STEP 2. COST OUT THE LISTThis invol

STEP 2. COST OUT THE LIST
This involves determining how much it will cost to carry out the activities listed
in Step 1. Obviously, there are some basic costs that have to be covered just
to keep the organization going. There are the facility expenses, core staff
salaries, and expenses related to the basic programs that were established in the
past and which are still needed. Each of these programs and activities must be
carefully evaluated for cost and impact so that rational decisions can be made
about the continuation of such programs. In addition, the expenses and impact
associated with new activities must also be evaluated.
There are two approaches commonly used to develop costs:
1. The first approach is called the incremental budgeting method and
leans heavily on information contained in the previous year’s actual
expenses and income records. If an organization is carrying out an
activity that has been ongoing for several years, then the easiest way to
prepare a budget for the coming year is to simply consider a percentage
increment for inflation and other cost factors. The percentage increase
or decrease added to the figures contained in the previous years financial
statement (referred to as actuals) then becomes the budget figure for
the new budget.
2. The second approach, called zero-based budgeting, requires that each
line item of a budget be calculated anew. Staff members are told that any
item in the budget will be zero unless they can provide a full justification
for a new budget figure.
Obviously, some combination of these two approaches is desirable in the
budgeting process. It is a waste of time and effort to rely on zero-based
budgeting for programs already in place. On the other hand, implementing new
programs without a full cost estimate would be irresponsible on the part of
management. Costs should always be estimated on the high side. As the costs

of new programs and activities are considered, it should be remembered that
they will add to the central administrative costs. The simple addition of a
program will put added burden on the core staff, supervision, space, and
equipment.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขั้นตอนที่ 2 ต้นทุนออกรายการนี้เกี่ยวข้องกับการกำหนดจำนวนต้นทุนการดำเนินกิจกรรมที่ระบุในขั้นตอนที่ 1 อย่างชัดเจน มีต้นทุนพื้นฐานบางอย่างที่ต้องครอบคลุมเพียงเพื่อให้องค์กรไป มีค่าใช้จ่ายสินเชื่อ เจ้าหน้าที่หลักเงินเดือน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมพื้นฐานที่ก่อตั้งขึ้นในการอดีตและที่ยังจำเป็น แต่ละโปรแกรมและกิจกรรมเหล่านี้ต้องอย่างรอบคอบประเมินต้นทุนและผลกระทบเพื่อให้สามารถทำการตัดสินใจเชือดเกี่ยวกับความต่อเนื่องของโปรแกรมดังกล่าว นอกจากนี้ ค่าใช้จ่าย และผลกระทบเชื่อมโยงกับกิจกรรมใหม่ต้องมีประเมินยังมีสองวิธีที่ใช้ในการพัฒนาต้นทุน:1.วิธีแรกคือวิธีการจัดทำงบประมาณเพิ่มขึ้น และเอนมากในข้อมูลที่มีอยู่ในปีก่อนหน้านี้ของจริงค่าใช้จ่ายและรายได้ระเบียน หากองค์กรดำเนินการกิจกรรมที่ได้รับอย่างต่อเนื่องหลายปี แล้วได้อย่างง่ายดายเตรียมงบประมาณสำหรับปีหน้าจะพิจารณาเพียงเปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อและปัจจัยอื่น ๆ ต้นทุน เพิ่มเปอร์เซ็นต์หรือเพิ่มลดตัวเลขมีอยู่ในปีการเงินงบ (เรียกว่าเป็นจริง) แล้ว กลายเป็นตัวเลขงบประมาณสำหรับงบประมาณใหม่2.วิธีที่สอง เรียกประมาณ zero-based ต้องการที่แต่ละคำนวณรายการของงบประมาณนั้นใหม่ พนักงานจะบอกให้รายการในงบประมาณศูนย์ยกเว้นว่าพวกเขาสามารถให้เหตุผลเต็มสำหรับตัวเลขงบประมาณใหม่อย่างชัดเจน บางทั้งสองวิธีนี้เป็นการสมควรในการกระบวนการจัดทำงบประมาณ มันเป็นการเสียเวลาและความพยายามพึ่ง zero-basedจัดทำงบประมาณสำหรับโปรแกรมที่อยู่ในสถานที่ บนมืออื่น ๆ ใช้ใหม่โปรแกรมไม่ มีการประเมินต้นทุนเต็มจะหลายส่วนใหญ่การจัดการ เสมอควรจะประมาณต้นทุนทางด้านสูง เป็นต้นทุนโปรแกรมใหม่และกิจกรรมพิจารณา ควรจะจดจำที่พวกเขาจะเพิ่มค่าใช้จ่ายส่วนกลาง นอกจากนี้เรื่องของการโปรแกรมจะใส่เพิ่มภาระหน้าที่หลัก ดูแล พื้นที่ และอุปกรณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขั้นตอนที่ 2.
ต้นทุนสอบรายชื่อนี้เกี่ยวข้องกับการกำหนดเท่าใดก็จะเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจกรรมที่ระบุไว้ในขั้นตอนที่
1
เห็นได้ชัดว่ามีบางค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่ต้องได้รับการคุ้มครองเพียงเพื่อให้องค์กรที่เกิดขึ้น มีค่าใช้จ่ายในสถานที่หลักพนักงานเงินเดือนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมพื้นฐานที่ถูกจัดตั้งขึ้นในอดีตที่ผ่านมาและยังคงมีความจำเป็น แต่ละโปรแกรมเหล่านี้และกิจกรรมที่จะต้องได้รับการประเมินอย่างระมัดระวังสำหรับค่าใช้จ่ายและผลกระทบเพื่อให้การตัดสินใจที่มีเหตุผลสามารถทำเกี่ยวกับความต่อเนื่องของโปรแกรมดังกล่าว นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายและผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมใหม่ ๆ ยังต้องได้รับการประเมิน. มีสองวิธีที่ใช้กันทั่วไปในการพัฒนาค่าใช้จ่าย: 1 วิธีแรกเรียกว่าวิธีการจัดทำงบประมาณที่เพิ่มขึ้นและโน้มตัวหนักในข้อมูลที่มีอยู่ในที่เกิดขึ้นจริงของปีก่อนหน้าค่าใช้จ่ายและมีการบันทึกรายได้ หากองค์กรมีการดำเนินการออกกิจกรรมที่ได้รับอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีแล้ววิธีที่ง่ายที่สุดในการเตรียมงบประมาณสำหรับปีที่ผ่านมาก็คือการพิจารณาร้อยละที่เพิ่มขึ้นอัตราเงินเฟ้อและปัจจัยอื่นๆ ค่าใช้จ่าย เปอร์เซ็นต์การเพิ่มหรือลดลงเพิ่มตัวเลขที่มีอยู่ในปีก่อนหน้าการเงินคำสั่ง(เรียกว่าจริง) แล้วจะกลายเป็นร่างงบประมาณสำหรับงบประมาณใหม่. 2 แนวทางที่สองที่เรียกว่าการจัดทำงบประมาณ zero-based ต้องว่าแต่ละบรรทัดรายการของงบประมาณมีการคำนวณใหม่ พนักงานจะบอกว่าใด ๆรายการในงบประมาณที่จะเป็นศูนย์จนกว่าพวกเขาจะสามารถให้เหตุผลที่เต็มรูปแบบสำหรับร่างงบประมาณใหม่. เห็นได้ชัดว่าการรวมกันของทั้งสองวิธีการบางอย่างเป็นที่น่าพอใจในกระบวนการจัดทำงบประมาณ มันจะเสียเวลาและความพยายามที่จะพึ่งพาศูนย์ตามงบประมาณสำหรับโปรแกรมแล้วในสถานที่ ในทางกลับกันการดำเนินการใหม่โปรแกรมโดยไม่ต้องมีประมาณการค่าใช้จ่ายเต็มจะขาดความรับผิดชอบในส่วนของการบริหารจัดการ ค่าใช้จ่ายที่ควรได้รับการคาดด้านสูง ขณะที่ค่าใช้จ่ายของโปรแกรมใหม่และกิจกรรมที่ได้รับการพิจารณาก็ควรจะจำได้ว่าพวกเขาจะเพิ่มค่าใช้จ่ายในการบริหารกลาง นอกจากนี้ที่เรียบง่ายของโปรแกรมจะวางภาระเพิ่มเกี่ยวกับพนักงานหลักที่กำกับดูแลพื้นที่และอุปกรณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขั้นตอนที่ 2 รวมรายชื่อ
นี้เกี่ยวข้องกับการกำหนดเท่าใดก็จะเสียค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินการกิจกรรมจดทะเบียน
ในขั้นตอนที่ 1 เห็นได้ชัดว่ามีบางพื้นฐานต้นทุนที่ต้องครอบคลุมแค่
เพื่อให้องค์กรไป มีสถานที่ค่าใช้จ่ายเงินเดือนพนักงาน
หลักและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมพื้นฐานที่ถูกจัดตั้งขึ้นใน
ที่ผ่านมาและที่ยังคงต้องการแต่ละโปรแกรมเหล่านี้และกิจกรรมต้อง
การประเมินอย่างรอบคอบสำหรับค่าใช้จ่ายและผลกระทบเพื่อการตัดสินใจที่มีเหตุผลสามารถทำ
เกี่ยวกับความต่อเนื่องของโปรแกรมดังกล่าว นอกจากนี้ ค่าใช้จ่าย และผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมใหม่

