A community-based action research a

A community-based action research approach was conducted to answer the research question: How can Jewish Family Service Calgary enhance teamwork and collaborative capacity within their organization? This chapter provides a detailed overview of the inquiry approach, project participants, and explains the inquiry methods, data collection tools, the data collection process, and analysis used to answer the research question. I concluded this chapter with a discussion of ethical considerations surrounding this organizational leadership project.
Inquiry Approach
Community-based action research was a suitable approach for this project because the concept of teamwork and collaboration was evident in both the research question and in the research methodology. Coghlan and Brannick (2009) described action research as a collaborative approach that seeks to provide a climate in which teams work harmoniously and productively to achieve a set of goals. Stringer (2007) described action research as a collaborative and systemic approach to investigation that enables participants to find effective solutions to problems they confront in their everyday lives. According to Stringer, collaboration in action research refers to the active engagement of a research participant in the cyclical research process of inquiry. As participants worked through a three-phase process of observation, reflection, and action, there was an opportunity to develop increased understanding of the issues that confronted them. As participants shared and explored knowledge and experiences and reflected on their situation together, they created solutions to their problems in a constructive and collaborative fashion. My role as a research facilitator was to engage participants in the cyclical research process ―and to support them as they work toward effective solutions to the issues that concern them‖ (Stringer, 2007, p. 24).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธีการวิจัยดำเนินการโดยชุมชนดำเนินการตอบคำถามการวิจัย: วิธีคัลบริการครอบครัวชาวยิวจึงสามารถเพิ่มทำงานเป็นทีมและความร่วมมือภายในองค์กร บทนี้ให้รายละเอียดภาพรวมของวิธีการสอบถาม ผู้เข้าร่วมโครงการ และอธิบายวิธีการสอบถาม เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล กระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ที่ใช้ในการตอบคำถามวิจัย ผมสรุปในบทนี้ ด้วยการสนทนาของสุจริตโดยรอบโครงการเป็นผู้นำขององค์กรนี้วิธีการสอบถามชุมชนดำเนินการวิจัยเป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับโครงการนี้เนื่องจากแนวคิดของการทำงานเป็นทีมและความร่วมมือชัดเจน ในทั้งสองคำถามวิจัย และระเบียบวิธีวิจัย การวิจัยดำเนินการอธิบาย (2009) ที่ Coghlan และ Brannick เป็นวิธีการประสานงานที่มุ่งเน้นให้มีสภาพภูมิอากาศในที่ทำงานทีมอย่างกลมกลืน และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ชุดของเป้าหมาย Stringer (2007) อธิบายการดำเนินการวิจัยเป็นวิธีการทำงานร่วมกัน และระบบการตรวจสอบที่ช่วยให้ผู้เรียนค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพที่พวกเขาเผชิญในชีวิตประจำวัน ตาม Stringer ความร่วมมือในการดำเนินการวิจัยหมายถึงการมีส่วนร่วมงานของผู้เข้าร่วมวิจัยในกระบวนการวิจัยวงจรของการสอบถาม ขณะที่ผู้เข้าร่วมทำงานผ่านกระบวนการสังเกต ภาพสะท้อน และการดำเนินการสามเฟส มีโอกาสที่จะพัฒนาความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นของปัญหาที่เผชิญนั้น เป็นผู้เข้าร่วมที่ใช้ร่วมกัน และสำรวจความรู้และประสบการณ์ และสะท้อนสถานการณ์ของพวกเขาเข้าด้วยกัน พวกเขาสร้างวิธีแก้ไขปัญหาของพวกเขาในรูปแบบสร้างสรรค์ และทำงานร่วมกัน บทบาทของผมเป็นวิทยากรการวิจัยคือการ มีส่วนร่วมผู้เข้าร่วมใน ―and การวิจัยวงจรการสนับสนุนพวกเขาขณะทำงานเพื่อแก้ปัญหามีประสิทธิภาพเป็นที่ them‖ กังวล (Stringer, 2007, p. 24)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีการดำเนินการวิจัยชุมชนตามได้ดำเนินการที่จะตอบคำถามการวิจัย: วิธีครอบครัวชาวยิวบริการคัลสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีมและความสามารถในการทำงานร่วมกันภายในองค์กรของพวกเขา? บทนี้ให้ภาพรวมรายละเอียดของวิธีการสอบถามผู้เข้าร่วมโครงการและอธิบายวิธีการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเครื่องมือการเก็บรวบรวมข้อมูลกระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ที่ใช้ในการตอบคำถามการวิจัย ผมสรุปบทนี้ด้วยการอภิปรายในการพิจารณาจริยธรรมโดยรอบโครงการนี้เป็นผู้นำขององค์กร.
วิธีการสอบถาม
การวิจัยเชิงปฏิบัติการชุมชนเป็นแนวทางที่เหมาะสมสำหรับโครงการนี้เพราะแนวคิดของการทำงานเป็นทีมและการทำงานร่วมกันได้อย่างชัดเจนทั้งในคำถามการวิจัยและในระเบียบวิธีวิจัย Coghlan และ Brannick (2009) อธิบายการวิจัยเชิงปฏิบัติการเป็นแนวทางความร่วมมือที่พยายามที่จะให้สภาพภูมิอากาศในที่ทีมงานทำงานอย่างกลมกลืนและมีประสิทธิภาพเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของชุดที่ สน (2007) อธิบายการวิจัยดำเนินการตามวิธีการทำงานร่วมและระบบการตรวจสอบที่จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมที่จะหาโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาที่พวกเขาเผชิญในชีวิตประจำวันของพวกเขา ตามที่สนความร่วมมือในการวิจัยเชิงปฏิบัติการหมายถึงการมีส่วนร่วมที่ใช้งานของผู้เข้าร่วมการวิจัยในขั้นตอนการวิจัยวัฏจักรของการสอบสวน ในฐานะที่เป็นผู้เข้าร่วมทำงานผ่านกระบวนการสามเฟสของการสังเกตการสะท้อนและการกระทำที่มีโอกาสที่จะพัฒนาความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นของปัญหาที่เผชิญหน้ากับพวกเขา ในฐานะที่เป็นผู้เข้าร่วมใช้ร่วมกันและการสำรวจความรู้และประสบการณ์และสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ของพวกเขาด้วยกันพวกเขาสร้างการแก้ปัญหาของพวกเขาในรูปแบบที่สร้างสรรค์และการทำงานร่วมกัน บทบาทของผมในฐานะผู้อำนวยความสะดวกการวิจัยคือการมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมในกระบวนการวิจัยและอื่นวัฏจักรการสนับสนุนพวกเขาขณะที่พวกเขาทำงานไปสู่การแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพในการปัญหาที่กังวลthem‖ (สน 2007, น. 24)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชุมชนปฏิบัติการ การวิจัย มีวัตถุประสงค์เพื่อตอบคำถามวิจัยว่าสามารถเพิ่มความสามารถการทำงานเป็นทีมครอบครัวชาวยิวบริการคาลการีและร่วมกันภายในองค์กรของพวกเขา บทนี้ให้ภาพรวมของรายละเอียดสอบถามวิธีการเข้าร่วมโครงการและอธิบายถึงการสอบถามวิธีการ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ที่ใช้เพื่อตอบคำถามการวิจัย ผมสรุปบทนี้ด้วยการอภิปรายของจรรยาบรรณรอบนี้องค์การ ผู้นำโครงการวิธีการสอบถามการวิจัยเชิงปฏิบัติการโดยชุมชนเป็นแนวทางที่เหมาะสมสำหรับโครงการนี้ เพราะแนวคิดของการทำงานเป็นทีม และการได้ชัดเจนทั้งในการวิจัยและระเบียบวิธีการวิจัย ค็อกเลิน และ brannick ( 2009 ) อธิบายการวิจัยเชิงปฏิบัติการเป็นแนวทางความร่วมมือที่มุ่งที่จะให้บรรยากาศที่ทีมงานอย่างกลมกลืนและกลุ่มเพื่อให้บรรลุการตั้งค่าเป้าหมาย ริงเกอร์ ( 2007 ) อธิบายการวิจัยเชิงปฏิบัติการเป็นร่วมกัน และระบบการตรวจสอบที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมเพื่อหาโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพในปัญหาที่พวกเขาเผชิญในชีวิตประจําวัน . ตามแนวความร่วมมือในการทำวิจัย หมายถึง งานหมั้น งานวิจัยที่เข้าร่วมในบริษัทวิจัยกระบวนการสอบสวนของ เป็นผู้เข้าร่วมงานผ่านเฟสที่ 3 กระบวนการการสังเกตการสะท้อนและการกระทำ มี โอกาสที่จะพัฒนาความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นของปัญหาที่เผชิญหน้าพวกเขา ร่วมแบ่งปัน และสำรวจความรู้และประสบการณ์และสะท้อนให้เห็นในสถานการณ์ที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน พวกเขาสร้างวิธีแก้ไขปัญหาของพวกเขาในแฟชั่นที่สร้างสรรค์ และร่วมกัน บทบาทของผมในฐานะผู้ประสานงานวิจัยเพื่อดึงดูดผู้เข้าร่วมในกระบวนการวิจัยวัฏจักรผมอยากและสนับสนุนพวกเขาเป็นพวกเขาทำงานเกี่ยวกับโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพปัญหาที่กังวลพวกเขา‖ ( เสียง , 2550 , หน้า 24 )