The Brewing Division of Adolph Coor

The Brewing Division of Adolph Coors Adolph Coors, Sr., opened the doors of his brewery in Golden, Colorado, in 1873 His beer company got through Prohibition by making near beer, malted milk, cement and poroelain. Adolph Coors, Jr., took over in 1929 when his father died Four years later, Prohibition was repealed; that year, Coors sold 90,000 barrels of beer. It also appointed its first independent wholesalers and began selling outside Colorado by adding Arizona to its distribution territory. During the 1930s, Coors began to sell beer in eight other western states: California, Idaho, Kansas, Nevada, New Mexico, Oklahoma, Utah and Wyoming, In 1941, it introduced its premium "Banquet" label. And in 1948, it started rolling into Texas. It confined itself to those 11 states through 1975 Sales of Coors's beer had jumped from 137,000 barrels in 1940 to 666,000 barrels by 1950. Between 1951 and 1974, Coors posted uninterrupted year-to-year volume gains volume reached 1.9 million barrels by 1960,73 million barrels by 1970, and 12 3 million barrels by 1974. One analyst, commenting on the 16% ROS that Coors had posted in 1972, said, "It's the best private company in America, rd pay any multiple for that stock." A mystique had developed around the company's only brand, premium Coors Banquet (usually referred to as just Coors). Paul Newman and Clint Eastwood insisted on having it an location; Gerald Ford and Henry Kissinger flew cases back college students outside Coon's 11-state distribution territory paid premia of several hundred percent for bootlegged supplies. Concemed about maintaining quality (ie.,consistent refrigeration), Coors even placed an unusual advertisement in the Washington Post: "Please do not buy our beer. In 1975, Coor's volume dropped for the first time in two decades: to 11.9 million barrels. At roughly the same time, it began adding new states to its distribution territory: its official position became, "We do want to go national if it makes sense financially. Since then, its growth and profitability had come under pressure, as had its market valuation. The Coors family had first offered stock-all of it nonvoting-to the public in June 1975 in order to settle a $50 million inheritance tax bil. The stock sold for $25.50 at the end of 1975, had paid dividends value of all shareholder equity was $936 million at