Indonesia is one of the world’s lar

Indonesia is one of the world’s largest producers of
palm oil and the industry has been the economy’s most
valuable agricultural export sector for the past decade.
The palm oil industry is a significant contributor to
production in Indonesia. In 2008, Indonesia produced
over 18 million tonnes of palm oil. The industry also
contributes to regional development as a significant
source of poverty alleviation through farm cultivation
and downstream processing. Palm oil production provides
a reliable form of income for a large number of
Indonesia’s rural poor, with one source suggesting
that employment generated from palm oil production
in Indonesia could potentially reach over 6 million
lives and take them out of poverty. Over 6.6 million
tonnes of palm oil is produced by smallholders representing
over 41 percent of total palm oil plantations.
In 2006, it was found that around 1.7 to 2 million people
worked in the palm oil industry.
The Indonesian palm oil industry has recently come
under fire from a number of NGOs who have campaigned
against the industry and its perceived contribution
to deforestation, carbon emissions, and
biodiversity loss. As a result, there have been wide
spread complaints that palm oil is not sustainable and
proposals to have all future forest land conversion
halted or restricted.
In May 2010, the Indonesian Government foreshadowed
a two-year moratorium on new concessions to
clear natural forests and peatland under a deal signed
with the Norwegian Government, aimed at reducing
greenhouse gases. In return for the agreement,
Norway has agreed to invest $1 billion in forest
conservation projects in Indonesia. A year prior, the
Indonesian government had announced it would double
palm oil production to 40 million tonnes by 2020.
The successful growth of the Indonesian palm oil
industry will be impacted greatly by any restrictions
on land conversion as well as negative campaigns
targeting the industry. The achievement of the
Indonesian government’s target of doubling oil palm
production will also be significantly impacted by the
moratorium, as some level of land conversion is
required for economic development.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกของน้ำมันปาล์มและอุตสาหกรรมได้รับส่วนใหญ่ของเศรษฐกิจภาคส่งออกเกษตรที่มีคุณค่าสำหรับทศวรรษอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเป็นผู้บริจาคสำคัญผลิตในประเทศอินโดนีเซีย ใน 2008 อินโดนีเซียผลิตกว่า 18 ล้านตันน้ำมันปาล์ม อุตสาหกรรมยังสนับสนุนการพัฒนาภูมิภาคเป็นสำคัญแหล่งที่มาของการบรรเทาความยากจนโดยฟาร์มเพาะปลูกและกระบวนการปลายน้ำ ช่วยให้การผลิตน้ำมันปาล์มแบบที่เชื่อถือได้ของรายได้เป็นจำนวนมากอินโดนีเซียคนจน พร้อมแนะนำแหล่งหนึ่งงานที่สร้างขึ้นจากการผลิตน้ำมันปาล์มในอินโดนีเซียอาจอาจถึงกว่า 6 ล้านชีวิต และนำพวกเขาออกจากความยากจน กว่า 6.6 ล้านตันน้ำมันปาล์มผลิต smallholders แทนกว่า 41 เปอร์เซ็นต์ของผลรวมปาล์มน้ำมันปลูกในปี 2006 พบว่า ประมาณ 1.7 ถึง 2 ล้านคนทำงานในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มอินโดนีเซียเพิ่งมาภายใต้ไฟจากจำนวนองค์กรพัฒนาเอกชนที่มีรณรงค์กับอุตสาหกรรมและสัดส่วนการรับรู้การตัดไม้ทำลายป่า การปล่อยก๊าซคาร์บอน และสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ดังนั้น