money, they argue that they have no idea how much salt remains on such things as potato chips and how much sticks to the bag. Furthermore, salt isn't the only harmful ingredient in food. If the manufacturer has to provide sodium content, and why not require him to list every ingredient and specify which are detrimental to our health? Cigarettes have a warning printed on them. Shouldn't the same type of warning appear on canned foods that are notoriously oversalted?
There are endless ifs and buts in the controversy, but the most telling of these is the questionable proof of salt's diabolic effect upon the blood pressure. True, people who cut their salt intake lowered their blood pressure, but where is the scientific proof that something other than salt didn't do the trick? The most common means of providing dubious proof that salt causes hypertension is to compare societies that use little salt with those that use mountains of salt in their daily diets. Which group has the higher rate of hypertension? Whose blood pressure is lower? What happens when salt is introduced into a group where salt is a novelty? Does the blood pressure rise significantly? Studies of the Japanese indicate that as the world's greatest salters, they suffer the most from hypertension. On the other hand, the simple salt-free cuisine of several tribes in the Solomon Islands has kept older tribesmen and women from developing hypertension and high blood pressure, ailments traditionally killing their peers in America. No account is taken of the effect of inflation, recession, pollution, crime, and sundry other ills to which Americans, unlike people on primitive islands, are exposed.
To salt or not to salt? That is the question. Now that the question has arisen, it must not be treated with levity but, rather, with searching scientific investigation so that those of us who are preoccupied with both savory food and longevity may decide which of the two is worth its salt.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โชคดียังมีบางสิ่งอร่อยสำหรับเราคำกับความปลอดภัยของญาติ ตัวเลขของพวกเขา อย่างไรก็ตาม มีหมดเกือบทุกวัน ดู เหมือน โดยปรานีถ้อยแถลงจากเคยระมัดระวังอาหาร และยา และ พันธมิตร แพทย์ของเรา Felon ล่าสุดดำเนินคดีหน้าเป็นเกลือของโซเดียมคลอไรด์ ชีวิตอย่างเห็นได้ชัด ใช้มากเกินไปของสาเหตุที่เกลือความดันโลหิตสูง และความดันโลหิตสูง สาเหตุของการเสียชีวิตครึ่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาทุกปี กี่ปีมารณรงค์ป้องกันเกลือยกดังกล่าวจะให้เกลือถูกห้ามจากอาหารเด็ก ความดันจะใช้อยู่ในปัจจุบันเพื่อผลิตอาหารที่จะช่วยคุณให้ฉลากผลิตภัณฑ์ของตนเพื่อแสดงเนื้อหาโซเดียม เพราะทำให้ต้องจ่ายผู้รับจ้างผลิต พวกเขาทะเลาะกันว่า พวกเขามีความคิดเกลือเท่าใดยังคงอยู่บนสิ่งต่าง ๆ เช่นมันฝรั่งและปริมาณติดกับถุง นอกจากนี้ เกลือไม่ส่วนผสมเป็นอันตรายเฉพาะในอาหาร ถ้าผู้ผลิตมีการให้โซเดียม และทำไมไม่ต้องแสดงรายการทุกส่วนผสม และระบุซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเรา บุหรี่มีคำเตือนที่พิมพ์อยู่บน ชนิดเดียวกันของคำเตือนไม่ควรปรากฏในอาหารกระป๋องที่มี oversalted ฉาวโฉ่มีโคตร ifs และ buts ในการทะเลาะวิวาท แต่ telling สุดเหล่านี้เป็นหลักฐานน่าสงสัยของเกลือ diabolic ผลเมื่อความดันโลหิต จริง คนตัดตนบริโภคเกลือลดลงความดันโลหิตของพวกเขา แต่ที่เป็นวิทยาศาสตร์หลักฐานบางอย่างอื่นมากกว่าเกลือไม่หลอกลวง หมายถึงพบมากที่สุดของการแสดงหลักฐานที่น่าสงสัยว่า เกลือทำให้ความดันโลหิตสูงคือการ เปรียบเทียบว่าใช้เกลือเล็กน้อยกับภูเขาที่ใช้เกลือในอาหารประจำวันของพวกเขา