the end of the year, correspondin g to $26.46 per share, and the company had set itself the target of a 10% after-tax return on equity. In May 1985, the company's operations were officially handed over to the fourth generation of the Coors family. Bill Coors, 68, relinquished his title of CEo but retained his position as chairman Joe Coors, 67, stepped down as president but remained the com pany's vice chairman. Joe's sons, Jeff, 40, and Peter, 38, took over as presidents of the holding company and the Brewing Division, respectively. All four members of the Coors family remained on the board; the other five directors were also insiders. The younger members of the Coors family believed that the company's traditional strengths in p had to be supplemented with attention to and expertise marketing skills. roduction Peter Coors had, fact, ast the first company's history in against the retention of a hard-to-open press tab on its beer cans Peter and Jeff were also expected to steer clear the that the older members of the family had periodically from March 1984: Mountain alleged that Coors had told an audience of more than 100 minority businessmen that blacks "lack the inte capacity to succeed' Bill Coors insisted that he had been grossly misquoted. Under the new Coors had committed itsclf spending with minority vendors and distributors hiring minority employees, and supporting local communities that had rest to it in brewing, and the changes been made between 1975 and 1985. Exhibit 10 summarizes the vital statistics of the Brewing Division over the 1975-1985 period

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตั้งเค้าอยู่ส่วนของ Adolph Coors Adolph Coors, Sr. เปิดประตูของโรงเบียร์ของเขาทอง โคโลราโด ใน 1873 บริษัทเบียร์ของเขาได้ผ่าน Prohibition โดยเบียร์ใกล้ นม malted ซีเมนต์ และ poroelain Adolph Coors จูเนียร์ เอาไปในปีพ.ศ. 2472 เมื่อบิดาเสียชีวิต สี่ปีต่อมา Prohibition ถูก repealed ปี Coors ขาย 90000 บาร์เรลของเบียร์ ยังห้องค้าส่งอิสระเป็นครั้งแรก และเริ่มขายนอกโคโลราโด โดยเพิ่มอริโซนาเพื่อดินแดนของการกระจาย ในระหว่างช่วงทศวรรษ 1930, Coors เริ่มขายเบียร์ในอเมริกาตะวันตก 8 อื่น ๆ: แคลิฟอร์เนีย ไอดาโฮ แคนซัส เนวาดา นิวเม็กซิโก โอคลาโฮมา ยูทาห์ และ ไวโอมิง 1941 จะนำป้ายชื่อของพรีเมี่ยม "เลี้ยง" และในค.