มีมากมายไปร้องเรียนที่ว่า น้ำมันปาล์มจะไม่ยั่งยืน และข้อเสนอให้ป่าทั้งหมดในอนาคตที่ดินแปลงหยุด หรือจำกัดการพฤษภาคม 2010 รัฐบาลอินโดนีเซีย foreshadowedเป็นการชั่วคราวสองปีในสัมปทานใหม่เพื่อล้างป่าธรรมชาติและ peatland ภายใต้การจัดการระบบกับรัฐบาลนอร์เวย์ มุ่งลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อแลกกับข้อตกลงนอร์เวย์ได้ตกลงที่จะลงทุน 1 พันล้านเหรียญในป่าโครงการอนุรักษ์ในอินโดนีเซีย ปีก่อน การรัฐบาลอินโดนีเซียได้ประกาศจะคู่การผลิตน้ำมันปาล์มไป 40 ล้านตัน โดย 2020ประสบความสำเร็จเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมันในอินโดนีเซียอุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากข้อจำกัดบนแปลงที่ดินรวมทั้งส่งเสริมการขายค่าลบกำหนดเป้าหมายอุตสาหกรรม ความสำเร็จของการเป้าหมายของจะปาล์มน้ำมันของรัฐบาลอินโดนีเซียผลิตจะยังถูกมากรับผลกระทบจากการชั่วคราว บางระดับของแปลงที่ดินเป็นจำเป็นสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกของ
ปาล์มน้ำมันและอุตสาหกรรมได้รับมากที่สุดของเศรษฐกิจ
ภาคการส่งออกสินค้าเกษตรที่มีคุณค่าสำหรับทศวรรษที่ผ่านมา.
อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญในการ
ผลิตในอินโดนีเซีย ในปี 2008, อินโดนีเซียผลิต
มากกว่า 18 ล้านตันจากน้ำมันปาล์ม อุตสาหกรรมยัง
ก่อให้เกิดการพัฒนาในระดับภูมิภาคอย่างมีนัยสำคัญเป็น
แหล่งที่มาของการบรรเทาความยากจนผ่านการเพาะปลูกในฟาร์ม
และการประมวลผลขั้นปลาย การผลิตน้ำมันปาล์มให้
เป็นรูปแบบที่เชื่อถือได้ของรายได้สำหรับจำนวนมากของ
อินโดนีเซียยากจนในชนบทมีแหล่งหนึ่งแนะนำ
การจ้างงานที่เกิดจากการผลิตน้ำมันปาล์ม
ในอินโดนีเซียอาจถึงกว่า 6 ล้าน
ชีวิตและนำพวกเขาออกจากความยากจน กว่า 6,600,000
ตันของน้ำมันปาล์มที่ผลิตโดยเกษตรกรรายย่อยคิดเป็นสัดส่วน
กว่าร้อยละ 41 ของพื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ำมันทั้งหมด.
ในปี 2006 พบว่าทั่ว 1.7-2,000,000 คน
ทำงานในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม.
อินโดนีเซียอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มได้เมื่อเร็ว ๆ นี้มา
ภายใต้ ไฟจากจำนวนขององค์กรพัฒนาเอกชนที่มีการรณรงค์
ต่อต้านการอุตสาหกรรมและการมีส่วนรับรู้
ในการตัดไม้ทำลายป่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนและ
การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นผลให้มีการกว้าง
ร้องเรียนการแพร่กระจายน้ำมันปาล์มที่ไม่ยั่งยืนและ
ข้อเสนอที่จะมีการแปลงพื้นที่ป่าไม้ในอนาคต
หยุดหรือ จำกัด .
ในเดือนพฤษภาคม 2010 รัฐบาลอินโดนีเซียคาดเดา
ประกาศพักชำระหนี้สองปีในการให้สัมปทานใหม่เพื่อ
ล้างป่าธรรมชาติและ ป่าพรุภายใต้ข้อตกลงที่ลงนาม
กับรัฐบาลนอร์เวย์มุ่งเป้าไปที่การลดการ
ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในทางกลับกันสำหรับข้อตกลงที่
นอร์เวย์ได้ตกลงที่จะลงทุน $ 1 พันล้านป่า
โครงการอนุรักษ์ในอินโดนีเซีย ปีก่อน
รัฐบาลอินโดนีเซียได้ประกาศว่าจะเป็นสองเท่าของ
การผลิตน้ำมันปาล์มถึง 40 ล้านตันในปี 2020.
การเจริญเติบโตที่ประสบความสำเร็จของน้ำมันปาล์มอินโดนีเซีย
อุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบอย่างมากโดยข้อ จำกัด ใด ๆ
เกี่ยวกับการแปลงที่ดินเช่นเดียวกับแคมเปญเชิงลบ
การกำหนดเป้าหมายอุตสาหกรรม ความสำเร็จของ
เป้าหมายที่รัฐบาลอินโดนีเซียของสองเท่าน้ำมันปาล์ม
ผลิตนอกจากนี้ยังจะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญโดยการ
เลื่อนการชำระหนี้ในระดับของการแปลงที่ดินบางส่วน
ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อินโดนีเซีย เป็นหนึ่งของโลกที่ใหญ่ที่สุดผู้ผลิต
ปาล์มน้ำมันและอุตสาหกรรมได้รับเศรษฐกิจของภาคเกษตรที่มีการส่งออกมากที่สุด