กลุ่มที่มีอัตราสูงขึ้นของความดันโลหิตสูง ที่มีความดันโลหิตจะต่ำกว่า เกิดอะไรขึ้นเมื่อเกลือนำมาใช้ลงในกลุ่มเกลือเป็นความแปลกใหม่ ความดันโลหิตไม่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ การศึกษาของญี่ปุ่นที่ระบุว่า เป็นทาวเวอร์ออฟยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ที่พวกเขาประสบมากที่สุดจากความดันโลหิตสูง บนมืออื่น ๆ เกลืออาหารเรียบง่ายของชนเผ่าต่าง ๆ ในหมู่เกาะโซโลมอนได้เก็บ tribesmen เก่าและผู้หญิงจากการพัฒนาความดันโลหิตสูงและความดันโลหิตสูง โรคประเพณีฆ่าเพื่อนของพวกเขาในอเมริกา ไม่มีบัญชีจะนำมาผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ ภาวะถดถอย มลพิษ อาชญากรรม และจิปาถะอื่น ๆ ills ที่ชาวอเมริกัน ซึ่งแตกต่างจากผู้คนบนเกาะดั้งเดิม มีสัมผัสใส่เกลือ หรือไม่ ให้เกลือ นั่นคือคำถาม ขณะที่คำถามที่เกิดขึ้น มันต้องไม่ถือว่า levity แต่ ค่อนข้าง การค้นหาตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้พวกเราที่จะหมกมุ่นอยู่กับอาหารคาวและอายุยืนอาจตัดสินใจซึ่งทั้งสองเป็นมูลค่าเกลือของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โชคดีที่มียังคงเป็นสิ่งที่อร่อยไม่กี่สำหรับเรา Gourmands เพลิดเพลินไปกับการรักษาความปลอดภัยของญาติ ตัวเลขของพวกเขา แต่จะหมดลงเกือบทุกวันดูเหมือนว่าโดยประกาศเหี้ยมจากอาหารและยาที่เคยระมัดระวังการบริหารและพันธมิตรแพทย์ของเรา ผู้ร้ายตัวล่าสุดที่จะเผชิญกับการฟ้องร้องเป็นเกลือของชีวิตโซเดียมคลอไรด์.
อย่างเห็นได้ชัดมากเกินไปของเกลือทำให้เกิดความดันโลหิตสูงและความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตครึ่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาทุกปี ไม่กี่ปีที่ผ่านมารณรงค์ต่อต้านเกลือยกเช่นเสียงอึกทึกครึกโครมเกลือที่ได้รับอนุญาตจากอาหารทารก ปัจจุบันความดันจะถูกนำไปใช้กับผู้ผลิตอาหารที่จะบังคับให้พวกเขาฉลากผลิตภัณฑ์ของตนเพื่อแสดงปริมาณโซเดียม เพราะการทำเช่นนั้นจะเสียค่าใช้จ่ายผู้ผลิตรับจ้างเงินที่พวกเขายืนยันว่าพวกเขามีความคิดว่าเกลือมากยังคงอยู่ในสิ่งต่างๆเช่นมันฝรั่งทอดและวิธีแท่งมากที่จะไม่มีถุง นอกจากนี้เกลือไม่ได้เป็นส่วนผสมที่เป็นอันตรายเฉพาะในอาหาร หากผู้ผลิตมีเพื่อให้ปริมาณโซเดียมและทำไมไม่จำเป็นต้องให้เขาทุกรายการส่วนผสมและระบุว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเรา? การสูบบุหรี่ได้เตือนพิมพ์ในพวกเขา ไม่ควรชนิดเดียวกันเตือนปรากฏบนอาหารกระป๋องที่มี oversalted ฉาวโฉ่?
มี IFS ไม่มีที่สิ้นสุดและสงสัยในความขัดแย้งมี แต่บอกมากที่สุดของเหล่านี้เป็นหลักฐานที่น่าสงสัยของผลกระทบของเกลือ Diabolic เมื่อความดันโลหิต ทรูคนที่ตัดการบริโภคเกลือของพวกเขาลดลงความดันโลหิตของพวกเขา แต่ที่เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สิ่งอื่นที่ไม่ใช่เกลือไม่ได้ทำเคล็ดลับ? วิธีที่พบมากที่สุดของการให้หลักฐานที่น่าสงสัยว่าเกลือทำให้เกิดความดันโลหิตสูงคือการเปรียบเทียบสังคมที่ใช้เกลือเล็กน้อยกับผู้ที่ใช้ภูเขาของเกลือในอาหารประจำวันของพวกเขา ซึ่งกลุ่มที่มีอัตราที่สูงขึ้นของความดันโลหิตสูง? ที่มีความดันโลหิตต่ำ? เกิดอะไรขึ้นเมื่อเกลือเป็นที่รู้จักในกลุ่มที่เกลือคือความแปลกใหม่หรือไม่? ไม่ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ? การศึกษาของญี่ปุ่นระบุว่าเป็น Salters ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกที่พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานมากที่สุดจากความดันโลหิตสูง บนมืออื่น ๆ , อาหารที่เรียบง่ายเกลือฟรีของหลายชนเผ่าในหมู่เกาะโซโลมอนได้เก็บเผ่าเก่าและผู้หญิงจากการพัฒนาความดันโลหิตสูงและความดันโลหิตสูง, โรคประเพณีฆ่าเพื่อนของพวกเขาในอเมริกา ไม่มีบัญชีจะได้รับการผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อภาวะเศรษฐกิจถดถอยมลพิษอาชญากรรมและความเจ็บป่วยอื่น ๆ จิปาถะที่ชาวอเมริกันซึ่งแตกต่างจากผู้คนบนเกาะดั้งเดิมจะสัมผัสได้.
เกลือหรือไม่ที่จะเกลือได้หรือไม่ นั่นคือคำถาม ตอนนี้คำถามที่เกิดขึ้นก็จะต้องไม่ได้รับการรักษาด้วยความคะนอง แต่ค่อนข้างกับการค้นหาตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้คนของเราที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับทั้งอาหารคาวและยืนยาวอาจตัดสินใจที่ของทั้งสองคือมูลค่าของเกลือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โชคดีที่ยังมีของอร่อยบางอย่างสำหรับเราผู้ชื่นชอบเพลิดเพลินในการรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง ตัวเลข แต่จะหมดเกือบทุกวัน ดูเหมือนว่า โหดเหี้ยม ประกาศจากระแวดระวังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาและพันธมิตร หมอของเรา อาชญากรล่าสุดเพื่อใบหน้าโจทก์เป็นเกลือของโซเดียมคลอไรด์Ostensibly มากเกินไปของเกลือเป็นสาเหตุของความดันโลหิตสูงและความดันโลหิตสูง สาเหตุจากครึ่งหนึ่งตายในสหรัฐอเมริกาทุกปี ไม่กี่ปีที่ผ่านมารณรงค์ต่อต้านเกลือเลี้ยงเช่นเอะอะว่าเกลือที่ถูกห้ามจากอาหารทารก . ขณะนี้ความดันจะถูกใช้กับผู้ผลิตอาหารที่ถูกบังคับให้แสดงฉลากผลิตภัณฑ์ของโซเดียม . เพราะการทำเช่นนั้นจะเสียค่าใช้จ่ายจ้างผู้ผลิตเงินที่พวกเขาโต้เถียงว่า พวกเขาไม่มีความคิดเกลือเท่าใดยังคงอยู่ในสิ่งต่างๆ เช่น มันฝรั่ง และเท่าไหร่ ติดกระเป๋า นอกจากนี้ ใช่เกลือไม่เพียงส่วนผสมที่เป็นอันตรายในอาหาร ถ้าผู้ผลิตจะต้องมีปริมาณโซเดียม และทำไมต้องใช้เขาในรายการทุกส่วนประกอบและระบุว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเรา ? บุหรี่มีคำเตือนที่พิมพ์บนพวกเขา ไม่ใช่ประเภทเดียวกันของการเตือนที่ปรากฏในอาหารกระป๋องที่กระฉ่อน oversalted ?มีถ้าไม่มีที่สิ้นสุด แต่ในความขัดแย้ง แต่บอกมากที่สุดของเหล่านี้เป็นที่น่าสงสัยหลักฐานผลเกลือนี่มันโหดร้ายต่อความดันโลหิต จริง คนที่ตัดการบริโภคเกลือของพวกเขาลดลงของความดัน แต่ที่เป็นวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้ว่า เรื่องอื่นมากกว่าก็เกลือไม่กล วิธีที่พบมากที่สุดของการให้พิรุธหลักฐานว่าเกลือสาเหตุความดันโลหิตสูงคือการเปรียบเทียบสังคมที่ใช้เกลือน้อยกับผู้ที่ใช้ภูเขาเกลือในอาหารของพวกเขาทุกวัน . กลุ่มซึ่งมีอัตราที่สูงขึ้นของความดันโลหิตสูง ? ที่มีความดันต่ำ ? จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเกลือเป็นที่รู้จักในกลุ่มที่เกลือเป็นแปลก ? มีความดันโลหิตสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ? การศึกษาของญี่ปุ่นระบุว่า เป็นโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซัลเทอร์ส , พวกเขาประสบจากความดันโลหิตสูง บนมืออื่น ๆ , ง่ายเกลือฟรีอาหารของชนเผ่าหลายเผ่าในเกาะโซโลมอนได้เก็บเก่าและหญิงจากการพัฒนาความดันโลหิตสูงและความดันโลหิตสูง โรคตามเกณฑ์การฆ่าเพื่อนที่อเมริกา ไม่มีบัญชีผู้ใช้จะได้รับผลของอัตราเงินเฟ้อ , ภาวะถดถอย , มลพิษ , อาชญากรรม และจิปาถะอื่น ๆ ills ที่อเมริกัน ซึ่งแตกต่างจากผู้คนบนเกาะดั้งเดิมเปิดรับเกลือหรือเกลือ ? นั่นคือคำถาม ตอนนี้คำถามที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องไม่ปฏิบัติกับบุคคล แต่ค่อนข้าง กับการค้นหาการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้คนที่สาละวนกับอาหารเผ็ด และอายุการใช้งานอาจตัดสินใจที่ของทั้งสองมีมูลค่าของเกลือ