ศ. 1948 มันเริ่มกลิ้งในเท็กซัส มันขังตัวเองกับรัฐ 11 ผ่าน 1975 ขายของ Coors ของเบียร์ได้ไปจากถัง 137,000 ในถัง 1940-666,000 โดย 1950 ระหว่าง 1951 และ 1974, Coors ปริมาณกำไรอย่างต่อเนื่องปีต่อปีปริมาณที่ลงรายการบัญชีแล้ว 1.9 ล้านบาร์เรล โดย 1960,73 ล้านบาร์เรล โดย 1970, 12 3 ล้านบาร์เรล โดย 1974 นักวิเคราะห์หนึ่ง ให้ข้อคิดเห็นบน 16% ROS ที่ Coors ได้ลงรายการบัญชีในปี 1972 กล่าวว่า "มันเป็นบริษัทส่วนตัวสุดในอเมริกา ถนนจ่ายใด ๆ หลายสำหรับหุ้นที่" พร้อมติดที่ได้พัฒนาขึ้นรอบเดียวของบริษัทแบรนด์ พรีเมี่ยมเลี้ยง Coors (มักจะเรียกว่าเพียง Coors) นิวแมน Paul และอีสต์วูด Clint ยืนยันต้องมีตำแหน่ง เจอรัลด์ฟอร์ดและเฮนรีคิสซินเจอร์บินนักศึกษาหลังกรณีนอกเขต 11 รัฐกระจายของ Coon จ่าย premia ของหลายร้อยเปอร์เซ็นต์สำหรับอุปกรณ์ bootlegged Concemed เกี่ยวกับการรักษาคุณภาพ (ie., แช่แข็งสม่ำเสมอ), Coors วางโฆษณาที่ผิดปกติแม้ในวอชิงตันโพสต์: "กรุณาไม่ซื้อเบียร์ของเรา ในปี 1975 ปริมาตรของ Coor ลดลงครั้งแรกในทศวรรษที่สอง: การ 11.9 ล้านบาร์เรล เวลาประมาณเดียวกัน มันเริ่มเพิ่มใหม่อเมริกาดินแดนของแจก: กลายเป็นตำแหน่งอย่างเป็นทางการ "เราต้องไปประเทศมันทำให้รู้สึกทางการเงิน ตั้งแต่นั้น การเจริญเติบโตและผลกำไรมาภายใต้แรงกดดัน มีมูลค่าของตลาด ครอบครัว Coors ได้ก่อนเสนอให้หุ้นทั้งหมดของ nonvoting-ประชาชนในเดือน 1975 มิถุนายนเพื่อจ่ายบิลภาษีมรดกเป็น $50 ล้าน หุ้นที่ขายสำหรับ $25.50 ท้าย 1975 ได้จ่ายเงินปันผลค่าหุ้นผู้ถือหุ้นทั้งหมด 936 ล้านดอลลาร์ที่สิ้นปี g correspondin $26.46 ต่อหุ้น การ และบริษัทได้ตั้งเป้าหมายของการส่งคืน after-tax 10% ผู้ถือหุ้น ใน 1985 พฤษภาคม การดำเนินงานของบริษัทได้ทางมอบให้รุ่นที่สี่ของครอบครัว Coors ตั๋ว Coors, 68, relinquished เขาชื่อ CEo แต่รักษาตำแหน่งของเขาเป็นประธานโจ Coors, 67 ก้าวลงเป็นประธานแต่ยังคง com เพนี่เป็นรองประธาน โจบุตร เจฟ 40 และปีเตอร์ 38 เอาไปเป็นประธานาธิบดีของบริษัทโฮลดิ้งและส่วนที่ทำการหมัก ตามลำดับ สมาชิกทั้งหมด 4 ตระกูล Coors ยังคงอยู่บนกระดาน กรรมการอื่น ๆ ห้ายังมีบุคคลภายใน อายุสมาชิกของครอบครัว Coors เชื่อว่า จุดแข็งดั้งเดิมของบริษัทใน p ได้ถูกเสริม ด้วยความสนใจและความเชี่ยวชาญการตลาดทักษะ roduction Coors ปีเตอร์ได้ จริง ast แรกบริษัทประวัติกับการเก็บรักษาของแท็บกดเปิดยากในกระป๋องเบียร์ของปีเตอร์และเจฟฟ์ได้ยังต้องคัดท้ายชัดเจนที่มีสมาชิกเก่าของครอบครัวเป็นระยะ ๆ จาก 1984 มีนาคม: เขาถูกกล่าวหาว่า Coors ได้บอกผู้ชมมากกว่า 100 ส่วนน้อยนักที่ดำ "ขาดกำลังในการผลิตจะประสบความสำเร็จ ' Coors ตั๋วยืนยันว่า เขาเคย grossly misquoted ภายใต้ Coors ใหม่ มี itsclf กำหนดให้ใช้กับชนกลุ่มน้อยผู้ขายและผู้จัดจำหน่ายจ้างพนักงานส่วนน้อย และสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นที่มีส่วนเหลือจะทำการหมัก และการเปลี่ยนแปลง การได้ระหว่างปี 1975 และปี 1985 10 แสดงสรุปสถิติชีพของหารทำการหมักในช่วงปี 1975-1985

