Singaporeans claim they are an egal

Singaporeans claim they are an egalitarian society, yet they retain strong hierarchical relationships that can be observed in the relationship between parents and children, teachers and students, and employers and employees.
. This goes back to their important cultural value, group dependence.
. This reliance on hierarchy is drawn from Confucianism, which emphasizes respecting age and status, even blind obedience to one's elders. . In the workplace this is seen in the increased deference that is paid to employees who are older.
. The elderly are always treated with the utmost respect and courtesy.
. Even if you do not personally know the individual, you will be expected to give special consideration.
. Elders are introduced first, are given preferential seating, are given the choicest food, and in general put on a pedestal.
. There was a law passed in 1996 that mandated that children must assume financial responsibility for their elderly parents should the need arise.
. This is indicative of the high status of the elderly and the challenges facing the small country as the next generation becomes more individualistic.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สิงคโปร์เรียกร้องพวกเขามีความคุ้มสังคม แต่พวกเขายังคงมีความสัมพันธ์แบบลำดับชั้นที่แข็งแกร่งที่สามารถมองเห็นได้ในความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองและเด็กครูและนักเรียนและนายจ้างและลูกจ้าง
นี้ไปกลับไปที่คุณค่าทางวัฒนธรรมกลุ่มพึ่งพาสำคัญของพวกเขา
ความเชื่อมั่นในลำดับชั้นนี้ถูกดึงมาจากขงจื้อที่เน้นการเคารพอายุและสถานะแม้การเชื่อฟังคนตาบอดให้ผู้ใหญ่คนหนึ่ง . ในการทำงานนี้จะเห็นในความเคารพที่เพิ่มขึ้นที่จะจ่ายให้กับพนักงานที่มีอายุ.
ผู้สูงอายุได้รับการปฏิบัติเสมอด้วยความเคารพสูงสุดและได้รับความอนุเคราะห์
แม้ว่าคุณจะไม่ทราบว่าบุคคลแต่ละคนที่คุณจะได้รับการคาดว่าจะให้การพิจารณาเป็นพิเศษ
ผู้สูงอายุได้รับการเปิดตัวครั้งแรกจะได้รับที่นั่งพิเศษจะได้รับอาหารที่ดีที่สุดของและวางบนแท่นทั่วไป
มีกฎหมายที่ผ่านมาในปี 1996 ที่ได้รับคำสั่งว่าเด็กจะต้องรับผิดชอบทางการเงินสำหรับพ่อแม่ผู้สูงอายุของพวกเขาควรจะต้องเกิดขึ้น
นี้แสดงให้เห็นถึงสถานะที่สูงของผู้สูงอายุและความท้าทายที่หันหน้าไปทางประเทศเล็ก ๆ ที่เป็นรุ่นต่อไปจะกลายเป็นปัจเจกมากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ยังสิงคโปร์เรียกร้องจะมีสังคม egalitarian แต่พวกเขายังคงความสัมพันธ์แบบลำดับชั้นแข็งแรงที่สามารถพบได้ในความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ และเด็ก ครู และนัก เรียน และนายจ้าง และพนักงาน
. นี้จะกลับไปค่าวัฒนธรรมความสำคัญ กลุ่มพึ่งพา
. ลำดับชั้นนี้พึ่งออกจาก Confucianism ที่เน้น respecting อายุและสถานะ ของผู้สูงอายุแม้แต่คนตาบอดฟัง . ในทำงาน นี้จะเห็นได้ในนั้นได้ยอมตามเพิ่มที่จ่ายให้พนักงานเก่า
ผู้สูงอายุรับการรักษาเสมอ ด้วยความเคารพสูงสุดและความเอื้อเฟื้อ
. แม้ว่าคุณไม่รู้เองว่าแต่ละ คุณจะสามารถคาดว่าจะให้พิจารณาพิเศษ
. ผู้สูงอายุมีการแนะนำครั้งแรก ได้นั่งต้อง มีที่ ให้อาหาร choicest และย้ายทั่วไปในเชิงการ
. มีกฎหมายผ่านในปี 1996 ที่บังคับให้เด็กต้องถือความรับผิดชอบทางการเงินสำหรับครอบครัวผู้สูงอายุควรจำเป็นต้อง เกิดขึ้น
. นี้เป็นตัวชี้ให้เห็นสถานะของผู้สูงอายุและความท้าทายซึ่งประเทศเล็ก ๆ เป็นรุ่นต่อไปกลายเป็นมาก individualistic สูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิงคโปร์อ้างว่าพวกเขาเป็นสังคมที่ความเท่าเทียมกันแต่ยังรักษาความสัมพันธ์แบบลำดับชั้นที่แข็งแกร่งสามารถสังเกตในความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองและเด็กนักเรียนและครูอาจารย์และพนักงานและนายจ้าง
) โรงแรมแห่งนี้ย้อนกลับไปสู่การพึ่งพากลุ่มความคุ้มค่าทางวัฒนธรรมที่สำคัญของพวกเขา
) การพึ่งพาการนี้ในลำดับชั้นมีมาจากลัทธิคำสอนของขงจื้อซึ่งเน้นความเคารพต่ออายุและสถานะแม้จะเชื่อฟังคนตาบอดเป็นหนึ่งของพวกผู้ใหญ่. .... ในสถานที่ทำงานแห่งนี้มีการพบเห็นในความโหยหาเพิ่มขึ้นที่จะจ่ายเงินให้กับพนักงานที่มีอายุมาก.
ผู้สูงอายุได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพอย่างสูงสุดและบริการอยู่เสมอ
) แม้ว่าคุณจะไม่รู้ว่าแต่ละคนที่เป็นส่วนตัวคุณจะได้รับการคาดหวังให้ช่วยให้พิจารณาพิเศษ
) พวกผู้ใหญ่จะนำเสนอมาใช้เป็นครั้งแรกจะได้รับที่นั่งที่ได้รับสิทธิพิเศษจะได้รับอาหารอย่างหลากหลายและโดยทั่วไปใส่ในแนวตั้งได้
) มีกฎหมายที่ผ่านไปในปี 1996 ที่อยู่ในอาณัติว่าเด็กจะต้องรับผิดชอบความรับผิดชอบทางการเงินสำหรับคุณพ่อคุณแม่ผู้สูงอายุของพวกเขาที่จะต้องเกิดขึ้น
) โรงแรมแห่งนี้เป็นตัวบ่งชี้ถึงสถานะของสูงของผู้สูงอายุและความท้าทายที่หันหน้าเข้าหาประเทศที่มีขนาดเล็กที่เป็นรุ่นถัดไปที่จะกลายเป็นปัจเจกนิยมมากขึ้น