ยังต้องถูกประเมิน มีอยู่สองวิธีที่ใช้กันทั่วไปเพื่อพัฒนาต้นทุน :
1 วิธีแรกเรียกว่าการเพิ่มงบประมาณและวิธีการ
leans หนักในข้อมูลที่มีอยู่ในปีก่อนจริง
ค่าใช้จ่ายและบันทึกรายได้ ถ้าองค์กรมีกิจกรรมออก
ที่ได้รับอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี แล้ววิธีที่ง่ายที่สุด

เตรียมงบประมาณสำหรับปีมาเป็นเพียงแค่พิจารณาเปอร์เซ็นต์
เพิ่มอัตราเงินเฟ้อและปัจจัยต้นทุนอื่น ๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ
หรือลดเพิ่มตัวเลขที่ปรากฏในงบการเงินปีก่อน
( เรียกว่า actuals ) แล้วกลายเป็นตัวเลขงบประมาณงบประมาณใหม่
.
2 วิธีที่สอง เรียกว่า ศูนย์งบประมาณตาม ต้องให้แต่ละ
บรรทัดรายการของงบประมาณถูกคำนวณใหม่ พนักงานบอกว่า
รายการในงบประมาณจะเป็นศูนย์ ถ้าพวกเขาสามารถให้
เหตุผลเต็มสำหรับตัวเลขงบประมาณใหม่
แน่นอนว่าต้องมีการรวมกันของทั้งสองวิธีเป็นที่พึงปรารถนาใน
กระบวนการงบประมาณ มันเป็นเสียเวลาและความพยายามที่จะพึ่งพางบประมาณฐานศูนย์
โปรแกรมแล้วในสถานที่ บนมืออื่น ๆ , การใช้โปรแกรมใหม่
โดยไม่ต้องประมาณการค่าใช้จ่ายเต็มจะไม่รับผิดชอบในส่วนของการจัดการ . ราคาควรจะอยู่ประมาณด้านสูงเป็นค่าใช้จ่าย

โปรแกรมใหม่และกิจกรรมจะถือว่า มันควรจะจำได้ว่า
พวกเขาจะเพิ่มกลาง การบริหารต้นทุน นอกจากนี้ที่เรียบง่ายของ
โปรแกรมจะวางภาระที่เพิ่มพนักงาน หลักการดูแลพื้นที่และ
อุปกรณ์