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ส่วนที่ตั้งเค้าของ Adolph Coors Adolph Coors ซีเนียร์เปิดประตูโรงเบียร์ของเขาในการโกลเด้น, โคโลราโด, ใน 1873 บริษัท เบียร์ของเขาได้ผ่านการห้ามโดยการใกล้เบียร์นม malted, ปูนซีเมนต์และ poroelain Adolph คูร์สจูเนียร์เข้ามาในปี 1929 เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิตสี่ปีต่อมาห้ามถูกยกเลิก; ปีที่คูร์สขาย 90,000 บาร์เรลเบียร์ นอกจากนี้ยังได้รับการแต่งตั้งผู้ค้าส่งที่เป็นอิสระเป็นครั้งแรกและเริ่มขายนอกโคโลราโดโดยการเพิ่มแอริโซนาไปยังดินแดนกระจาย ในช่วงทศวรรษที่ 1930, คูร์สเริ่มที่จะขายเบียร์ในแปดประเทศตะวันตกอื่น ๆ : แคลิฟอร์เนีย, Idaho, แคนซัส, เนวาดา, New Mexico, โอคลาโฮมา, ยูทาห์และไวโอมิงในปี 1941 จะนำพรีเมี่ยม "งานเลี้ยง" ฉลาก และในปี 1948 ก็เริ่มกลิ้งเข้าไปในเท็กซัส มันถูกคุมขังตัวเองให้กับผู้ที่ 11 รัฐผ่าน 1975 ยอดขายของเบียร์คูร์สได้เพิ่มขึ้นจาก 137,000 บาร์เรลในปี 1940 เพื่อ 666,000 บาร์เรลโดยระหว่างปี 1950 1951 และ 1974 คูร์สโพสต์ปริมาณปริมาณกำไรปีต่อปีต่อเนื่องถึง 1,900,000 บาร์เรลโดย 1960,73 ล้านบาร์เรลจากปี 1970 และ 12 3000000 บาร์เรลจากปี 1974 นักวิเคราะห์คนหนึ่งแสดงความคิดเห็นใน ROS 16% ที่คูร์สได้โพสต์ในปี 1972 กล่าวว่า "มันเป็น บริษัท เอกชนที่ดีที่สุดในอเมริกา, ถจ่ายใด ๆ สำหรับหลายหุ้นที่." ขลังมีการพัฒนารอบยี่ห้อเดียวของ บริษัท พรีเมี่ยมคูร์สจัดเลี้ยง (มักจะเรียกว่าเพียงแค่คูร์ส) Paul Newman และ Clint Eastwood ยืนยันว่ามันมีตำแหน่งโดย; เจอราลด์ฟอร์ดและ Henry Kissinger บินกลับกรณีนักศึกษานอกอาณาเขตกระจาย 11 รัฐคูนจ่าย Premia หลายร้อยเปอร์เซ็นต์สำหรับอุปกรณ์ลักลอบ (. เช่นเครื่องทำความเย็นที่สอดคล้องกัน) Concemed เกี่ยวกับการรักษาคุณภาพคูร์สแม้จะวางโฆษณาผิดปกติในวอชิงตันโพสต์: "กรุณาอย่าซื้อเบียร์ของเราในปี 1975 ปริมาณการ Coor ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบสองทศวรรษที่ผ่านมา:. 11.9 ล้านบาร์เรล ที่ประมาณในเวลาเดียวกันมันก็เริ่มเพิ่มรัฐใหม่ไปยังดินแดนจัดจำหน่าย: ตำแหน่งอย่างเป็นทางการของมันกลายเป็นว่า "เราไม่ต้องการที่จะไปแห่งชาติถ้ามันทำให้ความรู้สึกทางการเงิน ตั้งแต่นั้นมาการเจริญเติบโตและการทำกำไรของ บริษัท ได้มาภายใต้ความกดดันในขณะที่มีการประเมินมูลค่าตลาด ครอบครัวคูร์สได้นำเสนอครั้งแรกหุ้นทั้งหมดของมัน nonvoting เพื่อประชาชนในมิถุนายน 1975 เพื่อยุติ $ 50,000,000 ภาษีมรดก BIL หุ้นที่ขายได้สำหรับ $ 25.50 ณ สิ้นปี 1975 ที่ได้มีการจ่ายค่าเงินปันผลของผู้ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นทั้งหมดคือ $ 936,000,000 ในช่วงปลายปีที่ correspondin g เพื่อ $ 26.46 ต่อหุ้นและ บริษัท ฯ ได้ตั้งตัวเองเป้าหมายของการหลังการ 10% การคืนภาษีของผู้ถือหุ้น ในเดือนพฤษภาคมปี 1985 การดำเนินงานของ บริษัท ฯ ถูกส่งอย่างเป็นทางการไปยังรุ่นที่สี่ของครอบครัวคูร์ส บิลคูร์ส, 68, ถูกทิ้งร้างชื่อของเขาจากซีอีโอ แต่ก็ยังคงตำแหน่งของเขาในฐานะประธานโจคูร์ส 67 ก้าวลงมาเป็นประธาน แต่ยังคงรองประธาน pany คอมฯ บุตรชายของโจเจฟฟ์, 40, และปีเตอร์, 38, เข้ามาในฐานะประธานาธิบดีของ บริษัท ผู้ถือหุ้นและกอง Brewing ตามลำดับ ทั้งสี่สมาชิกของครอบครัวคูร์สยังคงอยู่บนกระดาน; อีกห้ากรรมการนั้นยังมีบุคคลภายใน สมาชิกที่มีอายุน้อยกว่าของครอบครัวคูร์สเชื่อว่าจุดแข็งแบบดั้งเดิมของ บริษัท ในพีจะต้องมีการเสริมด้วยความสนใจและทักษะความเชี่ยวชาญด้านการตลาด roduction ปีเตอร์คูร์สมีความเป็นจริง AST ประวัติ บริษัท แรกในกับการเก็บรักษาของกดที่ยากต่อการเปิดแท็บกระป๋องเบียร์ปีเตอร์และเจฟฟ์นอกจากนี้ยังคาดว่าจะคัดท้ายชัดเจนที่สมาชิกเก่าของครอบครัวได้เป็นระยะ ๆ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 1984: เมาน์เทนถูกกล่าวหาว่าคูร์สได้บอกกับผู้ชมกว่า 100 ธุรกิจของชนกลุ่มน้อยที่คนผิวดำ "ขาดความจุ inte จะประสบความสำเร็จ 'บิลคูร์สยืนยันว่าเขาได้รับการ misquoted ไม่มีการลดภายใต้ใหม่คูร์สมีความมุ่งมั่น itsclf การใช้จ่ายกับผู้ขายของชนกลุ่มน้อยและผู้จัดจำหน่ายการจ้างงาน. พนักงานของชนกลุ่มน้อยและการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นที่มีส่วนที่เหลือไปในเบียร์และการเปลี่ยนแปลงที่ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1975 และปี 1985 จัดแสดงนิทรรศการ 10 สรุปสถิติที่สำคัญของกอง Brewing ในช่วง 1975-1985

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กองเบียร์ Coors Coors อดอล์ฟ อดอล์ฟ ซีเนียร์ เปิด ประตูของโรงเบียร์ของเขาในโกลเด้น , โคโลราโด ใน 1873 เขาห้ามทำเบียร์ บริษัท ได้ผ่านใกล้เบียร์ เครื่องดื่มผสมนมและไอศรีม ซีเมนต์ และ poroelain . Adolph Coors จูเนียร์ ยึดใน 1929 เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิต สี่ปีต่อมาได้ยกเลิกข้อห้าม ; ปีที่ขาย 90 , 000 บาร์เรลของเบียร์ Coors .นอกจากนี้ยังแต่งตั้งค้าส่งครั้งแรกที่เป็นอิสระและได้เริ่มขายข้างนอกโคโลราโดแอริโซนาดินแดนโดยการเพิ่มการกระจายของ ในช่วงทศวรรษที่ 1930 , Coors เริ่มขายเบียร์ในแปดอื่น ๆตะวันตก รัฐแคลิฟอร์เนีย ไอดาโฮ , แคนซัส , Nevada , New Mexico , โอคลาโฮมา , ยูทาห์และไวโอมิ่ง ในปี 1941 , แนะนําของพรีเมี่ยมป้าย " จัดเลี้ยง " และในปี 1948 , มันเริ่มกลิ้งในเท็กซัสมันคับตัวที่ 11 รัฐผ่าน 1975 ขาย Coors เบียร์ได้กระโดดลงมาจาก 137000 บาร์เรลใน 1940 เพื่อ 666000 บาร์เรลโดย 1950 และระหว่าง 1951 1974 , Coors โพสต์อย่างต่อเนื่องทุกปี ปริมาณเพิ่มปริมาณถึง 1.9 ล้านบาร์เรล โดย 1960,73 ล้านบาร์เรล โดยปี 1970 , และ 12 3 ล้านบาร์เรล โดยปี พ.ศ. 2517 หนึ่งนักวิเคราะห์ให้ความเห็นเกี่ยวกับผลตอบแทน 16% ที่ Coors มีโพสต์ใน 1972 , กล่าวว่า ," มันดีที่สุด บริษัท เอกชนในอเมริกา ข. จ่ายหลายหุ้น " Mystique ได้พัฒนาไปเป็นแบรนด์ของบริษัทเท่านั้น พรีเมี่ยม Coors เลี้ยง ( มักจะเรียกว่าเพียงแค่ Coors ) พอล นิวแมนและคลินต์ อีสต์วูด ยืนยันในมีสถานที่ ;เจอรัลด์ฟอร์ดและเฮนรี คิสซินเจอร์บินกลับกรณีนักศึกษานอกคูน 11 รัฐกระจายดินแดนจ่าย Premia หลายร้อยเปอร์เซ็นต์ bootlegged ซัพพลาย concemed เกี่ยวกับการรักษาคุณภาพ ( เช่น สอดคล้องกันแช่แข็ง ) , Coors จะวางโฆษณาที่ผิดปกติในวอชิงตันโพสต์ : " โปรดอย่าซื้อเบียร์ของเรา ในปี 1975coor เป็นปริมาณลดลงเป็นครั้งแรกในรอบสองทศวรรษ : 11.9 ล้านบาร์เรล ที่เกะกะ เวลาเดียวกัน มันเริ่มเพิ่มรัฐใหม่ไปยังดินแดนการกระจาย : ตำแหน่งอย่างเป็นทางการกลายเป็น " เราอยากไปชาติถ้ามันทำให้ความรู้สึกทางการเงิน ตั้งแต่นั้นมาการทำกำไรและการเติบโตของมีมาภายใต้ความกดดัน และมีมูลค่าตลาดครอบครัว Coors มีแรกเสนอหุ้นทั้งหมดของ nonvoting ต่อสาธารณชนในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2518 เพื่อชำระภาษีมรดก $ 50 ล้านบิล . หุ้นที่ขายได้สำหรับ $ 25.50 ที่ส่วนท้ายของปี 1975 ได้จ่ายเงินปันผลมูลค่าของผู้ถือหุ้นมูลค่า $ 15 ล้านบาท ณสิ้นปี correspondin g $ 26.46 บาทต่อหุ้น และบริษัทมีการตั้งค่าของตัวเองของเป้าหมาย 10% หลังจากคืนภาษีหุ้นพฤษภาคม 1985 , การดำเนินงานของบริษัทแล้วส่งให้รุ่นที่สี่ของครอบครัว Coors . บิล Coors , 68 , ปลดตำแหน่งซีอีโอ แต่ยังคงดำรงตำแหน่งประธานโจ Coors , 67 , ก้าวลงมาเป็นประธานแต่ยังคง com pany เป็นประธานรอง โจ บุตรชาย เจฟ , 40 และปีเตอร์ , 38 , เอาไปเป็นประธานของ บริษัท โฮลดิ้ง และกองเบียร์ตามลำดับ สมาชิกทั้งสี่ของครอบครัว Coors ยังคงอยู่บนกระดาน ; อื่น ๆห้ากรรมการยังภายใน . สมาชิกที่มีอายุน้อยกว่าของครอบครัว Coors เชื่อว่าจุดแข็งดั้งเดิมของ บริษัท ใน P ต้องเสริมด้วย ความสนใจ และทักษะทางการตลาด ความเชี่ยวชาญ บริษัทปีเตอร์ Coors มีความเป็นจริงAST บริษัทแรกของประวัติศาสตร์กับการเก็บรักษาของยากที่จะกดเปิดแท็บบนกระป๋องเบียร์ ปีเตอร์ และ เจฟฟ์ ยังคาดหวังที่จะคัดท้ายชัดเจนว่าสมาชิกเก่าของครอบครัวได้เป็นระยะ ๆ จาก มีนาคม 2527 :เขาถูกกล่าวหาว่า Coors บอกผู้ชมมากกว่า 100 ชนกลุ่มน้อยนักธุรกิจที่คนผิวดำ " ขาดไม่สามารถประสบความสำเร็จ ' บิล Coors ยืนยันว่าเขาได้รับไม่มีการลด misquoted . ภายใต้ใหม่ Coors มีความมุ่งมั่น itsclf ใช้กับผู้ขาย ชนกลุ่มน้อยและผู้เช่าพนักงานส่วนน้อย และสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ที่ได้พักในเบียร์และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระหว่างปี 1975 และ 1985 แสดง 10 สรุปสถิติสำคัญของแผนกชงผ่าน 1975-1985 ระยะเวลา