สำหรับทศวรรษที่ผ่านมา อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญ

การผลิตในประเทศอินโดนีเซีย ใน 2008 , อินโดนีเซียผลิต
มากกว่า 18 ล้านตันของน้ำมันปาล์ม อุตสาหกรรมยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาภูมิภาคเป็น

ที่สำคัญแหล่งที่มาของการแก้ไขปัญหาความยากจน ผ่านฟาร์ม
การเพาะปลูกและการประมวลผลด้านท้ายน้ำ การผลิตน้ำมันปาล์มให้
ที่เชื่อถือได้รูปแบบของรายได้สำหรับตัวเลขขนาดใหญ่ของ
อินโดนีเซียคนจนในชนบท ที่มีคนมาแนะนำ
ที่การจ้างงานที่เกิดจากการผลิตน้ำมันปาล์มในอินโดนีเซียอาจเข้าถึงกว่า

6 ล้านชีวิต และพาพวกเขาออกจากความยากจน กว่า 6.6 ล้าน
ตันของน้ำมันปาล์มที่ผลิตจากสวนยางกว่าร้อยละ 41 ของทั้งหมดแทน

ปลูกต้นปาล์มน้ํามัน ในปี 2549 พบว่า ประมาณ 1.7 ถึง 2 ล้านคนที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม
.
อินโดนีเซียอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มได้เพิ่งมา
ภายใต้ไฟจากหมายเลขขององค์กรพัฒนาเอกชน ที่ได้รณรงค์
กับ อุตสาหกรรมและการรับรู้การสนับสนุน
กับการตัดไม้ทำลายป่า การปล่อยก๊าซคาร์บอนและ
การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ . เป็นผลให้มีการกระจายกว้าง
เรื่องร้องเรียนว่าน้ำมันปาล์มจะไม่ยั่งยืน และเสนอให้มีการแปลงพื้นที่ป่า

ในอนาคตทั้งหมดระงับหรือจำกัด .
พฤษภาคม 2010 , รัฐบาลอินโดนีเซีย foreshadowed
สองยกเลิกสัมปทานใหม่ในป่าธรรมชาติ

ชัดเจนและพรุภายใต้ข้อตกลงลงนาม
กับรัฐบาลนอร์เวย์ ที่มุ่งลด
ก๊าซเรือนกระจกเพื่อแลกกับข้อตกลง
นอร์เวย์ได้ตกลงที่จะลงทุน $ 1 พันล้านในป่า
โครงการอนุรักษ์ในอินโดนีเซีย ปีก่อน ,
รัฐบาลอินโดนีเซียได้ประกาศจะคู่
การผลิตน้ำมันปาล์มถึง 40 ล้านตัน ในปี 2020 .
การเจริญเติบโตความสำเร็จของอินโดนีเซียปาล์มน้ำมัน
อุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยข้อ จำกัด ใด ๆ แปลงที่ดินรวมทั้ง

ลบแคมเปญเป้าหมายอุตสาหกรรม ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษของเป้าหมายของรัฐบาล

เพิ่มการผลิตน้ำมันปาล์มจะมีผลกระทบจาก
ยกเลิกเป็นบางระดับของแปลงที่ดิน
ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจ